posttoday

สแกนกรรม...รับความรวย

11 เมษายน 2561

“รวย” คำนี้ใครๆ ก็อยากมี อยากเป็น แต่จะได้มี ได้เป็น หรือมีอยู่แล้วจะรักษาเอาไว้ให้ยั่งยืนได้หรือไม่เป็นเรื่องท้าทาย เพราะสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเราล้วนๆ

จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

“รวย” คำนี้ใครๆ ก็อยากมี อยากเป็น แต่จะได้มี ได้เป็น หรือมีอยู่แล้วจะรักษาเอาไว้ให้ยั่งยืนได้หรือไม่เป็นเรื่องท้าทาย เพราะสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของเราล้วนๆ

ในงาน “ตลาดนัดบินคุ้ม คุณภาพครบ” ที่หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ จับมือกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29-31 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทางทีมงาน Posttoday Wealth Campus ได้เชิญเหล่าโค้ชชิ่งทางด้านการเงินจากเพจ WPS The Money Coach มาให้เทคนิคดีๆ ผ่านหัวข้อ “สแกนกรรมรับความรวย” ซึ่งเหล่าโค้ชก็ได้ไปสแกนกรรมผู้ร่วมงานพร้อมให้แง่คิดที่น่าสนใจ น่านำไปปรับใช้เพื่อเสริมความรวยในกระเป๋ากัน

หลายคนได้ยินคำว่าสแกนกรรม อาจคิดว่าจะมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องการเงิน ต้องบอกว่าเกี่ยว โดยกรรมหากแปลตรงตัวก็คือการกระทำ วันนี้เราทำอะไร อย่างไรไว้ ส่วนสแกน คือการตรวจสอบ การสแกนกรรมจึงเป็นเหมือนการตรวจสอบว่าเรามีพฤติกรรมด้านการเงินอย่างไรที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จหรือรวย

ขณะที่ความรวยในนิยามของ WPS The Money Coach ไม่ได้วัดที่มีเงินเท่าไร 1 ล้านบาท 10 ล้านบาท หรือมากกว่านั้นจึงเรียกว่ารวย แต่ความรวยวัดกันง่ายมากด้วยเงื่อนไข 3 ประการที่ต้องมีประกอบกันครบ คือ 1.มีเงินใช้ต่อเดือนที่เพียงพอ 2.ต้องไม่พึ่งพาผู้อื่น เป็นเงินที่เราหามาได้ด้วยตัวเอง และ 3.ถึงแม้ว่าเรา ไม่ได้ทำงานแต่ก็ยังมีเงินมาใช้ได้และเพียงพอกับการใช้ต่อเดือนด้วย หากใครมีครบทั้ง 3 ข้อนี้ ก็จัดว่าเป็นคนรวยได้แล้ว

ทั้งนี้ ขั้นตอนมุ่งสู่ความรวย ก็มี 3 ข้อเช่นกัน ข้อแรก หาเงินเก่ง โดยในที่นี้หมายถึงการหาเงินได้ดีโดยที่ตัวเราเหนื่อยน้อยที่สุด อย่างไรก็ดี หากเป็นพนักงานกินเงินเดือนแล้วอาจจะรวยยากเล็กน้อย เพราะมักรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัย มั่นคง จากการที่ทุกเดือนมีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ ทำให้สบายใจ รู้สึกไม่ต้องดิ้นรนค้นหาอะไรอีก แต่ใช่ว่าพนักงานประจำจะรวยไม่ได้

หากเขาเหล่านั้นหาแพสชั่นเจอแล้วไปให้สุดทางก็สามารถรวยได้ โดยแพสชั่นก็คือ เราต้องรู้จักว่า ตัวเรารักที่จะทำอะไร มีความลุ่มหลง หลงใหลในสิ่งที่เรารัก แล้วก็ทำสิ่งนั้นให้สุดทาง ยิ่งยุคนี้ยิ่งทำได้ง่ายขึ้น ไม่เชื่อลองหาช่องทางดู เริ่มจากคิดให้ออกก่อนว่าอะไรคือสิ่งที่เราชอบ

ถ้าใครบางคนนึกขึ้นได้ว่า เราชอบ เล่นเกม แล้วเกมจะทำเงินได้อย่างไร ต้องบอกว่าแม้แต่การเล่นเกมก็ทำเงินได้ ที่ผ่านมามีคนที่ชอบเล่นเกมมาก ใช้วิธีอัดคลิปวิธีเล่นเกมลงยูทูบ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเกมใหญ่โต แม้แต่เกมเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำได้ เมื่อมีคนมาดูคลิปบนยูทูบระดับหนึ่ง คนเล่นเกมเหล่านั้นจะมีรายได้จากยูทูบเข้ามา ไม่เพียงเท่านี้เมื่อตัวเขาเล่นเกมเก่งขึ้นเรื่อยๆ ก็สามารถไปแข่งอี-สปอร์ตระดับประเทศได้ ซึ่งปัจจุบันมีคนไทยไปแข่งเป็นแชมป์อี-สปอร์ตระดับโลกอยู่มาก

