กฟผ.ทุ่ม 14 ล.เปลี่ยนน๊อตเสาไฟฟ้าหวังป้องกันขโมย

โพสต์ทูเดย์ - กฟผ. เทงบ 14 ล้านบาท เป้าเปลี่ยนน๊อตเสาไฟฟ้าแบบใหม่ 7,000 ต้นทั่วประเทศ หวังป้องกันโจรกรรม

นายรัตนพงษ์  จงดำเกิง  รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  กล่าวว่า  กฟผ.เตรียมแผนป้องกันปัญหาการโจรกรรมชิ้นส่วนโครงเหล็กเสาไฟฟ้า ตั้งเป้าเปลี่ยนน๊อตที่เชื่อมต่อกับเสาไฟฟ้าแบบตายตัว จำนวน 7,000 ต้น ใช้งบประมาณ  14  ล้านบาท  เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบถอดไปชั่งก.ก.ขายได้

ทั้งนี้สถิติการโจรกรรมชิ้นส่วนเสาโครงเหล็กในช่วงที่ผ่านมามีจำนวน 167 ครั้ง  มีมูลค่าความเสียหาย 4.41  ล้านบาท  และเริ่มมีจำนวนลดลง หลังกฟผ.ได้จัดทำแผนรณรงค์ประชาชนให้เข้าใจถึงความสำคัญของระบบสายส่งไฟฟ้า   ในขณะที่ก่อนหน้านี้พบว่าการขัดข้องของระบบส่งไฟฟ้า ที่เกิดจากการกระทำของคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์  เช่น การโจรกรรมชิ้นส่วนอุปกรณ์เสาส่งไฟฟ้าแรงสูง  การปลูกสิ่งก่อสร้างรุกล้ำแนวเขตสายส่งไฟฟ้าแรงสูง   การเผาไร่อ้อยใต้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เป็นต้น

 “ช่วงที่เศรษฐกิชะลอตัว กฟผ.เจอปัญหาการถอดน๊อตที่เสาไฟฟ้าแรงสูงไปชั่งก.ก. เกือบทุกภาคของประเทศ   ทำให้ต้องหาวิธีป้องกัน  โดยการออกแบบชิ้นส่วนอุปกรณ์ของโครงเหล็กเสาใหม่ เลือกใช้น๊อตที่ขันตายตัว ไม่สามารถถอดได้  ซึ่งน่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาได้     แม้ว่าปัจจุบันราคาเหล็กในประเทศมีราคาลดลงอย่างมากเหลือราคา 3-5 บาท/ก.ก. เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวทำให้ไม่เป็นเหตุจูงใจให้โจรกรรมก็ตาม  แต่ก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีกจึงจำเป็นต้องวางแผนเตรียมพร้อมในระยะยาวไว้”นายรัตนพงษ์ กล่าว

อย่างไรก็ตามระบบสายส่งไฟฟ้ามีความสำคัญกับประเทศ  ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบส่งไฟฟ้า มีหลายปัจจัย  ไม่ใช่เพียงแค่การโจรกรรมชิ้นส่วนเสาไฟฟ้าและทำให้เสาไฟฟ้าล้มเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง การขุดดิน  หรือจุดไฟเผาไร่อ้อยใต้แนวสายส่ง ด้วย ประเด็นเหล่านี้จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้นผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งการลงพื้นที่   ตลอดจนการขอความร่วมมือกับคนในพื้นที่แจ้งเบาะแสการกระทำต่างๆให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบ  ซึ่งจะมีรางวัลนำจับให้กับบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่เจ้าพนักงานด้วย ตั้งแต่ 3,000-2 หมื่นบาท