สปาโปรดักต์ เอ บอนเน่ โตอินเตอร์...หวนสู่ตลาดไทย

กลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์ คือ คนที่สนใจดูแลสุขภาพ ต้องการประหยัด มีเวลาในการปรนนิบัติตัวเองที่บ้าน ไม่จำกัดว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย....

โดย...นราทิพย์ กวางเส็ง

สปาโปรดักต์ ถือเป็นสินค้าสำคัญที่ประเทศไทยส่งออก ถึงแม้จะไม่ได้มีมูลค่าสูงเท่าสินค้าทางการเกษตร แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นที่ยอมรับของผู้ทำธุรกิจสปาทั่วโลก ประกอบกับแนวโน้มของคนทั่วไปสนใจและดูแลตัวเองมากขึ้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ที่มีไอเดียดี แต่ทุนน้อยได้แจ้งเกิดในธุรกิจดังกล่าว

หนึ่งในผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่เริ่มต้นจากธุรกิจเล็กจนประสบความสำเร็จในปัจจุบัน คือ สุเมธ งามเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ พลัส ซัพพลาย เจ้าของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ เอ บอนเน่ สินค้าประเภทสปาโปรดักต์ อาทิ เกลือผงขัดผิวสูตรนม โลชันบำรุงผิว และครีมหมักผม

สุเมธ ผู้ก่อตั้งและคิดริเริ่มสร้างสรรค์แบรนด์ดังกล่าว บอกเล่าถึงที่มาที่ไปของแบรนด์ให้ฟังว่า จากที่เคยเป็นพนักงานขายในโรงงานรับจ้างผลิตสินค้า หรือโออีเอ็ม ให้แบรนด์ต่างๆ จึงมองเห็นโอกาสว่าคนไทยมีความรู้ความสามารถในด้านการผลิต ส่งผลให้สินค้ามีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ แต่ไม่กล้าที่จะสร้างแบรนด์และทำการตลาดเอง

ดังนั้น เมื่อสบโอกาสและเงินทุนสะสมจำนวนหนึ่ง จึงนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทสปาโปรดักต์ ภายใต้คอนเซปต์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่สนใจดูแลสุขภาพความสวยความงามของตัวเอง ในรูปแบบที่ประหยัดสามารถทำได้เองที่บ้าน จึงร่วมมือกับทีมงานที่มีประสบการณ์ พัฒนาเกลือขัดผิวสูตรนมขึ้นมา ตั้งชื่อว่า เอ บอนเน่ ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ดีที่หนึ่ง

กลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์ คือ คนที่สนใจดูแลสุขภาพ ต้องการประหยัด มีเวลาในการปรนนิบัติตัวเองที่บ้าน ไม่จำกัดว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หากมีใจรักก็สามารถใช้สินค้าได้ ด้วยราคาสินค้าที่ไม่แพง กลุ่มผู้ใช้ตั้งแต่นักศึกษามหาวิทยาลัยขึ้นไปจึงสามารถซื้อได้ หรือแม้กระทั่งคนวัยทำงานที่ต้องการดูแลตัวเอง

ล่าสุดบริษัทได้วางแผนที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังผู้ประกอบการร้านธุรกิจสปา หรือเจ้าของสปานั่นเอง เนื่องจากมีผู้ประกอบธุรกิจสปาติดต่อเข้ามาซื้อสินค้าในครั้งละเป็นจำนวนมาก ผู้ประกอบการเหล่านั้นไม่เพียงแต่จะเป็นผู้ประกอบการไทยเท่านั้น ผู้ประกอบการจากประเทศสิงคโปร์และฮ่องกงก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

สุเมธ กล่าวว่า บริษัทจะทำการขายแบบรวมโปรโมชันและประชาสัมพันธ์ไปด้วย คาดว่าแผนการดำเนินงานจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ในอนาคตยอดขายของบริษัทจะมาจากผู้บริโภคทั่วไป 70% จาก 100% ในปัจจุบัน และยอดขายจากผู้ประกอบการธุรกิจสปา 30%

“เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทผลิตโดยเภสัชกรชาวไทย เพื่อคนไทย ดังนั้นคนในประเทศที่อยู่ใกล้กับไทย หรือมีอยู่แถบเส้นศูนย์สูตรจึงสามารถใช้สินค้าของบริษัทได้ เพราะเหมาะสมกับลักษณะ|ผิวพรรณ บริษัทจึงส่งสินค้าไปจำหน่ายในภูมิภาคอาเซียน และตะวันออกกลาง ราว 10 ประเทศ เช่น เวียดนาม พม่า กัมพูชา บรูไน และฟิลิปปินส์”

ล่าสุดบริษัทได้ตั้งตัวแทนจำหน่ายเพื่อจำหน่ายสินค้าของบริษัทในจีน และกำลังเจรจาส่งสินค้าไปจำหน่ายที่อินเดีย

สุเมธ

ปัจจุบันบริษัทมียอดขายจากต่างประเทศ 90% ในประเทศเพียง 10% เนื่องจากช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศมีข้อจำกัดมาก ต้องใช้เงินเพื่อวางจำหน่ายสูงมาก บริษัทจึงหาทางออกด้วยการไปจำหน่ายในต่างประเทศก่อน เมื่อมีทุนเพียงพอจึงกลับมาจัดจำหน่ายในประเทศไทย และในปีนี้ปีที่ 11 บริษัทก็พร้อมที่จะกลับมาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว ด้วยการจับมือกับบริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายวางตลาดสินค้าของบริษัทในโมเดิร์นเทรด คาดว่ายอดขายภายในประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ตลอดระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า

ในส่วนปัญหาและอุปสรรคที่บริษัทกำลังประสบมาสักระยะแล้วก็คือ สินค้าลอกเลียนแบบ จึงได้ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของหีบห่ออยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ผู้ที่ลอกเลียนแบบสามารถผลิตตามได้ทัน ซึ่งก็พอช่วยได้บ้าง แต่ก็ไม่สามารถกำจัดได้หมด เพราะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการรายเล็ก ทำให้ดำเนินการได้ไม่เต็มที่ จำเป็นที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวของควรจะต้องเข้ามาช่วยเหลือทั้งระบบ

อย่างไรก็ดี จากผลการดำเนินงานของบริษัท เอ พลัส ซัพพลาย และยอดขาย 100 ล้านบาทในวันนี้ ด้วยต้นทุนเริ่มต้นเพียง 1 ล้านบาท คงเป็นบทพิสูจน์ได้ว่า ผู้ประกอบการหน้าใหม่เงินทุนน้อยก็สามารถประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจได้ หากมีไอเดียดี ผลิตสินค้ามีคุณภาพ ในราคาเหมาะสม ที่สำคัญเลือกจัดจำหน่ายให้ถูกช่องทาง ถึงจะต้องใช้เวลามากหน่อยในการก้าวสู่ความสำเร็จ แต่สุเมธก็มั่นใจในการก้าวเดินต่อไป

สนใจสินค้า สอบถามได้ที่ 02-989-4441 หรือ 08-1561-4023