ปั้น 'บียอน' เจาะตลาดมือถือเออีซี
อักษร วิสุมาแม้ภาพรวมตลาดโทรศัพท์มือถือในประเทศปีนี้จะยังทรงตัวเนื่องจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว ทำให้การแข่งขันตลาดมือถือในไทยส่วนใหญ่อยู่ในระดับบน แต่ในปีหน้าคาดว่าการแข่งขันในตลาดกลาง-ล่างจะสูงขึ้น หลังเอเยนต์มือถือรายใหญ่ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท เปิดตัว "บียอน" โทรศัพท์มือถือแบรนด์คนไทยเทคโนโลยีหัวเว่ยมาเจาะตลาด พร้อมเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานภาษาเพื่อนบ้านเตรียมส่งไปทำตลาด
อักษร วิสุมา
แม้ภาพรวมตลาดโทรศัพท์มือถือในประเทศปีนี้จะยังทรงตัวเนื่องจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว ทำให้การแข่งขันตลาดมือถือในไทยส่วนใหญ่อยู่ในระดับบน แต่ในปีหน้าคาดว่าการแข่งขันในตลาดกลาง-ล่างจะสูงขึ้น หลังเอเยนต์มือถือรายใหญ่ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท เปิดตัว "บียอน" โทรศัพท์มือถือแบรนด์คนไทยเทคโนโลยีหัวเว่ยมาเจาะตลาด พร้อมเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานภาษาเพื่อนบ้านเตรียมส่งไปทำตลาด
ฐาคณิษฐ์ พรทองประเสริฐ ประธานกรรมการบริษัท พี.ที.อี.อินเตอร์กรุ๊ป เจ้าของแบรนด์บียอน (Beyond) กล่าวว่า ตลาดสมาร์ทโฟนในปี 2561 จะมีการแข่งขันสูงขึ้น ซึ่งตลาดที่น่าจับตาคือกลุ่มสมาร์ทโฟนที่มีราคาระดับกลาง เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มนี้จะเลือกมือถือและสมาร์ทโฟนที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งานจริง เน้นการเปรียบเทียบระหว่างคุณสมบัติกับราคา ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายและผู้ประกอบการโทรคมนาคมต่างก็ให้ความสำคัญกับตลาดระดับกลางถึงบนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกิดช่องว่างและโอกาสในตลาดระดับกลางลงมา บริษัทจึงได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือแบรนด์ "บียอน" พร้อมเตรียมเปิดศูนย์บริการให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคภายในกลาง ปี 2561 เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า
"บริษัทเตรียมเปิดตัวบียอนในช่วงสิ้นปีนี้ แบ่งเป็น 4 เซ็กเมนต์การใช้งาน ได้แก่ หม่าม๊า สมาร์ทเจน เคิร์ฟ และแม็กซ์ เพื่อรองรับความต้องการและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยวางแผนทำตลาดในประเทศและ เพื่อนบ้านอาเซียน ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่รองรับทั้งภาษาอังกฤษ เมียนมา ลาวและกัมพูชา" ฐาคณิษฐ์ กล่าว
นอกจากนี้ บียอนยังให้ความสำคัญในเรื่องการดูแลหลังการขาย ด้วยศูนย์บริการกว่า 10 แห่งครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของแบรนด์ ส่วนแผนการตลาด นอกจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์แล้ว ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น การออกบูธจัดกิจกรรมทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน และการจัดโปรโมชั่นร่วมกับผู้ประกอบการโทรคมนาคม เป็นต้น
ฐาคณิษฐ์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มเป็น 500 แห่งทั่วประเทศ เพื่อผลักดัน ยอดจำหน่ายให้ได้ 5 แสนเครื่อง และมียอดขายอยู่ที่ 500 ล้านบาท ภายในปี 2561 ขณะที่ยอดขายรวมทุกแบรนด์ตั้งเป้าไว้ที่ 1,600 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัท พี.ที.อี.อินเตอร์กรุ๊ป เริ่มนำโทรศัพท์มือถือแบรนด์บียอน ออกสู่ตลาดทั้งหมด 6 รุ่น ตั้งแต่เมื่อกลางปีที่ผ่านมา และได้รับผลตอบรับดีเกินคาดจึงได้เปิดตัวเพิ่มอีก 8 รุ่น แบ่งเป็น 4 เซ็กเมนต์ ได้แก่ 1.หม่าม๊า รุ่น 811 และ 811C มือถือแบบปุ่มกดที่เน้นหน้าจอและปุ่มขนาดใหญ่ เพื่อรองรับผู้สูงอายุ 2.สมาร์ทเจน (Smart Gen) มีทั้งหมด 3 รุ่นคือ GEN8 GEN9 และ GEN9 Plus ขนาดจอใหญ่ 5.5 นิ้ว รองรับ 2 ซิม 3.เคิร์ฟ (Curve) มีบอดี้ที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมหน้าจอโค้งไร้ขอบ สัดส่วน 18:9 พร้อมฟังก์ชั่นปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ และ 4.แม็กซ์ (MAX) ถือเป็นเฮาส์แบรนด์เจ้าแรกในไทยที่มีฟีเจอร์กล้องคู่ (หน้าชัดหลังเบลอ) 2 รุ่น คือ MAX1 และ MAX2
"เราเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือมายาวนาน กว่า 20 ปี มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับมือถือแบรนด์บียอน รุ่นแม็กซ์ สมาร์ทโฟนเฮาส์แบรนด์เจ้าแรกในประเทศไทยที่นำออกมาทำตลาด พร้อมทั้งส่งไปเจาะตลาดตลาดสมาร์ทโฟนเพื่อนบ้าน และตั้งเป้าเป็นหัวหอกในการทำตลาด" ฐาคณิษฐ์ กล่าว


