posttoday

AIYA’ แชตบอต เพื่อร้านค้าออนไลน์

30 มีนาคม 2561

สตาร์ทอัพไทยได้เทคโนโลยีแชตบอตมาร่วมผสานพลัง เพื่อสร้างเครื่องมือช่วยการขายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์กับ “AIYA”

วราภรณ์ เทียนเงิน

สตาร์ทอัพไทยได้เทคโนโลยีแชตบอตมาร่วมผสานพลัง เพื่อสร้างเครื่องมือช่วยการขายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์กับ “AIYA”

"อัจฉริยะ ดาโรจน์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ AIYA เปิดเผยว่า AIYA เป็นแพลตฟอร์มแชตบอต (Chatbot) สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่มีฐานลูกค้าในเฟซบุ๊ก (Facebook) และไลน์ (Line) รวมถึงกลุ่มลูกค้าองค์กร จึงเปรียบเสมือนเพื่อนคู่กายร้านค้าออนไลน์ ทำให้สามารถจัดการบริหารลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง และดูแลลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง

แชตบอต “ไอย่า” ได้เปิดตัวและพร้อมให้ลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ได้ใช้บริการแล้ว โดยได้สร้างแฟลตฟอร์มของแชตบอตที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นร้านค้าออนไลน์ ซึ่งมีแชตบอตที่เป็นแบบคอมเมิร์ซ (Commerce) มีการให้บริการทั้งตอบโต้กับลูกค้า ข้อมูลการส่งข้อมูลของผลิตภัณฑ์ การตรวจสอบสถานะของสินค้า ตลอดจนการติดตามเรื่องที่อยู่ หรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่

“อัจฉริยะ” กล่าวว่า แชตบอตที่ได้พัฒนาในปัจจุบันมีประมาณ 5-6 ประเภท โดยนอกจากจะเป็นแบบคอมเมิร์ซแล้ว ยังมีแบบอื่นๆ ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีความต้องการแตกต่างกัน เช่น แชตบอตประเภทการเปิดให้จองบริการ เป็นต้น จึงช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการในแต่ละกลุ่ม และทำให้การใช้งานมีความคล่องตัวมากที่สุด

การเลือกเจาะตลาดแชตบอตสำหรับกลุ่มลูกค้าร้านค้าออนไลน์ เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในประเทศที่มีจำนวนร่วม 3 ล้านราย มีการใช้เครื่องมือออนไลน์ในการทำตลาดลูกค้าประมาณหลักแสนรายเท่านั้น จึงพบช่องว่างในปัญหาดังกล่าวประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคจะมีการใช้งานออนไลน์ผ่านทั้งไลน์และเฟซบุ๊กจำนวนมาก ดังนั้น การมีเครื่องมือมาช่วยเสริมผู้ประกอบการให้สามารถทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสธุรกิจ การเพิ่มกลุ่มลูกค้า การช่วยลดต้นทุน และการสามารถดูแลลูกค้าทุกคนได้พร้อมกันในเวลาเดียวกัน เช่น มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการพร้อมกันร่วมหมื่นคนในเวลาเดียวกันได้อย่างรวดเร็วและไม่เกิดปัญหาตามมาที่จะกระทบต่อการสื่อสาร หรือการเพิ่มยอดขาย

“แต่ละสินค้าจะมีวิธีการซื้อขายที่แตกต่างกัน จึงมีความสำคัญในการพัฒนา Chatbot ให้มีความเก่งมากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้ลูกค้ามีความเข้าใจสามารถพูดคุยและช่วยส่งเสริมการเพิ่มยอดขายสินค้า” อัจฉริยะ กล่าว

ขณะเดียวกัน การเลือกที่จะแชตบอตมาจากแนวโน้มเทคโนโลยีที่กำลังก้าวเข้าสู่จุดดังกล่าว รวมถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) ที่มีความสำคัญมากขึ้นกับผู้ประกอบการและกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงยังสามารถช่วยต่อยอดในการสร้างฐานข้อมูล บิ๊กดาต้า ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงการขายสินค้าในระยะยาว

สำหรับการเลือกทำสตาร์ทอัพในครั้งนี้ เป็นบริษัทใหม่ที่ได้ต่อยอดจากบริษัทเดิมที่ได้ทำก่อนหน้านี้คือ การทำ “Jump Space” ที่เป็นโคเวิร์กคิ้ง สเปซ แห่งแรกใน จ.ขอนแก่น ร่วมกับนักลงทุนในขอนแก่น และต้องการขยายมาทำสตาร์ทอัพเพื่อการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ และต้องการร่วมสร้างคนรุ่นใหม่ที่ทำสตาร์ทอัพออกมาสู่ประเทศมากขึ้น

