ความแตกต่างระหว่าง Options และ Derivative Warrants (DW)
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ศึกษาเกี่ยวกับ Options ซึ่งเป็นสัญญาอนุพันธ์ประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้ลงทุนหลายๆ ท่านอาจสงสัยว่า แล้ว DW หรือ Derivative Warrant ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีความเหมือน หรือแตกต่างอย่างไรกับ Options ในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ในบทความนี้จะมากล่าวถึงความเหมือนที่แตกต่างของเครื่องมือในการลงทุนทั้งสอง
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ศึกษาเกี่ยวกับ Options ซึ่งเป็นสัญญาอนุพันธ์ประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้ลงทุนหลายๆ ท่านอาจสงสัยว่า แล้ว DW หรือ Derivative Warrant ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีความเหมือน หรือแตกต่างอย่างไรกับ Options ในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ในบทความนี้จะมากล่าวถึงความเหมือนที่แตกต่างของเครื่องมือในการลงทุนทั้งสอง
ก่อนอื่นลองมาดูความเหมือนกันของทั้งคู่ก่อน Options และ DW นั้น เป็นเหมือนใบจองสิทธิเพื่อซื้อหรือขายสินค้าอ้างอิงที่ราคาที่ตกลงไว้ล่วงหน้า โดยที่ผู้ถือใบจองสิทธสามารถเลือกใช้สิทธิ ภายในช่วงระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งทำให้ไม่ว่าจะเป็น Options หรือ DW ผู้ลงทุนที่ถือใบจองสิทธิไว้นั้น ก็จะมีความเสี่ยงจากอายุคงเหลือของสัญญาที่ลดลงเรื่อยๆ (Time Decay) และที่สำคัญยังมีค่าความผันผวนแฝง (Implied Volatility) ของราคาสินทรัพย์อ้างอิงที่ฝังอยู่ในค่า Premium ของทั้งคู่ นั่นเอง ดังนั้น ในการเลือกซื้อขายหรือลงทุนทั้ง Options และ DW ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจถึงปัจจัยดังกล่าวให้ดีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นผู้ลงทุนที่ใช้เครื่องมือ Options และ DW ในการคาดการณ์ทิศทางของตลาดในระยะสั้นหรือระยะยาว
หากเป็น DW ซึ่งถือว่าเป็นหลักทรัพย์ตัวหนึ่งโดยผู้ออกหลักทรัพย์ DW นั้นจะต้องเป็นบริษัทที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุญาตเท่านั้น ซึ่งอาจจะมีได้มากกว่าหนึ่งบริษัทต่อสินค้าอ้างอิง โดย ณ ปัจจุบัน สินค้าอ้างอิงเหล่านั้น ได้แก่ ดัชนีหุ้น หุ้นรายตัวใน SET100 หรืออีทีเอฟ ตามที่ ตลท.เป็นผู้ประกาศ โดย DW จะทำการซื้อขายกันในตลาด SET เหมือนหุ้นทั่วไป โดยผู้ออกหลักทรัพย์ DW จะเป็นผู้กำหนด Strike Price เอง สำหรับ Options เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ซื้อขายอยู่ในตลาด TFEX โดยในปัจจุบันมีสินค้าอ้างอิงประเภทเดียวคือ ดัชนี SET50 ทั้งนี้ SET50 Options ที่ซื้อขายใน TFEX จะมีราคาใช้สิทธิ (Strike Price) ที่หลากหลายให้ผู้ลงทุนเลือกซื้อขายได้
