สุทัศน์ ศรีพรม ความจนสร้างแรงบันดาลใจ

โดย วรธาร ทัดแก้ว   ภาพ : กิจจา อภิชนรจเลข

ต้นทุนชีวิตของคนเราที่เกิดมาแต่ละคนย่อมต่างกัน บางคนเกิดมามีความเป็นอยู่สุขสบายตั้งแต่เด็ก ไม่ต้องสู้กับความลำบาก เพราะฐานะครอบครัวดี มีพ่อแม่รวย แต่บางคนเกิดมาในครอบครัวยากจน ชีวิตต้องดิ้นรนต่อสู้กับความยากจน ต่อสู้กับโชคชะตาและวาสนาที่เกิดมาจนเพื่อพลิกชีวิตที่ลำบากให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

ทัต-สุทัศน์ ศรีพรม เจ้าของธุรกิจร้านบูชาสังฆภัณฑ์ ร้านสังฆภัณฑ์ออนไลน์ที่คนในวงการธุรกิจสังฆภัณฑ์ตลอดจนชาวพุทธที่ต้องการหาซื้อหาเครื่องสังฆภัณฑ์ไปทำบุญต่างรู้จักดี โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีมานี้อันดับหนึ่งของกูเกิลเมื่อค้นหาคำว่า สังฆภัณฑ์ออนไลน์ ก็จะเห็นเว็บไซต์ www.boonsangkapan.com ก่อนใคร

สุทัศน์ เป็นนักธุรกิจที่มีความยากจนเป็นต้นทุน แต่ไม่เคยสยบยอมต่อโชคชะตา พยายามฝึกฝนพัฒนาตัวเองเพื่อเอาชนะความจน สู้กับความลำบาก ค่อยๆ สร้างเนื้อสร้างตัว จนกระทั่งวันหนึ่งได้เป็นเจ้าของร้านสังฆภัณฑ์ออนไลน์ที่ฉีกภาพความเป็นร้านสังฆภัณฑ์แบบเดิมๆ สิ้นเชิง พร้อมทั้งยังมีบริการรับจัดงานบุญนอกสถานที่เสริมธุรกิจร้านสังฆภัณฑ์อีกด้วย

ย้อนชีวิตของสุทัศน์ก่อนมาเป็นเจ้าของธุรกิจที่มั่นคง เกิดมาในครอบครัวยากจนในแขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พ่อแม่ไม่มีเงินส่งเรียน จึงได้เลือกทางเดินให้ตัวเองด้วยการบวชเรียนจนสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค สำนักเรียนวัดบุณยประดิษฐ์ กรุงเทพฯ ได้ต้นทุนใหม่คือความรู้ในทางพระพุทธศาสนา จากนั้นหันไปเรียนทางโลก จบ ปวส.การตลาด บริหารธุรกิจ ก่อนลาสิกขาไปทำงานและเรียนต่อปริญญาตรี การตลาด มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ควบคู่ไปด้วย

“ผมเลือกเรียนการตลาดและบริหารธุรกิจ เพราะชอบด้านนี้และชอบไอทีด้วย ขณะเดียวกันก็คิดเสมอว่าถ้ามีโอกาสก็อยากทำธุรกิจ อยากช่วยครอบครัว อยากให้พ่อแม่ ญาติพี่น้องมีความเป็นอยู่ที่ดี ที่สำคัญผมมองว่าการเป็นลูกจ้างคนอื่นไม่มีวันรวย”

การออกไปเผชิญทางโลกของสุทัศน์ในช่วงแรกๆ ไม่ได้ราบรื่นไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จด้วยปัญหาที่แตกต่าง เช่น ขายซิมโทรศัพท์ของค่ายหนึ่ง พอจะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำก็ไม่ได้บรรจุ เป็นเซลส์แมนขายนาฬิกาได้ 3 เดือนก็ต้องลาออก ถูกหลอกให้ทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่เสียเงินฟรี สุดท้ายต้องหันไปพึ่งวัดและอาศัยข้าววัดอยู่พักหนึ่ง ก่อนไปสมัครงานที่ร้านสังฆภัณฑ์ย่านจรัญสนิทวงศ์ที่เพิ่งเปิดใหม่

“ตำแหน่งงานแรกเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด แต่ทำทุกอย่าง ทั้งเดินแจกโบว์ชัวร์ ขายหน้าร้าน เด็กส่งของ เก็บร้าน ทำความสะอาด ต่อมาปีเดียวกัน (ปี 2549) ขึ้นเป็นเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์กราฟฟิก พัฒนาเว็บไซต์ เป็นหัวหน้าฝ่ายศาสนพิธี พิธีกร มัคนายก ช่างภาพ เพราะร้านรับจัดงานบุญด้วย และสุดท้ายเป็นหัวหน้าทีมเปิดร้านสังฆภัณฑ์ แฟรนไชส์ของบริษัท ติดต่อและหาลูกค้า”

