ธอส.เขี่ยทิ้งประกันเครือแบงก์
ยึดลูกค้าให้5บริษัทกินรวบ เริ่มสัญญาใหม่28ต.ค.53
โพสต์ทูเดย์
— ธอส.ส่งหนังสือแจ้งบริษัทประกันภัยยกเลิกสัญญาส่งต่อลูกค้าจาก 21 บริษัท เหลือแค่ 5 บริษัท ฟาดเบี้ย 1,600 ล้านแหล่งข่าวจากบริษัทประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือจากนายฉัตรชัย ศิริไล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อขอยุติการส่งงานประกันอัคคีภัยและประกันชีวิตให้กับบริษัทนับตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค. 2553 โดยจะส่งงานประกันวินาศภัยให้กับ 3 บริษัท คือ บริษัท ทิพยประกันภัย บริษัท อาคเนย์ประกันภัย และบริษัท นวกิจประกันภัย ส่วนบริษัทประกันชีวิตจะมีเพียง 2 บริษัท คือ บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต และบริษัท ไทยประกันชีวิต
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เดิมบริษัทประกันภัยและบริษัทประกันชีวิตที่เข้าไปรับงานประกันอัคคีภัยและประกันสินเชื่อ ลูกค้าสินเชื่อบ้านของ ธอส.มีทั้งหมด 21 บริษัท โดยจะมี 16 บริษัทที่ถูกถอดรายชื่อออก เท่ากับว่าจะสูญเสียเบี้ยประกันอัคคีภัยที่ได้จาก ธอส.ในแต่ละปีจะมีประมาณ 400 ล้านบาท และประกันสินเชื่อปีละกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเบี้ยก้อนนี้จะไหลเข้า 5 บริษัทประกัน
“
ธอส.ต้องการทำธุรกิจกับบริษัทประกันภัยและบริษัทประกันชีวิตที่ไม่มีธนาคารเป็นผู้ถือหุ้นเป็นหลัก ทำให้บริษัทที่มีธนาคารเป็นผู้ถือหุ้นหลุดจากโครงการนี้ ส่วนบริษัทอื่นๆ มีฐานะการเงินที่ไม่ตรงคุณสมบัติตามที่ ธอส.ต้องการ ทำให้บริษัทประกันที่หลุดจากโครงการนี้จะต้องทำตลาดหนักขึ้นเพื่อหาเบี้ยประกันมาชดเชยรายได้จากส่วนนี้” แหล่งข่าวเปิดเผยสำหรับโครงการคุ้มนิรันดร์ในส่วนของประกันนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2535 เพื่อลดความเสี่ยงให้กับธนาคารในการปล่อยสินเชื่อ
ก่อนหน้านี้ นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับปรุงรูปแบบการทำธุรกิจ (Business Model) ใหม่ผ่านโครงการประกันชีวิตคุ้มนิรันดร์และการประกันอัคคีภัย มีพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partner) ในการร่วมทำธุรกิจ ซึ่งจะทำให้เกิดการเพิ่มผลประโยชน์ทั้งต่อลูกค้าธนาคารและ ธอส. โดยคัดกรองบริษัทประกันภัยที่รับงานอยู่ในปัจจุบันของธนาคารให้มีจำนวนที่เหมาะสม มีความแข็งแกร่งที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของ ธอส.
ทั้งนี้ ในการคัดกรองจะพิจารณาจากความมั่นคง ฐานะทางการเงิน อ้างอิงตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องทุนจดทะเบียน อัตราส่วนทางการเงินต่างๆ รวมถึงประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบัน คปภ.อยู่ระหว่างการพิจารณาการนำระดับเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง (Risk Based Capital) มาใช้ในปลายปี 2554 ตลอดจนการไม่ถูกถือหุ้นโดยธนาคารพาณิชย์ ยกเว้นธนาคารกรุงไทย ซึ่งกระทรวงการคลังและหน่วยงานของรัฐอื่นถือหุ้นมากกว่า 50%
นายขรรค์ กล่าวว่า ในส่วนของการทำธุรกิจร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในอนาคต อาทิ การขายประกันผ่านธนาคาร หรือแบงก์แอสชัวรันส์ จะได้มีการตกลงในรายละเอียดก่อนทำสัญญาทางธุรกิจกันต่อไป
นายโดนอลด์ คาร์ดีน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต กล่าวว่า ยอดประกันสินเชื่อเติบโตอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อาจเป็นผลมาจากประชาชนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น จึงมีการขอสินเชื่อมากขึ้น