เคอิชิคาอิ ยกระดับทันตกรรมสู่นานาชาติ
เคอิชิคาอิ อินเตอร์เนชั่นแนลคลินิก คลินิกทันตกรรมสไตล์ญี่ปุ่น เปิดให้บริการกว่า 30 ปี โดยผู้ก่อตั้งชาวญี่ปุ่น
โดย...ปิยนุช ผิวเหลือง
เคอิชิคาอิ อินเตอร์เนชั่นแนลคลินิก คลินิกทันตกรรมสไตล์ญี่ปุ่น เปิดให้บริการกว่า 30 ปี โดยผู้ก่อตั้งชาวญี่ปุ่น ก่อนที่จะเปลี่ยนมือสู่ผู้บริหารชาวไทยเมื่อ 18 ปีก่อน นำไปสู่การปรับเปลี่ยนนโยบายเจาะกลุ่มเป้าหมายชาวไทยและกลุ่มคนไข้ต่างชาติ
ทพ.อุดม อนุรักษ์วงศ์ศรี เจ้าของเคอิชิคาอิ อินเตอร์เนชั่นแนลคลินิก บอกว่า เดิมเคอิชิคาอิ อินเตอร์เนชั่นแนลคลินิก เปิดให้บริการรองรับคนไข้ญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยโดยชาวญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อเปลี่ยนมือสู่การบริการงานของคนไทย จึงเน้นพัฒนาบริการเจาะกลุ่มคนไข้ชาวไทยและนานาชาติ ทั้งนี้เคอิชิคาอิ มีจุดเด่นด้านการมีห้องปฏิบัติการ หรือห้องแล็บของตัวเองอยู่ภายในคลินิก เพื่อให้บริการอย่างครบวงจร ซึ่งในประเทศไทยมีคลินิกลักษณะนี้ไม่เกิน 4 แห่ง
ทั้งนี้ การให้บริการของเคอิชิคาอิ มุ่งเน้นด้านความรวดเร็ว ราคาประหยัด ทนทาน และเพิ่มบริการด้านความสวยงามในการรักษาฟัน และการทำฟันปลอมเข้าไปด้วย เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมาย ชาวไทย เนื่องจากคนไทยให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และความสวยงามของฟัน ภายใต้แนวคิดคนไข้สามารถมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นการออกแบบฟัน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย ทำให้การออกแบบฟันปลอมมีลักษณะจำเพาะของบุคคล เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน
"คนไข้ที่เขามารักษาฟันส่วนใหญ่ มีความกลัวอยู่หลากหลาย ทั้งกลัวเจ็บ กลัวแพง กลัวไม่ดี กลัวไม่ทัน กลัวไม่ทน และกลัวไม่สวย ดังนั้นเราจึงมุ่งแก้ปัญหาเหล่านี้ พัฒนาบริการให้ตรงกับความต้องการของคนไข้มากที่สุด เน้นราคาระดับกลางแต่คุณภาพระดับสูง" ทพ.อุดม ระบุ
เดิมคนไข้ของเคอิชิคาอิ 99% เป็นชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในไทย แต่ปัจจุบันผู้ใช้บริการปรับเป็นชาวไทย 50% และชาวต่างชาติ 50% ได้แก่ ชาวญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ จีน เยอรมนีตะวันออกกลาง และประเทศอื่นๆ โดยเป็นกลุ่มลูกค้าที่บินมารักษาโดยตรงจากคำแนะนำแบบปากต่อปาก เนื่องจากคลินิกไม่ได้เน้นด้านการทำตลาด ทั้งนี้กลยุทธ์ในปี 2561 จะเน้นประชาสัมพันธ์ให้คลินิกเป็นที่รู้จักมากขึ้นทั้งในกลุ่มลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงบริการทันตกรรมที่มีคุณภาพ
สำหรับจุดเด่นของคลินิก นอกเหนือจากมีแล็บเป็นของตนเอง ยังมีปัจจัยสำคัญ 3 ด้าน ที่ดึงดูดผู้ใช้บริการจากต่างชาติให้เข้ามารักษาด้านทันตกรรมในประเทศไทย ได้แก่ 1.ความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ 2.ค่ารักษาพยาบาลไม่แพง และ 3.บริการชั้นเยี่ยม ซึ่งทำให้ประเทศไทยได้รับการไว้วางใจจากชาวต่างชาติ
"คนต่างชาติส่วนใหญ่มารักษาที่นี่โดยการบอกต่อ เพราะเราไม่ได้ทำโฆษณา ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในการรักษาของที่นี่ถูกกว่าในประเทศญี่ปุ่น 30-40% สำหรับออสเตรเลียแล้วแต่ชนิดงาน พบว่างานรากฟันเทียมถูกกว่า 50% งานครอบฟันถูกกว่า 30% ซึ่งต่างประเทศแพงกว่าไทยเพราะค่าบุคลากรทางการแพทย์ แต่ทั้งนี้บุคลากรทางการแพทย์ของไทยก็มีความเชี่ยวชาญระดับโลก จึงเป็นเหตุผลที่เขาเลือกมารักษาที่นี่" ทพ.อุดม กล่าว
นอกจากนี้ ทพ.อุดม ยังเผยถึง เคล็ดลับการเลือกคลินิกที่มีคุณภาพในการดูแลช่องปากว่า ในการใช้วัสดุอุดฟันควรเลือกใช้วัสดุที่ไม่ใช้โลหะ เนื่องจากป้องกันโลหะหนักหลุดเข้าร่างกาย อีกทั้งโลหะยังมีผลทำให้เหงือกดำ และมีรสชาติของโลหะในช่องปาก ดังนั้น เคอิชิคาอิ จึงเลือกใช้วัสดุอโลหะที่แข็งเทียบเท่ากับฟัน และมีสีใกล้เคียงกับฟันมากที่สุด เพื่อความมั่นใจของคนไข้
"อะไรที่เกี่ยวข้องกับปาก ต้องสะอาดและปลอดภัย ดังนั้นสำคัญมากที่ต้องใช้ของมีคุณภาพ" ทพ.อุดม กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ อนาคตคาดการณ์ว่ากลุ่มผู้ใช้บริการของคลินิกยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทยที่ต้องการดูแลสุขภาพในช่องปากมากขึ้น


