posttoday

ก้าวข้ามวันวิกฤต งานผิดพลาด

19 มกราคม 2561

เรื่อง ราตรีแต่งไม่มีใครต้องการมาทำงานเพื่อสร้างความยุ่งเหยิง วุ่นวายให้แก่บริษัท ทุกคนล้วนอยากทำงานสร้างคุณค่ากันทั้งนั้น โดยมุ่งเป้าทำงานตามหน้าที่รับผิดชอบของตัวเองให้ได้ดีที่สุด แต่ก็มีคำกล่าวที่ว่า "คนที่ไม่เคยทำผิด คือคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย!!!" ซึ่งก็แน่ๆ อยู่แล้ว ไม่มีมนุษย์งานคนใดสมบูรณ์แบบขนาดที่ว่าไม่ผิดไม่พลาดอะไรเลย การเผชิญภาระงานมากมาย อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

เรื่อง ราตรีแต่ง

ไม่มีใครต้องการมาทำงานเพื่อสร้างความยุ่งเหยิง วุ่นวายให้แก่บริษัท ทุกคนล้วนอยากทำงานสร้างคุณค่ากันทั้งนั้น โดยมุ่งเป้าทำงานตามหน้าที่รับผิดชอบของตัวเองให้ได้ดีที่สุด แต่ก็มีคำกล่าวที่ว่า "คนที่ไม่เคยทำผิด คือคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย!!!" ซึ่งก็แน่ๆ อยู่แล้ว ไม่มีมนุษย์งานคนใดสมบูรณ์แบบขนาดที่ว่าไม่ผิดไม่พลาดอะไรเลย การเผชิญภาระงานมากมาย อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

วันนี้มีวิธีการรับมือกับวิกฤต ช่วยทำให้คนทำงานก้าวหน้าต่อไปได้อย่างเต็มภาคภูมิ มีหลากหลายวิธีเมื่อเราพลั้งพลาดวันที่เราทำงานผิด

ตั้งสติ

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ "สติ" ถ้าไม่มีสติอยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ทุกอย่างจะยิ่งย่ำแย่ลงแน่ๆ เอาเป็นว่าตอนนี้เมื่อรู้ว่าผิด ขอให้ยอมรับความผิดพลาดนั้น ก่อนที่จะมีใครลุกขึ้นมาชี้ให้คนอื่นเห็นรับรู้เป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งยิ่งทำให้ใจเสียเข้าไปอีก และอย่าพยายามพูดแก้ตัวเพื่อลดทอนความผิดพลาดนั้นให้น้อยลง

จงเข้าใจว่าเราเป็นคนทำผิดพลาดเอง เราจึงต้องแสดงความรับผิดชอบ และไม่โยนความผิดให้คนอื่น

หมั่นควบคุมความรู้สึกให้นิ่ง

เมื่อทำสิ่งที่ผิดพลาดลงไป ย่อมหงุดหงิด คิดอะไรไม่ออก หรือไม่ก็ยอมแพ้ไปเสียดื้อๆ ได้โดยง่าย ถ้าหากรู้สึกว่ายังมีอารมณ์รุนแรง หรือเครียดมากเกินไป ให้หยุดพัก ไม่มีประโยชน์ที่จะแก้ปัญหาตอนอารมณ์ขุ่นมัว

สิ่งสำคัญที่สุด อย่าเพิ่งร้อนใจคิดจินตนาการเรื่องราวร้ายๆ กังวลล่วงหน้าไปเกินเหตุ ระงับอารมณ์ให้สงบนิ่ง แล้วเริ่มเตรียมเขียนรายงานไว้ได้เลย พร้อมเอกสารหลักฐาน เพื่อหัวหน้าจะพิจารณา จากการแก้ไขปัญหาของงานที่พลาดในครั้งนี้ ท่องใส่ใจไว้อย่าพยายามโทษคนอื่น หรือทำสถานการณ์รอบข้างให้แย่ลง

อย่าก้าวร้าวขึ้นเสียง สบประมาท หรือใช้ความรุนแรงใดๆ โดยเฉพาะการกล่าวโทษกันไปมา จะยิ่งเพิ่มความรุนแรงของความขัดแย้งยิ่งขึ้น แถมยังไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง เมื่อทำพลาดต้องกล้าหาญโทษตัวเองไว้ก่อน ตั้งใจแกร่ง ให้นิ่งและสร้างกำลังใจในทางบวก ค่อยๆ แก้ไขไปทีละเรื่อง ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ก็ให้คนอื่นช่วย เพื่อให้จบปัญหาโดยเร็วที่สุด

เคล็ดลับ ถ้าเห็นว่าการแก้ไขความผิดพลาดนั้น หนักหนาสาหัสเกินไป ให้หยุดพักก่อน หรือขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานที่เราสามารถพึ่งพาได้

