อีโคทัวริซึ่ม เทรนด์เที่ยวมาแรง
พีรดา ปราศรีวงค์ กระแสการเดินท่องเที่ยวแบบอีโคทัวริซึ่ม หรือการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัยที่ผสมผสานท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พ่วงด้วยวัฒนธรรมประจำชาติมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งความชื่นชอบได้ขยายวงกว้างมากขึ้น และไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรปเท่านั้น แต่ยังขยายไปยังนักท่องเที่ยวตลาดเอเชียและอาเซียนด้วย โดยเฉพาะประเทศซีแอลเอ็มวี ประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม
พีรดา ปราศรีวงค์
กระแสการเดินท่องเที่ยวแบบอีโคทัวริซึ่ม หรือการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัยที่ผสมผสานท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พ่วงด้วยวัฒนธรรมประจำชาติมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งความชื่นชอบได้ขยายวงกว้างมากขึ้น และไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรปเท่านั้น แต่ยังขยายไปยังนักท่องเที่ยวตลาดเอเชียและอาเซียนด้วย โดยเฉพาะประเทศซีแอลเอ็มวี ประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม
ดวงกมล จันสุริยวงศ์ ที่ปรึกษาสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (ทีต้า) เล่าว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสำคัญและตระหนักรู้เรื่องกรีน ทัวริซึ่ม โดยยินดีที่เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางท่องเที่ยว พร้อมช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับโลกใบนี้ มากกว่าท่องเที่ยวสร้างความเพลิดเพลินและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเหมือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ทั้งคนไทยและต่างชาติในแถบเอเชียและอาเซียนสนใจที่จะวางแผนเดินทางท่องเที่ยวแบบอีโคทัวริซึ่มมากขึ้น วัดได้จากบริษัททัวร์กลุ่มซีแอลเอ็มวีได้ติดต่อมายังบริษัททัวร์ไทย เพื่อให้ประเทศไทยเป็นต้นแบบการทำตลาดอีโคทัวริซึ่ม โดยเรียนรู้การจัดรูปแบบกิจกรรม วิธีการนำเสนอ พร้อมร่วมสำรวจเส้นทางเส้นทางต่างๆ
"อีโคทัวริซึ่มส่วนใหญ่เป็นการท่องเที่ยวที่เชื่อมต่อกับชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้การท่องเที่ยวชุมชนเติบโต สร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่น โดยมองว่าการท่องเที่ยวรูปแบบนี้ ยังช่วยให้กิจการทัวร์อยู่รอดจากพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง แต่อีโคทัวร์ยังต้องพึ่งพาบริษัททัวร์ในการประสานลงพื้นที่" ดวงกมล กล่าว
อย่างไรก็ตาม อีโคทัวริซึ่มมีส่วนช่วยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พร้อมเข้าถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น วิถีชีวิตความเป็นอยู่ เพราะบางกิจกรรมง่ายๆ เช่น การตำน้ำพริก การเก็บขยะ ถูกมองเป็น แพ็กเกจที่ไม่น่าขายได้ แต่มีกระแสตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวเอเชียและอาเซียน เพราะส่วนใหญ่ต้องการท่องเที่ยวพร้อมสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตเพิ่มเติม เหมือนเทรนด์นักท่องเที่ยวจากยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่ ชื่นชอบการเรียนรู้วัฒนธรรมของชาตินั้นๆ ผ่านการท่องเที่ยวชุมชน
ด้าน นีรชา วงส์มาศา นายก สมาคมทีต้า เล่าว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัยในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตกว่า 20% ซึ่งประเทศไทยเติบโตได้ดีกว่าภาพรวมการเติบโตโลกเฉลี่ยที่ 10% เนื่องจากในปี 2561 รัฐบาลมี นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนอย่างจริงจัง ทั้งมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรองตลอดปีนี้ 1.5 หมื่นบาท/คน การเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เป็นต้น
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวรูปแบบดังกล่าว ที่ผ่านมาภาคเอกชนได้พยายามพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวมานานกว่า 20 ปี แต่ยังเป็นการจำกัดการท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม ซึ่งหากรัฐบาลเข้ามาส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าการท่องเที่ยวเชิงอีโคทัวริซึ่มในอนาคต คนไทยจะให้ความนิยมไม่แพ้นักท่องเที่ยวต่างชาติ
สำหรับแผนกลยุทธ์การตลาด สมาคมเตรียมลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับมองโกเลียและบัลแกเรีย เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แนวทางการนำเสนอ พร้อมส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศร่วมกัน เพราะปัจจุบันทั้งสองประเทศมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจการเดินทางอีโค ทัวริซึ่มจำนวนมาก
ขณะที่ประเทศเมียนมา กัมพูชา อยู่ระหว่างหารือถึงแนวทางความร่วมมือการแลกเปลี่ยนแนวทางการทำตลาด ซึ่งมองว่าในอนาคตอาจมีเส้นทางการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงระหว่างชาติอาเซียนร่วมกัน โดยปีที่ผ่านมาสมาคมได้ร่วมมือกับเกาหลีและภูฏานในการพัฒนาสินค้าและบริการร่วมกัน ในปีนี้จะเร่งดำเนินการให้เกิดความต่อเนื่องเพิ่มขึ้น เพราะมองว่านักท่องเที่ยวกลุ่มอีโคทัวริซึ่ม ถือเป็นตลาดที่มีคุณภาพและมีกำลังซื้อสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป และมีความพร้อมที่ท่องเที่ยวชุมชนพร้อมร่วมพัฒนาด้วย
นีรชา บอกอีกว่า ด้านตลาดในประเทศได้ร่วมมือกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. จัดทำ 8 เส้นทางการท่องเที่ยว นำร่องพื้นที่พิเศษ จ.เลย เช่น เส้นทางสีสันแห่งอารยธรรมชนเผ่า ลุ่มน้ำโขง 2 เส้นทางมหัศจรรย์ครัวเลยรักษ์โลก เป็นต้น


