อุบลฯเลือกบ้านโนนตาล จุดสร้างสะพานข้ามโขง
กว่า 5 ปีที่ชาว จ.อุบลราชธานี รอความคืบหน้าของโครงการสะพานมิตรภาพไทย-ลาว
โดย นิลา สิงห์คีรี
กว่า 5 ปีที่ชาว จ.อุบลราชธานี รอความคืบหน้าของโครงการสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 6 ข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมกับแขวงสาละวัน ของประเทศลาว ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปการคัดเลือกรูปแบบทางเลือกที่เหมาะสมในการสร้าง
เฉลิมพล มั่งคั่ง รอง ผวจ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า จาก 3 แนวทาง ซึ่งมีการคัดเลือกพื้นที่ก่อสร้าง 3 จุด ได้ข้อสรุปว่า แนวเส้นทางที่ 3 พื้นที่บ้านโนนตาล ต.นาตาล อ.นาตาล มีความเหมาะสมมากที่สุด เนื่องจากมีผล กระทบต่อทรัพยากรสิ่งแวดล้อมในด้านต่างๆ น้อย รวมทั้งมีจุดตัดแนวเส้นทางโครงการกับโครงข่ายคมนาคมเดิมน้อย และมีผลกระทบจากการโยกย้าย และการเวนคืนที่ดิน พื้นที่เกษตรกรรมน้อย
สำหรับปัจจัยด้านวิศวกรรมและจราจร เนื่องจากแนวเส้นทางโครงการในพื้นที่ สปป.ลาว วางตัวอยู่ในสันปันน้ำ โดยแนวทางเลือกที่ 3 พาดผ่านพื้นที่ริมน้ำและเส้นทางการไหลของน้ำน้อยกว่าเส้นทางเลือกอื่นๆ จึงได้เปรียบในปัจจัยการระบายน้ำและการป้องกัน น้ำท่วม ส่วนปัจจัยด้านเศรษฐกิจและการลงทุน พบว่า แนวเส้นทางเลือกที่ 3 มีศักยภาพในด้านการพัฒนาธุรกิจการค้าและการพัฒนาการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคและระดับประเทศสูงที่สุด ส่วนรูปแบบทางเลือกสะพานของโครงการสะพานเป็นแบบระบบ Tied Arch คานสะพานเป็นคอนกรีตหรือผสมระหว่างเหล็กและคอนกรีต
รอง ผวจ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ผลดีของการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 6 อุบลราชธานี-สาละวัน จะเชื่อมโยงเส้นทางการคมนาคมในหลายประเทศ ทั้งลาว กัมพูชา เวียดนาม ไปจนถึงอินโดนีเซียในการขนส่งสินค้าสู่ทะเล ซึ่งจะย่นระยะทางในการขนส่งได้ประมาณ 170 กิโลเมตร ยังไม่รวมถึงการขนถ่ายสินค้าไปท่าเรือดานัง ประเทศเวียดนาม ที่จะเชื่อมต่อประเทศทางทะเลอีกหลายประเทศ จะเป็นผลดีต่อการย่นระยะทางประหยัดในเรื่องการขนส่ง ประหยัดเวลาด้าน งบประมาณลงทุนและขนส่ง ซึ่งจะเป็นเส้นทางวงกลมเศรษฐกิจ
"สิ่งที่ จ.อุบลราชธานี จะได้รับจากการสร้างสะพานคือ 1.การคมนาคมขนส่งเพิ่มขึ้น 2.จะเกิดศูนย์กลางกระจายสินค้าเกิดขึ้นใน จ.อุบลราชธานี 3.จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นจากการให้บริการ และ 4.เรื่องเศรษฐกิจรายได้ที่จะมาจากเรื่องของสุขภาพ เนื่องจากปัจจุบันมีประชาชนจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา และเวียดนามได้เดินทางเข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนและของภาครัฐในตัว จ.อุบลราชธานี เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของสถานศึกษาหลายแห่งที่มีประเทศเพื่อนบ้านได้เข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยของอุบลราชธานี"
รอง ผวจ.อุบลราชธานี ได้กล่าวถึงความพร้อมของ จ.อุบลราชธานี ในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจว่า มีศักยภาพที่จะพัฒนาในเรื่องของการคมนาคม ที่มีเส้นทางรถยนต์ รถไฟและเครื่องบิน โดยในปี 2561 จ.อุบลราชธานี ได้งบประมาณมาพัฒนาสนามบินอุบลราชธานีให้เป็นสนามบินนานาชาติ โดยจะมีหน่วยงานของศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองมาอยู่ในสนามบินนานาชาติอุบลราชธานี ภายในปี 2561 นี้ เนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาวและเวียดนามได้มาใช้สนามบินอุบลราชธานีเป็นจำนวนมาก
ด้าน ธวัช เบญจพลชัย ที่ปรึกษาโครงการ กล่าวว่า หากสะพานแห่งนี้แล้วเสร็จ จะเชื่อมเส้นทางได้ถึง 5 ประเทศ มีประชากรรวมกันแล้วกว่า 240 ล้านคน เป็นจุดที่จะเชื่อมโยงเส้นทางการคมนาคมการขนส่งระหว่างประเทศของไทยไปสู่ท่าเรือดานังและฮานอย ประเทศเวียดนาม นอกจากนี้สะพานยังสร้างอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มและ สามพันโบกของ จ.อุบลราชธานี เชื่อมโยงการท่องเที่ยวลุ่มแม่น้ำโขงอีกด้วย


