Ocare บริการตรวจสุขภาพที่บ้าน

โดย วราภรณ์ เทียนเงิน

บริการใหม่กับระบบตรวจสุขภาพที่บ้านกับ “โอแคร์” ทำให้การตรวจสุขภาพของลูกค้าได้รับความสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงจะขยายตลาดการดูแลสุขภาพของคนไทยให้แข็งแกร่งมากขึ้น

“พญ.ชุติมา ดุลย์มณี” ซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้ง “Ocare Health Hub” ซึ่งเป็นระบบตรวจสุขภาพทั้งที่บ้านและที่ทำงานกับโอแคร์ ซึ่งจะรายงานผลการตรวจสุขภาพผ่านออนไลน์ 24 ชั่วโมง โดยเป็นรูปแบบบริการใหม่ ที่ยังไม่มีมาก่อนในประเทศไทย ส่งผลให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกมากที่สุด

กลุ่มลูกค้าที่สนใจใช้บริการจะต้องเข้าไปลงทะเบียนผ่าน https://www.ocare.co.th/ เพื่อเลือกจองวันและเวลาที่สะดวก หลังจากนั้นโอแคร์จะส่งนักเทคนิคการแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพ เดินทางไปตรวจสุขภาพถึงที่บ้านหรือที่ทำงาน พร้อมกับมีการเก็บตัวอย่างเลือด และเก็บข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการ ต่อมาจะรายงานผลการตรวจสุขภาพผ่านระบบออนไลน์ให้ลูกค้าทราบผลภายในเวลา 24 ชั่วโมง ถือว่ามีความสะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องทำให้ผู้ใช้บริการต้องเดินทางไกลหรือต้องไป
โรงพยาบาลที่ต้องรอคิวในเวลานาน

สำหรับการให้บริการตรวจสุขภาพได้มีบริการให้ลูกค้าเลือก 3 แบบ ได้แก่ 1.แบบคุ้มค่า (Smart Package) มีความเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายอายุ 25-35 ปี ที่ค้นหาความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ ตรวจเบาหวาน ไขมันในเลือด โรคไต และความดันโลหิตสูง รวม 11 รายการ 2.แบบครอบคลุม (Essential Package) เหมาะสำหรับอายุ 36-45 ปี การตรวจแบบครอบคลุม รวมถึงไขมัน ความดัน เบาหวาน โรคไต ตับ เม็ดเลือด เกาต์ และตรวจปัสสาวะ จำนวน 22 รายการ

3.เต็มรูปแบบ (Full Body Package) เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าอายุ 46 ปีขึ้นไป การตรวจแบบครอบคลุม พร้อมการคัดกรองค่าบงชี้มะเร็ง 5 รายการ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกแบบแพ็กเกจได้ตรงตามความต้องการ หรือเลือกตรวจเฉพาะโรคได้เช่นกัน

ทั้งนี้ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นปี 2561 ที่ผ่านมา โดยระยะแรกจะมีพื้นที่ให้บริการทั้งใน กทม.และปริมณฑล จ.เชียงใหม่ และลำพูน และคาดว่าภายในปี 2561 นี้จะมีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศไทย ซึ่งผลการเปิดให้บริการในช่วงที่ผ่านมา ลูกค้าต่างให้การตอบรับที่ดีต่อเนื่อง

พญ.ชุติมา กล่าวว่า สำหรับการก่อตั้งโอแคร์ในครั้งนี้ มีผู้ร่วมก่อตั้งสองคนคือ ตนเอง และคุณหมออีกหนึ่งท่านคือ “นพ.ธีรพัฒน์ ตันพิริยะกุล” ซึ่งมาจากการพบปัญหาในประเทศไทย ที่มีข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า คนไทยมีการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอในสัดส่วน 2% เท่านั้น และอีก 98% คือ กลุ่มที่ไม่ไปตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งปัญหาที่คนไทยไม่เดินทางไปตรวจสุขภาพประจำปีมาจากเรื่องการเดินทาง และการต้องไปรอคิวเป็นระยะเวลานาน

