posttoday

‘นอนดึก ตื่นเช้า’ ภาระเพื่อแผ่นดินของพระเจ้าแผ่นดิน

08 ตุลาคม 2560

เมื่อเร็วๆ นี้ผู้เขียนรู้สึกแสนจะยินดีที่พบว่าทางหอสมุดแห่งชาติ

โดย กรกิจ ดิษฐาน

เมื่อเร็วๆ นี้ผู้เขียนรู้สึกแสนจะยินดีที่พบว่าทางหอสมุดแห่งชาติ ได้อัพโหลดหนังสือเล่มหนึ่งเข้าสู่คอลเลกชั่นดิจิทัลให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าถึงข้อมูลอันมีค่า และช่วยตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของผู้เขียนได้มากทีเดียว หนังสือเล่มนี้คือ “เรื่องพระราชานุกิจ” พระนิพนธ์ของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์พระราชทานในการพระราชกุศล 100 วัน พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ณ วันที่ 20 ก.ย. 2498

ในเล่มนี้เราจะทราบหมดว่า ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 8 ทรงมีกิจวัตรประจำวันอย่างไรบ้าง ใครสนใจอ่านสามรรถเข้าไปที่เว็บไซต์ The Digital Collection of National Library of Thailand นอกจากเล่มนี้ ยังมีคลังหนังสือหายากอีกมากมาย

เรื่องพระราชานุกิจ หรือกิจวัตรประจำวันของพระเจ้าแผ่นดินไทย อิงกับบัญญัติที่ปรากฏในคัมภีร์พระมนูธรรมศาสตร์ และในกฎมณเทียรบาลฉบับเก่าดูแล้วเป็นกำหนดการที่ค่อนข้างรัดตัวไม่มีเวลาได้ทรงพระสำราญมากนัก ทั้งยังต้อง “นอนดึก ตื่นเช้า” ดูแล้วไม่เอื้อให้พระพลานามัยแข็งแรงนัก

ส่วนในหนังสือเรื่องพระราชานุกิจ ของ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เท่าที่อ่านดูจะพบว่าพระเจ้าแผ่นดินจะทรงตื่นบรรทมประมาณ 7 โมงเช้า ทรงบาตร 9 โมงเช้า มีรัชกาลที่ 6 ทรงตื่นบรรทมสายถึง 11-11.30 โมง เพราะทรงเข้าบรรทมดึกมาก ส่วนรัชกาลที่ 7 ทรงตื่นบรรทม 9 โมงเช้า เพราะมักทรงงานดึกเช่นกัน ขณะที่รัชกาลที่ 8 ทรงตื่นบรรทม 8-9.30 โมง

ส่วนเวลาเข้าบรรทมส่วนใหญ่หลังตี 1 เกือบทุกพระองค์ มีแต่รัชกาลที่ 8 ทรงเข้าบรรทม 4 ทุ่ม (เรื่องรัชกาลที่ 8 นี้สมเด็จพระอนุชาธิราช คือ รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น นับว่ามีคุณค่าไม่น้อย)

สำหรับพระราชกิจระหว่างวันเป็นไปในการบ้านเมืองเป็นส่วนใหญ่ (ดูเหมือนว่ารัชกาลที่ 3 จะทรงทุ่มเททำงานหนักเกี่ยวกับทุกกรมกอง) ที่เหลือคือไหว้พระฟังธรรม กับสันทนาการตามพระราชอัธยาศัย หรือบางพระองค์ก็ทำงานต่อจนดึก รัชกาลที่ 8 นั้นทรงไม่คุ้นกับบ้านเมือง จึงทรงใช้เวลาส่วนใหญ่เสด็จเยี่ยมสถานที่ต่างๆ กับศึกษาเรื่องของไทยและพระพุทธศาสนา เป็นต้น

เวลาตื่นกับเข้าบรรทมดูเหมือนจะใกล้เคียงกับที่กฎมณเทียรบาลระบุไว้ คือ ทรงบรรทมดึกกันมาก แต่ถ้าจะปฏิบัติตามกฎมณเทียรบาลกันจริงๆ ผมว่าเป็นคนธรรมดาจะสบายกว่า เพราะเป็นพระเจ้าแผ่นดินมันลำบากเหลือเกิน แทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง

ที่จีนสมัยราชวงศ์ชิงดูจะคล้ายไทย ให้เวลากับศาสนาค่อนข้างมาก เพราะนับถือพระพุทธศาสนาเข้มข้นกว่าราชวงศ์อื่น อย่างตารางชีวิตฮ่องเต้สมัยชิง คร่าวๆ มีดังนี้

• ตี 5 ทรงตื่นบรรทม แต่งพระองค์ตามฤดูกาล หรือวโรกาส ในช่วงวันยังต้องเปลี่ยนฉลองพระองค์ตามวาระ แต่งพระองค์เสร็จแล้วไหว้พระ

• 6 โมงเช้า ศึกษาบันทึกประวัติศาสตร์ อ่านคติพจน์โบราณ เรียนรู้ความสำเร็จและความผิดพลาดในอดีต เพื่อนำมาใช้เป็นบทเรียนปกครองประเทศ

• 7 โมงเช้า ทรงเสวยพระกระยาหารเช้า ตามธรรมเนียมแมนจู จะทรงเสวยสำรับหลัก 2 มื้อ คือ มื้อเช้ากับมื้อบ่าย ระหว่างเสวยเจ้ากรมวังกับเจ้ากรมราชตระกูล เข้าเฝ้าสนองรับสั่ง ระหว่างนี้ทรงอ่านรายงาน อ่านฎีกา แล้วสดับรายชื่อขุนนางที่จะขอเข้าเฝ้าโดยขันทีหลวงเป็นผู้อ่าน จากนั้นทรงเรียกขุนนางมาเข้าเฝ้า ซักถามเรื่องในรายงาน

• 9 โมงครึ่ง ประชุมขุนนางชั่วโมงครึ่ง ตามธรรมเนียมประชุมใหญ่ทุกๆ วันที่ 5, 15 และ 25 แต่ฮ่องเต้บางองค์ เช่น คังซี ประชุมทุกวัน

• 11 โมง เสด็จกลับพระตำหนัก ทรงตรวจรายงาน อนุมัติหรือไม่อนุมัติกิจการบ้านเมือง

• บ่าย 2 โมงครึ่ง เสวยพระกระยาหารบ่าย เป็นมื้อหลักมื้อที่ 2 หลังจากนั้นทรงพักผ่อนตามพระราชอัธยาศัย ส่วนใหญ่เป็นการอ่านหนังสือ

• 5 โมงเย็น ทรงไหว้พระหรือประกอบพิธีทางศาสนาอื่นๆ หรือเสวยพระกระยาหารว่าง

• 9 ทุ่ม เสด็จขึ้นพระแท่นบรรทม หากจะเรียกพระสนมเข้ามาก็ตามแต่พระทัย แต่เสร็จเรื่องแล้วส่งพระสนมกลับ ห้ามค้างในพระตำหนักใหญ่

ตารางชีวิตแบบนี้ หลังรัชกาลเฉียนหลงหย่อนยานมาก การประชุมขุนนางไม่เคร่งครัด เป็นเหตุให้บ้านเมืองเสื่อมถอยลงในกาลต่อมา

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"