“อัจฉริยะ” กล่าวต่อว่า ความสนใจในวงการไอทีเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงมัธยมศึกษาตอนปลายที่เริ่มเขียนเว็บไซต์ ทำให้มุ่งเรียนสายดังกล่าวมาต่อเนื่อง พร้อมมีความสนใจร่วมประกวดในโครงการต่างๆ มาต่อเนื่อง ซึ่งได้รับรางวัลทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยได้ร่วมประกวด NSC 2004 และได้รับรางวัลที่ 2 ผลงานพจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์อ่านออกเสียงและสั่งงานด้วยเสียง (E-Dictionary) และ NSC 2009 Best 2009-Thai Word Segmentation รางวัลที่ 2 ผลงานโปรแกรมตัดคำภาษาไทย ที่เป็นการประกวดการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย (National Software Contest : NSC) จัดโดย “ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ” หรือเนคเทค (NECTEC) สวทช.

“ผมเรียนจบมาทางด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ และเลือกทำงานในสายดังกล่าวมาต่อเนื่อง ตั้งแต่การทำงานในบริษัท ซอฟต์แวร์เฮ้าส์ ก่อนเปิดบริษัทของตัวเองในช่วงอายุ 25 ปี ที่พัฒนาดิกชันนารีสามารถชี้และอ่านออกเสียงได้ ต่อมาได้ทำแอพพลิเคชั่นเก่งไทย (Keng Thai) เป็นระบบให้เด็กฝึกคัดลายมือ และได้รับการคัดเลือกได้รับรางวัลอินโนเวทีฟ คิดส์ แอพ จากแอปเปิ้ลในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมียอดการดาวน์โหลดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เฉลี่ยจะมีกลุ่มผู้ใช้บริการใหม่มาดาวน์โหลดประมาณ 300 ราย/วัน และมีลูกค้าที่ใช้บริการแบบสม่ำเสมอ (แอ็กทีฟ) มากกว่า 6 หมื่นราย” อัจฉริยะ กล่าว

ล่าสุด การทำสตาร์ทอัพ “AIYA” ได้เข้าร่วมโครงการเอไอเอส เดอะ สตาร์ทอัพ (AIS The StartUp) ทำให้ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ โดยบริษัทจะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อนำเสนอบริการให้ตรงกับกลุ่มลูกค้ามากที่สุด

ทั้งนี้ ไอย่าได้มีการทำตลาดผ่านออนไลน์เว็บไซต์ http://www.aiya.ai ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก รวมถึงช่องทางไลน์ เพื่อทำให้ลูกค้าได้รู้จักเพิ่มมากขึ้น

“หลายๆ ครั้งที่เราทำผลิตภัณฑ์อาจจะมีอุปสรรค เกิดปัญหา ไม่เป็นไปตามที่วางเป้าไว้ แต่เราจะต้องมีความมุ่งมั่น หรือมี Passion ในเรื่องนี้เราเชื่อมั่นว่า ปัญหานี้ที่มีอยู่ เราจะต้องเป็นผู้เข้าไปแก้ปัญหาให้ได้” อัจฉริยะ กล่าว

ขณะเดียวกัน การทำสตาร์ทอัพที่จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนนั้น สิ่งสำคัญคือการมีความเข้าใจในปัญหาและความต้องการในตลาดอย่างแท้จริง การสร้างสิ่งที่แตกต่างและไม่ทำตามกระแส รวมถึงการมุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรม

“องค์ประกอบสำคัญในการทำสตาร์ทอัพให้ประสบความสำเร็จ จะต้องมีทั้งการมีไอเดียแตกต่าง การมีทีมงานที่ดี การมีแผนธุรกิจที่ชัดเจน การมีแหล่งเงินทุน และการเข้ามาทำตลาดในช่วงเวลาที่เหมาะสม” อัจฉริยะ กล่าว

“อัจฉริยะ กล่าวทิ้งท้ายว่า AIYA เปรียบเสมือนการมีเครื่องมือ โปรแกรมบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (ซีอาร์เอ็ม) หรือการมีทีมนักขายของบริษัทไว้ดูแลลูกค้า เป็นผลดีต่อผู้ประกอบการในการบริหารจัดการธุรกิจ และช่วยเพิ่มยอดขายได้ ซึ่งในอนาคตระยะยาวจะขยายตลาดออกไปในภูมิภาคอาเซียน คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วง 3 ปีข้างหน้า

ข่าวล่าสุด

มติสมช.ย้ำจบปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องคุยกันระดับทวิภาคี