เรื่องลับหลังเส้นขนานที่ 38

โดย ดร. เพียงออ เลาหะวิไลย[email protected]

จนถึงวันนี้ทหารเกาหลีเหนือที่วิ่งฝ่าดงกระสุนข้ามเส้นแบ่งเขตแดนมาเมื่อสองสัปดาห์ก่อนพ้นขีดอันตรายแล้ว สามารถย้ายออกจากห้องไอซียูไปอยู่ห้องผู้ป่วยได้แล้ว แต่ยังคงอ่อนเพลียอยู่ แพทย์จึงยังไม่อนุญาตให้ทำการสอบสวน ทว่า ก็ยังมีนกกระจิบคาบข่าวมาวันละเล็กวันละน้อยถึงความเป็นไปในห้องที่เขานอนรักษาตัวอยู่จนได้ เช่น เมื่อฟื้นขึ้นมาคำแรกที่พูด คือ "นี่กระผมอยู่ในเกาหลีใต้หรือยัง" และเขาบอกว่าตอนถูกยิงรู้สึกเจ็บมาก นอกจากนี้ เขายังมีความหล่อคล้ายคลึงกับ "ฮยอนบิน" ขวัญใจแม่ยกเลยทีเดียว!

การหนีออกมาจากเกาหลีเหนือทั้งๆ ที่ตนเองเป็นทหารรักษาเขตแดนนี้ เป็นเหตุการณ์ที่ยืนยันว่า ข้อมูลที่เราได้รับจากแหล่งข่าวของเรา มีความน่าเชื่อถือระดับหนึ่ง...

ราว 1 สัปดาห์ก่อนที่ทหารนายนี้จะวิ่งสุดชีวิต เราได้พบกัน "จู ซึงฮา" (นามสมมติเพื่อความปลอดภัย) ผู้ซึ่งหนีออกมาจากเกาหลีเหนือสำเร็จเมื่อหลายปีก่อน จากนั้นตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเขาได้ปักหลักติดตามและต่อต้านระบอบ "ผู้นำแซ่คิม" ผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ใหญ่ในกรุงโซลที่เขาทำงานอยู่ คุณจูได้ให้ความเห็นขณะที่พูดคุยกับพวกเรากลุ่มนักข่าวต่างประเทศ ว่า "โอกาสที่ระบอบการปกครองของตระกูลคิมแห่งเกาหลีเหนือจะล่มสลายลงได้ มีเพียง 3 ทาง เท่านั้น คือ 1) มรณกรรมของคิมจองอึน ซึ่งน่าจะต้องลอบสังหาร2) การปฏิวัติโดยกองทัพเกาหลีเหนือเอง และ 3) ประชาชนลุกขึ้นต่อต้านและนำอิสรภาพมาให้ตนเอง"

แนวทางที่หนึ่งและสองเป็นไปได้ยาก เนื่องจากตั้งแต่คิมน้อยได้สืบทอดอำนาจจาก "คิมจองอิล" บิดาผู้ล่วงลับ เขาได้กำจัดบุคคลที่อาจเป็นอันตรายต่อเขาไปจำนวนมาก "คิมจองอึน" เป็นทายาทรุ่นหลานของปู่ "คิมอิลซอง" ผู้สถาปนาเกาหลีเหนือก็จริง ทว่าเขาถูกซ่อนตัวจากสังคม ดังนั้นหลังจากที่เขากลับมาจากต่างประเทศแล้วเขาไม่โดดเด่นเลย ในช่วงปี 2000 ไม่มีใครคาดด้วยซ้ำว่าเขาจะได้เป็นทายาทสืบทอดอำนาจจากผู้พ่อ ในช่วงเวลานั้นเองเขาจึงทุ่มเทเวลาให้กับสิ่งที่ตนเองชอบ คือ "ดนตรี"

ในขณะนั้นเขาได้หลงรักนักร้องนำของวงดนตรี "อึนนาซู" ซึ่งเป็นวงที่วัยรุ่นเกาหลีเหนือชื่นชอบกัน นักร้องสาวคนนี้มีอายุมากกว่าเขาถึง 6-7 ปี ญาติผู้ใหญ่จึงขัดขวางและหักดิบ ถอนรากถอนโคนความรักของคิมโดยการส่งนักร้องสาวคนนั้นไปแต่งงานกับคนอื่น พร้อมๆ กับต้องออกจากวงดนตรีไป...พิษร้ายในตัว คิมจองอึนผู้ลูกน่าจะเริ่มแผ่ซ่านทั่วร่างกายในช่วงเวลานี้เอง

มาถึงตรงนี้ต้องคั่นเวลาด้วยประวัติศาสตร์เกาหลีสักนิด เนื่องจากมีการพาดพิงถึงบันทึกประวัติศาสตร์แผ่นดินโชซอนขึ้นมาว่า เรื่องราวชีวิตของ "คิมจองอึน" นี้ไปซ้ำรอยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในราชวงศ์โชซอนเมื่อ 500 ปีก่อน อนึ่งเกาหลีเหนือ-ใต้ นั้นมีประวัติศาสตร์อันเดียวกันมาหลายพันปีก่อนที่จะแยกจากกันเมื่อ 60 กว่าปีที่ผ่านมา พร้อมกับการสูญเสียชีวิตของผู้คนนับแสน เพียงเพราะ "ความคิดต่างทางการเมือง" เท่านั้น

