posttoday

หุ้น 1,700 จุด ‘ดอย’ หรือ ‘ตกรถไฟ’

01 พฤศจิกายน 2560

พูลศรี เจริญหากยังจำกันได้ เสียงเฮดังลั่น เมื่อดัชนีหุ้นไทยสามารถวิ่งฝ่าแนวต้านสำคัญ 1,700 จุด หลังเปิดตลาดรอบเช้าของวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนรอกันมานานหลายปี

พูลศรี เจริญ

หากยังจำกันได้ เสียงเฮดังลั่น เมื่อดัชนีหุ้นไทยสามารถวิ่งฝ่าแนวต้านสำคัญ 1,700 จุด หลังเปิดตลาดรอบเช้าของวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนรอกันมานานหลายปี

ถัดจากนั้น นักวิเคราะห์ก็กระพือ หรือทบทวน เป้าดัชนีปีนี้ และคาดการณ์ปีหน้ากันยกใหญ่ สรุปได้ว่า หุ้นไทยเป็นขาขึ้น หรือ อยู่ในภาวะกระทิง โดยคาดการณ์ SET index จะ ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติ การณ์ที่ระดับ 1,800-1,850 จุด

ขณะที่นักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนบางค่าย มองว่า รอบนี้กระทิงตัวใหญ่มาก อาจได้เห็นดัชนีปรับขึ้นสูงสุดที่ 1,900 จุด

ปัจจัยบวกหนุนรอบนี้ มาจากการเลือกตั้งในประเทศ ที่มีความชัดเจน การคาดการณ์เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในภาคการ ส่งออกและการท่องเที่ยว

เมื่อหุ้นเป็นขาขึ้น มักจะมีคำถาม ตามมาว่า หากจะเข้าลงทุนตอนนี้จะ ติดดอยมั้ย หรือซื้อหุ้นที่ราคาสูง แล้วหรือยัง

กรวุฒิ ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน เปรียบเทียบ หุ้นขึ้นรอบนี้ว่าก็เหมือนฝนตกไม่ทั่วฟ้า หรือหุ้นทุกตัวไม่ได้ปรับขึ้นตาม SET index นั่นก็หมายความว่ายังมีหุ้น ที่ราคาไม่แพงให้ลงทุน ดังนั้นการลงทุนในหุ้นต้องเลือก รายตัว

ส่วนเรื่องตกรถไฟขบวน 1,600 กว่าจุด หรือเมื่อ 8 เดือนที่แล้วไม่ได้ทยอยซื้อหุ้น ในประเด็นนี้แม้แต่ ผู้จัดการกองทุนบางค่ายยังยอมรับว่า ตัวเองก็ตกรถไฟ

อย่างไรก็ดี หากพิเคราะห์จากการให้สัมภาษณ์ของ ไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท หลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ก็จะพบว่า นักลงทุนไม่ได้ตกขบวนรถไฟจากสถานี 1,700 จุด

ทั้งนี้ ไพบูลย์ มองว่า หุ้นทั่วโลกและหุ้นไทยอยู่ใน ช่วงขาขึ้นหรือเป็นภาวะกระทิงไปอีก 2 ปี เนื่องจากสภาพ คล่องยังล้นโลก แต่ระยะสั้นหุ้นไทยอาจมีการปรับฐาน ลงบ้าง หลังราคาหุ้นขึ้นเริ่มเกินค่าเฉลี่ยตลาดหุ้นอาเซียน

นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนเน้นหุ้นคุณค่า หรือ วีไอ บอกว่า ตัวเองกระโดดขึ้นขบวนรถไฟมาได้สักพักแล้ว แม้จะมองว่าปัจจัยพื้นฐานทั้งด้านเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนไทย ไม่ได้โดดเด่นเมื่อเทียบภูมิภาค อีกทั้งมูลค่าหุ้นก็ไม่ถูกและไม่แพง แต่ก็ไม่อยากรอเพราะ การถือเงินสดมากๆ ทำให้เสียโอกาสในเรื่องผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ

หุ้นในสเปกรอบนี้ของนิเวศน์ เช่น กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เติบโต 5-6% ต่อปี เป็นระยะเวลา 3-5 ปี ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 5% ต่อปี ราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น หรือพี/อี เรโช ไม่เกิน 10 เท่า หุ้นซื้อขายที่ราคาต่อมูลค่า หุ้นทางบัญชีไม่เกิน 1 เท่า

สุดท้ายนี้ นักลงทุนวีไอระดับตำนาน แนะนำให้หลีกเลี่ยงลงทุนหุ้นอันตราย เช่น พี/อี สูง 40-50 เท่า มีการซื้อขายที่ราคาต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี 5-10 เท่า ขณะที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลต่ำเพียง 1% ต่อปี เป็นต้น

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันอังคารที่ 16 ธ.ค. 68