ในด้านการซื้อขายนั้นหากเป็น DW ผู้ลงทุนจะทำได้เพียงการ Long เท่านั้น หรือให้มองว่าการลงทุนใน DW เหมือนการซื้อหุ้นตัวหนึ่ง โดยที่ผู้ลงทุนทำหน้าที่ชำระเพียงราคาหุ้น หรือ DW และจะสามารถขาย DW ที่ตนเองถือครองในพอร์ตได้ แต่จะไม่สามารถ Short ได้ หรือไม่สามารถขายโดยที่ตนเองไม่มี DW นั้นอยู่ แต่ในกรณีของ Options ผู้ลงทุนสามารถเลือกที่จะส่งคำสั่ง Long หรือ Short ก่อนก็ได้ (ขายโดยไม่จำเป็นต้องมี Options ดังกล่าวอยู่ในพอร์ต) เนื่องจาก Options นั้นมีลักษณะเป็นสัญญา ที่ให้ทางเลือกแก่ผู้ลงทุนในการเป็นผู้ถือสัญญา (Long) และ เป็นผู้ขายสัญญา (Short)
ทั้งนี้ หากผู้ลงทุนเลือกเป็นผู้ขายสัญญาหรือ Short Options จะต้องมีการวางหลักประกันตามที่สำนักหักบัญชีประกาศ แต่หากเป็นผู้ซื้อสัญญา หรือ Long Options ผู้ซื้อจะจ่ายค่า Premium เท่านั้น ในด้านของสภาพคล่องการซื้อขาย สำหรับ DW ผู้ออกหลักทรัพย์จะมีหน้าที่ เป็น Market Maker ที่เสนอราคาซื้อขายในตลาด เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ในส่วนของ SET50 Options นั้น การซื้อขายจะเกิดขึ้นจากความต้องการซื้อขายของผู้ลงทุน อย่างไรก็ตาม TFEX ก็มีแนวทางในการเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขายโดยการจัดให้มี Market Maker ที่ทำหน้าเสนอราคาซื้อขายด้วยเช่นกัน เพื่อช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายได้โดยสะดวก
ในการพิจารณาการเปลี่ยนแปลงของราคา Options และ DW อันเกิดจากการประกาศจ่ายปันผลของสินค้าอ้างอิงนั้น เนื่องจากผู้ที่ลงทุนใน Options และ DW จะไม่ได้รับเงินปันผล แต่สำหรับ DW ผู้ออกหลักทรัพย์จะทำการปรับสิทธิให้ ซึ่งจะทำให้ผู้ถือ ไม่ได้รับผลกระทบจากราคาหุ้นที่ปรับลงในวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD ในส่วนของ SET50 Index Options จะไม่มีการปรับสิทธิ ดังกล่าวให้ เนื่องจากราคาของ Options จะถูกปรับไปโดยกลไกของตลาด ตามการคาดการณ์เงินปันผลของหุ้นในกลุ่ม SET50 ที่จะถูกสะท้อนอยู่ในราคา Premium ของ SET50 Options ซึ่งหากเป็น Call Options จะส่งผลให้ค่า Premium ลดลง แต่หากเป็น Put Options จะมีค่า Premium เพิ่มขึ้นนั่นเอง เนื่องจากผู้ซื้อสิทธิ ในการขาย ย่อมต้องการราคาสูงขึ้น เพราะตนเองจะต้องสละเงินปันผลในอนาคตไปนั่นเอง
ทั้งนี้ ความเสี่ยงในเรื่องการใช้สิทธิ หากเป็นสินค้า DW จะมีความเสี่ยงขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของผู้ออก หลักทรัพย์ แต่หากเป็น Options จะไม่มีความเสี่ยงนี้ เนื่องจากมีการจัดเก็บเงินวางหลักประกัน กการ Mark to Market รายวัน รวมถึงมีสำนักหักบัญชีทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับชำระหนี้ ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้ซื้อขายจะปฏิบัติตามเงื่อนไขทุกประการหวังว่าจากที่กล่าวมาในข้างต้น ผู้ลงทุนจะทราบถึงความแตกต่างเบื้องต้นระหว่าง Options และ DW ที่ควรจะรู้เพื่อประกอบการพิจารณาว่าสินค้าใดที่เหมาะกับวิธีการลงทุนซื้อขายของท่าน ทั้งนี้ไม่ว่าจะเลือกสินค้าใด ผู้ลงทุนควรสร้างความเข้าใจและความคุ้นเคยกับสินค้านั้นๆ อย่างถูกต้องและครบถ้วน สุดท้ายนี้หากท่านใดสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าของ TFEX โปรดติดต่อโบรกเกอร์ที่ท่านใช้บริการอยู่ หรือติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.tfex.co.th