ย้อนหลังกลับไปในสมัยโชซอนตอนต้น มีเจ้าชายองค์หนึ่งประสูติจากพระมเหสีของพระเจ้าซองจง ได้พระนามว่าเจ้าชาย "ยอนซัน" และต่อมาได้เป็นเจ้าชายรัชทายาท ทว่าเนื่องจากพระราชมารดาของพระองค์ทรงมีความริษยาและหึงหวงรุนแรงได้กระทำการร้ายต่อพระชายาและพระสนมองค์อื่นๆ พระเจ้าซองจงจึงถูกกดดันจากพระพันปีให้ปลดพระมเหสีองค์นี้ และเนรเทศออกไปจนสิ้นพระชนม์นอกพระราชวัง เจ้าชายรัชทายาท "ยอนซัน" ในวัยเด็กจึงถูกโดดเดี่ยวขาดความรักจากทั้งพระบิดาและพระมารดา เมื่อเติบใหญ่พระราชบิดาสวรรคตจึงได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ก็ได้หลงรัก "คีแซง" (หญิงผู้ให้ความสำราญ) จากหอนางโลมที่มีอายุมากกว่า 6-7 ปี ถึงขนาดพามาอยู่ในพระราชฐานทั้งๆ ที่พระองค์ทรงมีพระมเหสีแล้ว

เมื่อพระองค์ทรงล่วงรู้ความลับเหตุการณ์ปลดพระราชมารดาจากบันทึกต้องห้ามของราชวงศ์ และการยุยงจากขุนนางที่แตกกันเป็นก๊กเป็นเหล่า พระองค์จึงได้เริ่มสั่งประหารขุนนางนับร้อยคนที่เกี่ยวข้องกับการเนรเทศพระราชมารดาของพระองค์...ไม่เว้นแม้แต่พระสนมของพระราชบิดาและพี่น้องร่วมพระราชบิดาของพระองค์เอง เป็นการสังหารครั้งร้ายแรงในประวัติศาสตร์เรียกว่า การสังหารหมู่ "คับจา ซา-ฮเว" บ้านเมืองเข้าสู่กลียุค พระองค์ไม่สนใจราชการบ้านเมือง ใครทำอะไรให้ไม่พอพระทัยก็สั่งประหาร ในที่สุดบรรดาขุนนางทนไม่ไหวจึงได้ยกทัพเข้ายึดพระราชวังคยองบ๊ก ปลดพระราชาและเนรเทศไปอยู่เกาะคังฮวา แล้วทูลเชิญพระอนุชาต่างมารดาของพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์แทนพระนามว่า "พระเจ้าจุงจง" บันทึกในประวัติศาสตร์ราชวงศ์จึงเรียกเหตุการณ์นี้ว่า "รัฐประหารพระเจ้าจุงจง" ส่วนอดีตพระราชาได้สิ้นพระชนม์โดยไม่มีแม้แต่ป้ายชื่อหลุมศพ

คิมจองอึนถูกความรักทอดทิ้งถึง 4 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อยังเด็กต้องจากมารดาไปสวิตเซอร์แลนด์ ครั้งที่สอง เมื่ออาที่เลี้ยงเขามาแปรพักตร์หนีไปประเทศอื่น ครั้งที่สาม เมื่อกลับมาเจอมารดาแล้ว แต่มารดาถูกโรคร้ายพรากชีวิตไป ครั้งที่สี่ คนรักถูกพรากไป คาดว่าในช่วงเวลานั้น "คิมจองอึน" ได้นักร้องรองที่มีความสวยงามและเก่งไม่แพ้กันมาดามหัวใจ และครั้งนี้เขาไม่ปล่อยให้ใครมาพรากความรักไปได้อีก เขาพาเธอไปอยู่กินกันโดยไม่มีใครล่วงรู้

ในช่วงปี 2008 คิมจองอิลผู้บิดาซึ่งฟื้นจากอาการโคม่านานถึง 1 เดือน ได้เริ่มรู้ตัวว่าต้องจัดการเรื่องการสืบทอดอำนาจให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพราะตนเองคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนัก คาดว่าคิมจองอึนผู้ลูกได้รับอนุญาตให้จัดการแต่งงานกับนักร้องหญิงคนนั้นก่อนบิดาสิ้นชีวิตไม่นาน และหลังจากที่เขาได้ขึ้นเป็นผู้นำสูงสุด โลกจึงได้เห็นผู้หญิงร่างบางใบหน้าสวยงามคนข้างกายคิมจองอึนที่ชื่อ "รีซอนจู" แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ทำให้เขาถูกเปรียบเทียบว่าเป็นเจ้าชายยอนซันกลับชาติมาเกิด คือ เขาเริ่มสังหารญาติพี่น้องและขุนนางรอบข้างตนเอง

(อ่านต่อฉบับหน้า)