รุ่นใหม่หันขวาจัด

นันทิยา วรเพชรายุทธ

หากไม่มีอะไรผิดพลาดชนิดสร้างเซอร์ไพรส์ 180 องศา การเลือกตั้งทั่วไปในประเทศออสเตรียเมื่อวานนี้ก็จะได้ผู้ชนะหน้าใหม่ที่สร้างประวัติศาสตร์ "นายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุด" ทั้งในออสเตรียและในยุโรป เมื่อ "เซบาสเตียน คัวซ์" วัย 31 ปี หัวหน้าพรรคประชาชน (โอวีพี) มีคะแนนนำมาในผลสำรวจความเห็นของโพลหลายสำนัก

คัวซ์นับเป็นอีกหนึ่งนักการเมืองเลือดใหม่ที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงคล้ายกับ เอ็มมานูเอล มาครง จากฝรั่งเศส และจัสติน ทรูโด จากแคนาดา ที่ต่างก็คว้าชัยชนะขึ้นเป็นผู้นำรุ่นใหม่และพยายามเดินหน้าผลักดันความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในขณะนี้ โดยคัวซ์ซึ่งมีดีกรีเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรียมาตั้งแต่ปี 2012 ยังได้ชื่อว่าเป็นรัฐมนตรี ต่างประเทศที่อายุน้อยที่สุดของยุโรปมาแล้วด้วย

นอกจากเรื่องความเยาว์วัยในแวดวงนักการเมืองรุ่นเก๋าเขี้ยวลากดินแล้ว พวกเขาก็ยังโดดเด่นเรื่องรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา พร้อมบุคลิกคนหนุ่มที่ช่วยสร้างเสน่ห์ให้ข่าวการเมืองอันน่าเบื่อได้เป็นอย่างดี (แม้ที่สุดแล้ว หน้าตาและโปรไฟล์จะไม่ใช่ตัวตัดสินความสำเร็จตลอดรอดฝั่งของเส้นทางการเมืองก็ตาม)

ทว่าสิ่งที่ต่างออกไปก็คือ สื่อกระแสหลักส่วนใหญ่ไม่ได้ฉายภาพของคัวซ์เป็นดาวรุ่งนักการเมืองความหวังใหม่แบบเดียวกับทรูโดและ มาครง หากแต่เป็นภาพ "ความกังวล" ของ "คนรุ่นใหม่ที่ไปยังขั้วการเมืองขวาจัด" มากขึ้น

คัวซ์ไม่ได้มีภาพเล่นกับลูกผู้อพยพอย่างอบอุ่นเหมือนทรูโด และไม่ได้มุ่งจับขั้วเสริมความแกร่งของสหภาพยุโรป (อียู) เหมือนกับมาครง และ อังเกลาร์ แมร์เกิล แห่งเยอรมนี แต่เขาคือหัวหน้าพรรคฝ่ายขวา-กลาง ที่มีแนวโน้มจะจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคการเมืองขวาจัด เอฟพีโอ หลังจากที่เพิ่งประกาศแยกตัวออกมาจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคเอสพีดี ซึ่งเป็นซ้าย-กลาง

นโยบายหลักที่ปูทางสู่ชัยชนะในครั้งนี้ก็คือ การขวางผู้อพยพที่ทะลักล้นเข้ายุโรป ซึ่งชาวออสเตรียมองว่ามีการเปิดพรมแดนเมื่อปี 2015 เร็วเกินไป คัวซ์ประกาศว่าจะปิดประตูหลักเข้ายุโรปที่ผ่านบอลข่านและเมดิเตอร์เรเนียน และย้ำว่าจะหยุดการอพยพเข้าออสเตรียอย่างผิดกฎหมาย เพื่อคงไว้ซึ่งความมั่นคงและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในประเทศ

ว่ากันว่าชัยชนะของคัวซ์เป็นเพราะเขามุ่งที่นโยบายขวาจัดเกี่ยวกับผู้อพยพที่ประชาชนจำนวนมากเป็นกังวล แต่ตัวเขาเองไม่ได้แสดงความแข็งกร้าวแบบผู้นำขวาจัดทั่วไป ทำให้ภาพลักษณ์ไม่ดูสุดโต่งและน่ากังวลว่าจะพาประเทศไปเป็นขวาสุดขอบเหมือน มารีน เลอ เปน จากฝรั่งเศส ซึ่งใน จุดนี้ คัวซ์ก็ถูกหัวหน้าพรรคขวาจัด เอฟพีโอ โจมตีเช่นกันว่าขโมยไอเดียและนโยบายหลายอย่างของเขาไป

หากคัวซ์เป็นฝ่ายชนะและตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคขวาจัด นี่จะกลายเป็นชัยชนะของการเมืองฝ่ายขวาจัดในยุโรปเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่กระแสก่อตัวขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ราวปี 2015 เป็นต้นมา เพราะในการเลือกตั้งหลายประเทศของยุโรปในปีนี้ พรรคขวาจัดทำได้เพียงได้เสียงในสภาเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่มากพอ ที่จะได้เป็นขั้วรัฐบาล

ชัยชนะครั้งแรกของฝ่ายขวา ในยุโรปครั้งนี้อาจสะเทือนความพยายามเป็นหนึ่งเดียวของยุโรปเพื่อการปฏิรูป และเป็นหนังม้วนยาว ที่ต้องติดตามต่อเนื่องค่ะ n