ทั้งนี้ ปัจจุบันทั่วโลกแข่งขันเกมชิงเงินรางวัลหลายล้านบาท จนทำให้การเล่นเกมกลายเป็นอาชีพไปแล้ว โดยมีการจ่ายค่าตัวให้ผู้เล่นเกมเพื่อให้มาเป็นสมาชิกในทีมแข่ง เชื่อหรือไม่ว่าหลายคนเป็นนักกีฬาแข่งเกม สามารถสร้างรายได้ต่อปีหลักสิบล้านบาททีเดียว สะท้อนว่าคนที่ชอบเล่นเกมก็รวยได้จากแพสชั่นด้านการเล่นเกม

ขณะที่เงื่อนไขที่ 2 ของความรวยคือ ต้องเก็บเงินอยู่ เพราะการหาเงินเก่งอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบว่าจะทำให้เรารวยได้ แต่เมื่อหาเงินเก่งแล้วเราต้องรู้จักเก็บออมด้วย โดยการออมที่ง่ายที่สุดคือ เมื่อได้เงินมาแล้วให้ออมก่อนเลยแล้วที่เหลือค่อยนำไปใช้เพราะหากไปรอให้เงินเหลือก่อนแล้วค่อยเก็บ โดยมากแล้วก็มักจะไม่ค่อยเหลือ

เงื่อนไขสุดท้ายของความรวย คือ ต้องรู้จักวิธีการลงทุน เพราะถ้าหาเงินเก่ง แต่เก็บเงินไว้ผิดที่ 10 ปีก็ไม่มีวันรวย

ที่ผ่านมาเรามักถูกพร่ำสอนว่า ถ้ามีเงินให้นำไปฝากไว้กับธนาคาร แต่ลองมานึกกันดูกับสภาวะดอกเบี้ยออมทรัพย์ถูกมากในปัจจุบัน หากเรามีเงิน 1 ล้านบาทแรกจะต้องรออีกกี่ปีกว่าเงินก้อนนี้จะโตเท่าตัวเป็น 2 ล้านบาท หรือมีเงินจำนวนหนึ่งอยู่ในกำมือแล้วต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าเงินนี้จะงอกเงยเท่าตัวได้

ประเด็นนี้ WPS The Money Coach ให้สูตรง่ายๆ ไว้ลองคำนวณ คือ ให้นำเลข 72 เป็นตัวตั้ง แล้วหารด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เราได้ เช่น ปัจจุบันได้ดอกเบี้ยออมทรัพย์ 0.25% ต่อปี ถ้าคำนวณตามสูตร หมายความว่า เราต้องใช้เวลาถึง 288 ปี กว่าที่เงินของเราจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวได้ เพียงแค่เราเปลี่ยนวิธีเก็บเงิน จากฝากธนาคารไปอยู่ช่องทางอื่นบ้าง เช่น ไปหาผลตอบแทนปีละ 8% ระยะเวลาที่เงินจะงอกเงยเท่าตัวจะหดเหลือ 9 ปีเท่านั้น

หากยังมองว่า 9 ปียาวนานไป ก็เปลี่ยนวิธีหาผลตอบแทนใหม่ให้ได้เป็น 10% ต่อปี หมายความว่าระยะเวลาที่เราจะมีเงินเพิ่มเท่าตัวจะลดเหลือแค่กว่า 7 ปี

เมื่อทราบแล้วว่าพฤติกรรมมีผลต่อความรวย และความรวยจะเกิดขึ้นต้องประกอบด้วยเงื่อนไขอะไรบ้าง ทีนี้ลองสแกนกรรมกัน มองย้อนกลับมาที่ตัวเองอีกรอบว่า เรามีพฤติกรรมการเงินอย่างไร ซึ่งการสแกนกรรมแบบง่ายที่สุดที่ทุกคนทำกันได้คือ การทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพราะสิ่งนี้เปรียบเสมือนพิมพ์เขียวของชีวิต คือรากฐานที่จะทำให้เรามองเห็นพฤติกรรมตัวเองว่าใช้เงินเป็นอย่างไร

หลังมองพิมพ์เขียวแล้ว หากพบว่า ในอดีตพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองแย่จัง ก็ไม่ต้องเศร้าใจจนคิดว่าชาตินี้ตัวเองจะไม่มีทางรวย เพราะจริงๆ แล้วอดีตไม่สำคัญเท่ากับปัจจุบัน

เพียงแค่เรารู้ว่าอดีตมีพฤติกรรมใดที่ไม่ดีบ้างต่ออนาคตทางการเงิน ก็เริ่มต้นเสียแต่วันนี้ปรับปรุงพฤติกรรม ยิ่งอายุยังน้อยอยู่ก็ยิ่งดี ถ้ารู้วันนี้แล้วก็แปลว่าวันนี้ยังมีโอกาสรวยได้ หากเราเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเองได้ ก็สร้างอนาคตที่ดีได้

จงจำไว้ว่า อดีตไม่ได้บ่งบอกว่าอนาคตเราจะเป็นอย่างไร อยู่ที่ปัจจุบันเราจะทำอย่างไรเพื่อให้อนาคตเราเป็นคนที่ร่ำรวยขึ้นมา ซึ่งทุกคนสามารถรวยได้ และความรวยในที่นี้ไม่ได้วัดที่มีเงินมากหรือเงินน้อย แต่คือการที่คุณมีเงินเพียงพอใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นต้องทำงานอีกต่อไป

ลองไปสแกนกรรมแล้วแก้กรรมให้ได้ เดี๋ยวความรวยจะตามมาเองนะออเจ้าทั้งหลาย

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้