เลกซัสRX270หรูเล็กๆจุดเริ่มต้นของเลกซัส

เลกซัส RX 270 คือความหวังของโตโยต้าที่ต้องการให้ลูกค้าก้าวเข้ามาสัมผัสกับความเป็นเลกซัส และประทับใจกับแบรนด์เลกซัส เพื่อที่จะได้ก้าวขึ้นไปเป็นลูกค้าเลกซัสในรุ่นต่อๆ ไป....

โดย...นิธิ ท้วมประถม 

ตลาดรถยนต์ระดับหรูที่เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ หรือเอสยูวีนั้น แข่งขันกันอย่างดุเดือด เพราะเป็นตลาดที่กลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อสูงอย่างยิ่ง และที่ผ่านมาตลาดเอสยูวีไฮโซเหล่านี้ถูกครอบครองโดยบริษัทรถยนต์นำเข้าอิสระ หรือกลุ่มเกรย์มาร์เก็ต เป็นผู้นำในการนำรถเอสยูวีบุกเบิกทำตลาดในตลาดเมืองไทย

ทำให้รถเอสยูวีกลายเป็นรถยอดนิยมของบรรดาไฮโซ ไฮซ้อไปโดยปริยาย และเจ้าแห่งเอสยูวีในตลาดประเทศไทยเห็นจะหนีไม่พ้นโตโยต้า เลกซัส ในตระกูล RX ทั้งหลาย ทั้งพี่ใหญ่อย่าง RX 450 น้องรองด้วยรุ่น RX 350 ซึ่งบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย นำเข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพื่อแข่งกับเกรย์มาร์เก็ตอย่างเต็มรูปแบบ

แต่ด้วยราคาค่าตัวของเจ้าพี่ใหญ่และน้องรองที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน กับขนาดเครื่องยนต์ 4.5 ลิตร และ 3.5 ลิตร ทำให้ค่าตัวของเลกซัส RX 450 และ 350 นั้นอยู่ระดับ 5.79 ล้าน และ 6.74 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งถือว่าเป็นค่าตัวที่ค่อนข้างจะหนักหนาอย่างยิ่ง และทำให้กลุ่มลูกค้านี้มีจำนวนจำกัดมากขึ้น

เมื่อเป็นเช่นนั้น โตโยต้าจึงตัดสินใจนำเข้า “น้องเล็ก” คือ RX 270 รถยนต์เอสยูวีที่มีขนาดเครื่องยนต์เล็กที่สุด คือ ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.7 ลิตร เพื่อที่จะได้กดราคาลงมาเหลือ 3.79-4.09 ล้านบาท เพื่อที่จะทำให้ลูกค้าสามารถเอื้อมถึงได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญจะได้ไว้รบรากับคู่แข่งอย่างบีเอ็มดับเบิลยู X 3 รถเอสยูวีแสนดุของบีเอ็มฯ ได้อย่างพอฟัดพอเหวี่ยง

เมื่อเป็นเช่นนั้น RX 270 คือรุ่นที่เลกซัสจะเอามาเจาะตลาดอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เป็นรถธงหลักของเลกซัส ประเทศไทย

จุดเด่นของ RX 270 นั้นนอกจากราคาที่เศรษฐีเอื้อมถึงได้ง่ายขึ้นแล้ว เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.7 ลิตรนั้น ยังสามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างเหลือเฟือทีเดียวครับ เพราะที่ผมลองขับทั้งในเมืองและนอกเมือง ก็มั่นใจว่าเครื่องยนต์ตัวนี้เหลือกินเหลือใช้ครับ

รูปร่างหน้าตาของ RX 270 นั้นไม่ต่างกับพี่รองและพี่ใหญ่ครับ ยังคงเท่แบบหวานๆ ตามสไตล์เลกซัสเหมือนเดิม มีการซ่อนที่ปัดน้ำฝนไว้ในสปอยเลอร์ กรอบกระจังหน้าออกแบบยาวต่อเนื่องจนถึงกรอบไฟหน้า โคมไฟรูปทรงสามมิติ จะมีที่บ่งบอกว่าเป็นน้องเล็กก็คือตัวอักษร RX 270 ที่ติดอยู่บั้นท้ายของรถให้รู้ว่าคือน้องเล็กเท่านั้น

พอก้าวเข้ามาในห้องโดยสารก็ต้องบอกว่า RX 270 นั้นออปชันไม่ได้เล็กไปด้วยเลยครับ เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นมีเพียบ เกือบจะเทียบเท่าพี่รองกับพี่ใหญ่เลยครับ มีตั้งแต่หลังคาซันรูฟเพื่อเปิดรับแสงให้รู้สึกสดใส หรือจะเปิดดูดาวยามค่ำคืนก็เท่ไม่หยอก

นอกจากนี้ มองไปที่แผงหน้าปัดก็ต้องกระจ่างตาด้วยจอแสดงผลเรืองแสงแบบใหม่ OLED (Organic Light-Emitting Diode) ช่วยในการอ่านค่าได้อย่างชัดเจนสบายตาดูหรูหราไม่น้อย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันตามสไตล์รถระดับนี้ที่ไว้คอยควบคุมเครื่องเสียง และดูอัตราการสิ้นเปลืองให้เห็นกันจะจะว่าเป็นเท่าไหร่