พญ.ชุติมา กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันจากการที่ตนเองได้อยู่ในวงการสาธารณสุขของประเทศไทย และได้ทำงานในกรมควบคุมโรค ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมาก่อน จึงเข้าใจในเรื่องดังกล่าว และการป้องกันดูแลก่อนเกิดโรคมีความสำคัญอย่างมาก

“การตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอมีความสำคัญ เพราะเป็นแนวทางสำคัญในการช่วยป้องกันการเกิดโรคในอนาคตได้อีกทาง” พญ.ชุติมา กล่าว

ในระยะแรกของการทำตลาด จะเน้นผ่านสื่อออนไลน์เพื่อทำให้กลุ่มลูกค้ารู้จักมากขึ้น และมีการไปออกบูธในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจะต้องมีการแนะนำทำให้ลูกค้าเข้าใจการให้บริการ และการกระตุ้นทำให้กลุ่มลูกค้าสนใจในการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น

“ในขณะนี้จะต้องขยายทีมงาน ทั้งการเพิ่มจำนวนพยาบาลและนักเทคนิคการแพทย์ เพื่อให้รองรับกับความต้องการของลูกค้า และการขยายบริการไปในพื้นที่ให้ครอบคลุมในประเทศ” พญ.ชุติมา กล่าว

นอกจากนี้ ทีมยังได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการเข้าร่วมโครงการ NIST (Northern Innovation Startup) ผลักดันการสร้างธุรกิจ หลังจากนั้นได้เข้าร่วมโครงการของอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือ STEP ที่มีศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการกลุ่มสตาร์ทอัพ โดยโอแคร์อยู่ในกลุ่มสตาร์ทอัพทางด้านเฮลท์เทคของประเทศไทย

จากการที่โอแคร์ได้นำเสนอบริการรูปแบบใหม่ที่ไม่มีมาก่อน และมีความต้องการจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในตลาดอย่างชัดเจน จึงผลักดันทำให้ได้รับรางวัลชนะเลิศ จากการแข่งขันชิงแชมป์สุดยอดสตาร์ทอัพภาคใต้ 2561 จัดโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทีมได้เข้าร่วมประกวดดังกล่าว

ในระยะต่อไป นอกจากจะขยายบริการในพื้นที่ต่างๆ แล้ว ยังสนใจขยายและเพิ่มการให้บริการใหม่ รองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมทำให้กลุ่มลูกค้ารู้จักเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีความสนใจที่จะหาพันธมิตร เพื่อเข้ามาร่วมขยายองค์กร และร่วมผลักดันการสร้างองค์กรในระยะยาว

“การตรวจสุขภาพจะเป็นแนวทางสำคัญในการช่วยดูแลสุขภาพที่ดี เพื่อช่วยหาและตรวจสอบความผิดปกติ อย่างเช่น การที่เราจะต้องเช็กรถในทุกปี เพื่อตรวจสุขภาพของรถยนต์ ดังนั้นการตรวจสุขภาพจึงมีความสำคัญไม่แตกต่างกัน และช่วยปรับพฤติกรรมในการดูแลตนเองด้วย” พญ.ชุติมา กล่าว

พญ.ชุติมา กล่าวต่อว่า บริษัทได้ตั้งเป้าหมายว่าจะผลักดันโอแคร์ให้ก้าวสู่ผู้นำระบบตรวจสุขภาพ ที่สะดวกและมีความคุ้มค่าของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพของลูกค้า พร้อมมีแผนขยายบริการไปเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีความต้องการจำนวนมาก ส่วนในระยะยาวสนใจขยายตลาดออกไปสู่ภูมิภาคอาเซียน ทั้งในประเทศเวียดนาม สิงคโปร์ และกัมพูชา เป็นต้น ซึ่งระบบตรวจสุขภาพจะมีความเหมาะสมอย่างมากกับสังคมเมือง ที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ และมีระยะเวลาจำกัด

เป็นอีกหนึ่งบริการใหม่ของสตาร์ทอัพไทยที่ก่อตั้งโดยทีมคุณหมอทั้งสองคน ที่กำลังเข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในประเทศให้ตื่นตัว สนใจดูแลสุขภาพ และตระหนักถึงการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อสร้างอายุยืนยาวได้อย่างไร้ข้อกังวล