ติดตามผลจนกว่าทุกอย่างคลี่คลาย

โดยการเสนอตัวไปเลยว่ายินดีทำทุกอย่างเพื่อทำให้ปัญหาต่างๆ จบลง ซึ่งการเป็นคนทำงานกล้าหาญชนกับวิกฤตปัญหา เจ้านายอาจจะเห็นความตั้งใจ และนิสัยการทำงานจากความผิดพลาดครั้งนี้ วิกฤตคลี่คลายพร้อมสร้างโอกาสแสดงตัวตนของเราก็เป็นไปได้

รีบส่งสารเชิงบวกแบบไม่ใช้ถ้อยคำ การสื่อสารแบบไม่ใช้ถ้อยคำจะสามารถส่งสารถึงคนรอบๆ ตัวเราได้ดีที่สุดคือ รอยยิ้ม สัญลักษณ์ที่บ่งบอกได้ง่ายดายที่สุดว่า "ความเครียดที่แทนที่จะหน้าบึ้ง แต่รอยยิ้มคือความกล้าหาญ และเชื่อมั่นว่าสามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้"

คนทำงานล้วนเคยผิดพลาดทั้งนั้น เป็นเรื่องปกติของคนทำงาน แต่เมื่อทำผิดพลาดต้องเอามาปรับปรุงแก้ไข พยายามรอบคอบมากๆ อย่าให้ผิดซ้ำ คนที่เมื่อทำงานผิดแล้วรีบชิงลาออก คืออีกวิธีหนีปัญหา ซึ่งเป็นการขาดความรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำไว้ แล้วทิ้งให้คนอื่นตามแก้ไขให้

สรุปความผิดพลาดของตัวเอง

การทำความเข้าใจวิธีแก้ปัญหา และวิธีรับมือเรื่องไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับคนทำงาน เป็นการเรียนรู้เพื่อลดการทำผิดพลาดซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีการย้ำบอกกับตัวเองเสมอๆ ความผิดพลาดแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว

วิธีป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อหาวิธีแก้ไขความผิดพลาดพบแล้ว ควรเขียนบันทึกสิ่งทำผิดลงไปเตือนความจำ จากนั้นเขียนเป้าหมายว่าจะทำอะไรในอนาคต เช่น เขียนงานที่ต้องทำในแต่ละวัน และกลับมาเช็ก สิ่งที่เขียนไว้ให้ได้ 2 ครั้ง/วัน ขีดฆ่างานที่ทำเสร็จไปแล้ว และติดโพสต์-อิท เตือนความจำ สำหรับกลุ่มงานที่ต้องทำเป็นอันดับแรก

วิธีแก้ไขปัญหาจากความผิดพลาด มีขั้นตอนตั้งแต่การทำความเข้าใจความผิดพลาดของตัวเอง การวางแผนแก้ไขความผิดพลาด การหมั่นดูแลตัวเอง และมีวิธีการสื่อสารอย่าง เหมาะสมเพื่อเร่งคลี่คลายสถานการณ์เคร่งเครียด ลองเขียนความผิดพลาดที่ได้ทำลงไปในครั้งนี้ หาวิธีการจัดการความผิดพลาดแต่ละอย่างไร และวิธีจัดการความผิดพลาดนั้นมีประโยชน์กับเราหรือไม่ ถ้าไม่ วิธีการแก้ปัญหานั้นอาจไม่ได้ผล

ในเมื่อไม่มีใครไม่เคยทำงานผิดพลาด ซึ่งเมื่อผิดพลาดไปแล้ว คนทำงานที่มีความ สมาร์ท ต้องแกร่ง ต้องกล้ายอมรับ หาหนทางแก้ไขให้บริษัทได้รับความเสียหายน้อยที่สุด และแก้ไขเร็วที่สุด หลังจากนั้นบริษัทจะพิจารณา ซึ่งโดยทั่วไปมีบทลงโทษตามความเสียหายมากน้อย เช่น ตักเตือนทางวาจา ตักเตือนทางลายลักษณ์อักษร ตัดคะแนน พักงาน จ้างออก ซึ่งเมื่อมีการลงโทษก็ถือว่าจบสิ้น ไม่ต้องเก็บมาคิดอีกต่อไป ในเมื่อได้รับผลการกระทำไปแล้ว ก็ควรยอมรับโดยดุษฎี

คนทำงานทุกคนก็มีวันที่อาจทำผิด ทำพลาดบ้าง แต่สุดท้ายไม่มีการอนุญาตให้ใครทำงานผิดพลาด ซ้ำซากหลายๆ รอบ n

ข่าวล่าสุด

สยามพิวรรธน์คว้า 2 รางวัลโลก พร้อมเปิด NEXTOPIA สยามพารากอน