กดปุ่มสตาร์ตได้ กดคันเร่งออกไปทันที อัตราเร่งของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.7 ลิตรนั้นแสดงพลังออกมาแล้วครับ พุ่งปรู๊ดออกไปทันที ไม่มีอาการอืดให้เสียความรู้สึกว่าม้าจากแดนปลาดิบไม่มีกำลังวังชา

การออกตัวในเมืองไม่อืดอาด ออกตัวได้แบบไว้ใจได้ครับ ส่วนการใช้งานนอกเมืองนั้นสบายใจกันไปใหญ่ เพราะผมใช้ความเร็วในระดับประมาณ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราการสิ้นเปลืองอยู่ระดับประมาณ 8 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่าไว้ใจได้ทีเดียว แถมการเร่งแซงในความเร็วระดับ 120 กิโลเมตรขึ้นไปก็ทันใจดีครับ แต่ผมยังไม่ได้มีโอกาสใช้อัตราเร่งแซงในความเร็วที่เกิน 140-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะถนนในวันนั้นโล่งไปหน่อยครับ เลยไม่รู้ว่าจะเร่งแซงใคร

ส่วนอัตราเร่งในระดับตั้งแต่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นสบายใจได้เลยครับ แล้วยิ่งเปลี่ยนเกียร์ช่วยด้วยแล้วยิ่งแจ่มไปใหญ่ แถมเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะนี้ยังทำงานได้ลงตัวมากครับ จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ไหลลื่นไม่มีสะดุดให้หงุดหงิดใจจริงๆ ขับไปชิล ชิล เลยครับ

การทรงตัวไว้ใจได้ แม้ว่าจะวิ่งด้วยความ เร็วสูงก็ยังนิ่ง พวงมาลัยไม่มีอาการสั่นให้ใจเสีย เข้าโค้งด้วยความเร็วสูงก็ไปได้สวยครับ แต่ต้องถูกไลน์นะครับ ไม่ใช่เข้าโค้งแบบสุ่มสี่สุ่มห้า อย่างนั้นรถดียังไงก็หลุดครับ

พอถึงเวลาจอดก็ได้เห็นจอแสดงภาพด้านหลังที่แสดงขึ้นมาที่กระจกมองหลัง เหมือนกับรุ่นพี่ใหญ่ RX 450 ทำให้ง่ายต่อการถอยหลังอย่างยิ่ง โดยจอนี้จะแสดงขึ้นมาตอนที่เราเข้าเกียร์ถอยหลัง โดยในจอจะมีเส้นบอกระยะบนหน้าจอ EMV เพื่อช่วยในการควบคุมพวงมาลัย และที่สำคัญยังมี Side Monitor จะแสดงภาพวิดีโอจากกล้องที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของกระจกมองข้างฝั่งผู้โดยสารตอนหน้า พร้อมด้วยข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอ เช่น แนวตำแหน่งของรถจากการหมุนพวงมาลัย ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบพื้นที่บริเวณด้านซ้ายของรถยนต์ และหลีกเลี่ยงข้อจำกัดที่เกิดจากความต่างของรัศมีวงเลี้ยวของล้อหน้าและล้อหลังด้านในขณะที่หักเลี้ยวด้านซ้าย นอกจากนี้ยังสามารถปรับให้ระบบแสดงผลได้ทั้งแบบ Overall Display ซึ่งแสดงข้อมูลทั้งหมด และ Front Area Enlarge Display ซึ่งแสดงข้อมูลภาพที่ขยายใหญ่จากบริเวณด้านหน้ารถได้อีกด้วย

ระบบช่วยจอดนี้ทำให้ผู้ขับขี่เข้าจอดตามที่แคบๆ ได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่ามุมรถซ้าย ขวา หน้า หลัง จะต้องไปครูดกับสิ่งกีดขวาง แต่ก็ต้องอาศัยความคุ้นเคยหน่อยนะครับ

ด้านความปลอดภัยมีเพียบ เริ่มตั้งแต่ถุงลมนิรภัยที่มีอยู่ถึง 10 จุดด้วยกัน และยังมีระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) ที่จะช่วยออกแรงตาม หรือสวนทางของการหักพวงมาลัยเพื่อรักษาการทรงตัวของรถ ระบบการจัดการรวมไดนามิกของตัวรถ VDIM (Vehicle Dynamics Integrated Management) ซึ่งจะทำการควบคุมทั้งกำลังเครื่องยนต์ เบรก และพวงมาลัยให้ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว

เลกซัส RX 270 คือความหวังของโตโยต้าที่ต้องการให้ลูกค้าก้าวเข้ามาสัมผัสกับความเป็นเลกซัส และประทับใจกับแบรนด์เลกซัส เพื่อที่จะได้ก้าวขึ้นไปเป็นลูกค้าเลกซัสในรุ่นต่อๆ ไป

ราคา 3.79 ล้านบาท แต่ไม่มีระบบนำทางเนวิเกเตอร์นั้น ผมถือว่าเป็นราคาที่ใครมีกำลังพอจะซื้อได้ ก็คุ้มค่าไม่น้อยครับกับการเป็นเจ้าของแบรนด์หรูอย่างเลกซัสที่ออปชันไม่น้อยหน้าไปกว่าใคร!!