สุทัศน์ ย้อนเล่าว่า ไม่ว่าจะถูกดุหรือถูกว่ากล่าว หรือถูกโยกให้ไปทำอะไรไม่เคยบ่นและไม่เคยเกี่ยงงาน และถ้าเห็นว่างานที่ได้รับมอบหมายตัวเองไม่มีความชำนาญก็จะไปฝึกอบรมพิเศษ เช่น งานคอมพิวเตอร์กราฟฟิกดีไซน์ และออกแบบ เป็นต้น เรียกว่าทำงานที่นี่อะไรที่ทำไม่เป็นก็ทำเป็น อะไรไม่ชำนาญก็ชำนาญขึ้น อะไรที่ไม่รู้ก็ได้รู้ เช่น ได้รู้วิธีการบริหาร วิธีการคิดของคนที่เป็นเถ้าแก่ เขาคิดอย่างไร ทำอย่างไร เป็นต้น ต้องขอบคุณร้านที่ทำให้เขาได้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด

“ผมทำอยู่ 6 ปี ก็ลาออก แต่ปีที่ 5 แฟนผมซึ่งทำงานที่เดียวกันได้ลาออกเลยไม่ได้ทำงาน ด้วยความที่ผมถนัดไอทีคอมพิวเตอร์ กราฟฟิกดีไซน์ ออกแบบเว็บไซต์เลยเปิดเว็บไซต์ร้านบูชาสังฆภัณฑ์ให้แฟนทำ เป็นหนูทดลองยาไปก่อน (หัวเราะ) ปรากฏทำเว็บไซต์เดือนเดียวมีลูกค้าโทรสั่งของเยอะและเยอะขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายแฟนทำคนเดียวไม่ไหวก็ตัดสินใจลาออกมาช่วย แต่สาเหตุที่ออกจริงๆ เกิดจากเว็บไซต์ร้านผมติดอันดับของกูเกิล เจ้านายรู้ก็เลยก็ให้เลือกว่าจะทำต่อหรือลาออก ผมเลือกลาออก”

สุทัศน์ เล่าต่อว่า ตอนเปิดเว็บไซต์ร้านสังฆภัณฑ์มีเงินแค่ 3 หมื่นบาท และพักอยู่อพาร์ตเมนต์จึงไม่มีหน้าร้าน แต่ความที่รู้จักโรงงานผลิตสังฆภัณฑ์และรู้จักร้านสังฆภัณฑ์มากมาย จึงไม่มีปัญหาในเรื่องจัดหาสินค้าให้ลูกค้า ขณะที่การจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า บางทีใช้บริการแท็กซี่ บางครั้งก็เช่ารถคนอื่น

“พอลูกค้าเยอะก็ย้ายมาอยู่บ้านเป็นหลังดีขึ้นมาหน่อย เวลาลูกค้ามาหาก็สะดวกขึ้น แต่พอเข้าปีที่ 3 ก็ย้ายออกมาอยู่อาคารพาณิชย์ซึ่งเป็นที่อยู่ปัจจุบัน เป็นร้านค้าออนไลน์เต็มตัว มีสำนักงาน มีหน้าร้าน มีสินค้าหลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ ระบบการวางสินค้าจัดเป็นหมวดหมู่หาง่าย นับจากวันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 5 ปี ปัจจุบันผมมีบริการรับจัดงานบุญนอกสถานที่ด้วย”

สุทัศน์ ยอมรับว่า การที่ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ต้องขอบคุณความจนที่สร้างแรงบันดาลใจให้ได้สู้ชีวิตเพื่อที่จะเอาชนะมัน และต้องขอบคุณพระพุทธศาสนาที่ให้ทั้งชีวิตและจิตใจ และเหนืออื่นใดเขาเชื่อมาตลอดว่าการเป็นลูกจ้างไม่มีวันรวย และไม่มีวันที่จะทำให้ครอบครัวหลุดพ้นไปจากความยากลำบากและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้

“ผมทำงานเงินเดือนแรกเข้าได้ 6,500 ตอนลาออกได้ 1.5 หมื่นบาท แต่พอมาทำธุรกิจเอง แค่เวลา 5 ปี ก็ต้องบอกว่าชีวิตดีขึ้นมาก ครอบครัวมีความเป็นอยู่ดีขึ้น แม่ที่อยู่ลาวก็มีชีวิตที่สุขสบาย ญาติพี่น้องได้มีงานทำ”

ล่าสุด ความสำเร็จของสุทัศน์ได้รับการยกย่องจากมูลนิธิเพื่อสังคมไทยให้เข้ารับรางวัลนักบริหารดีเด่นแห่งปี จาก พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ซึ่งได้จัดมอบที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่วนใครจะไปซื้อสินค้า ร้านตั้งอยู่ถนนกาญจนาภิเษก (ซอยสมาคมปักษ์ใต้) แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ เปิดทำการ เวลา 08.30-17.00 น. วันจันทร์-เสาร์ โทร. 02-885-8115, 08-1448-8585