posttoday

5 วิธีรับมือ... ‘โบรกเกอร์เถื่อน’

04 ตุลาคม 2560

ทีมข่าวการเงินโพสต์ทูเดย์ แม้ประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคดิจิทัล แต่ดูเหมือนว่าปัญหาการหลอกลวงขายประกันภัยจากกลุ่มมิจฉาชีพที่อ้างตัวว่าเป็นตัวแทนนายหน้าของบริษัทประกันภัยต่างๆ ก็ยังคงมีต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างใด

ทีมข่าวการเงินโพสต์ทูเดย์

แม้ประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคดิจิทัล แต่ดูเหมือนว่าปัญหาการหลอกลวงขายประกันภัยจากกลุ่มมิจฉาชีพที่อ้างตัวว่าเป็นตัวแทนนายหน้าของบริษัทประกันภัยต่างๆ ก็ยังคงมีต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างใด

โดยเฉพาะเรื่องของการทำประกันภัยรถยนต์ ที่จะใช้ค่าเบี้ยประกันภัยในราคาต่ำมากมาล่อใจ ซึ่งเมื่อลูกค้าหลงเชื่อและซื้อประกันไปแล้ว เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากบริษัทผู้รับประกันภัย และนั่นย่อมย้อนกลับมาสร้างความเสียหายและความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจประกันภัยเอง

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ก็ไม่ได้นิ่งดูดาย โดย สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. ยืนยันว่า ทาง คปภ.ยังคงคุมเข้มเรื่องมาตรฐานและจริยธรรมของคนกลางประกันภัยอย่างเข้มงวด รวมทั้งได้ดำเนินการอย่างเฉียบขาดกับตัวแทน/นายหน้าที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบและก่อความเสียหายแก่ผู้บริโภค

โดยมีบทลงโทษทั้งจำ ทั้งปรับ ขึ้นอยู่กับประเภทความผิด อย่างในกรณีขายประกันภัยโดยไม่มีใบอนุญาตจะมีโทษ จำคุก 6 เดือน ปรับ 5 หมื่นบาท หากมีใบอนุญาตแล้วขายผิดประเภท จะถูกเพิกถอนใบอนุญาต และถ้าทำให้ลูกค้าเสียหาย ก็ดำเนินการตามกฎหมายอาญาได้ด้วย

"ประชาชนควรเลือกซื้อประกันภัยผ่านตัวแทน หรือนายหน้าประกันภัยที่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนและการจ่ายเบี้ยต้องขอเอกสารแสดงการรับเงินทุกครั้งเพื่อเป็นหลักฐาน เพื่อช่วยให้ผู้เอาประกันภัยได้รับความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยอย่างครบถ้วน" สุทธิพล กล่าว

อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อว่าเป็นตัวแทนผ่าน แอพพลิเคชั่น รอบรู้ประกันภัยของ คปภ. หรือทาง www.oic.co.th ได้

เรื่องนี้ บริษัท วิริยะประกันภัย ในฐานะผู้นำตลาด ก็ได้ออกโรงเตือน ผู้บริโภคให้ใช้ความระมัดระวังนายหน้าเถื่อนเหล่านี้เช่นกัน เนื่องจากในปัจจุบันการหลอกลวงในลักษณะนี้ นับวันจะมีมากขึ้นและมีรูปแบบการหลอกลวงที่ซับซ้อนตามขึ้นไปด้วย และที่สำคัญเป็นการดำเนินการที่นอกเหนืออำนาจการควบคุมของบริษัทประกันภัย

ดังนั้น การเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่านนายหน้าประกันวินาศภัยในแต่ละครั้ง ผู้บริโภคจำต้องเข้าใจถึงบทบาทที่แท้จริงของนายหน้าประกันวินาศภัยเสียก่อน

ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกันวินาศภัย พ.ศ. 2510 มาตรา 4 ได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า นายหน้าประกันวินาศภัย หมายความว่า ผู้ซึ่งชี้ช่องหรือจัดการให้บุคคลทำสัญญาประกันภัยกับบริษัท โดยหวังบำเหน็จเนื่องจากการนั้น

ขณะที่ตัวแทนประกันวินาศภัย หมายความว่า ผู้ซึ่งบริษัทมอบหมายให้ทำการชักชวนให้บุคคลทำสัญญาประกันภัยกับบริษัทนั้นก็หมายความว่า นายหน้าประกันวินาศภัยทำงานเป็นอิสระไม่อยู่ในการกำกับดูแลของบริษัทประกันภัย และสามารถชี้ช่องให้ผู้บริโภคเลือกซื้อประกันบริษัทประกันภัยไหนก็ได้ รวมไปถึงการจัดการเจรจาต่อรองกับบริษัทผู้รับประกันภัยเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกเงื่อนไขความคุ้มครองและอัตราเบี้ยในราคาที่เหมาะสม และอยู่ในกรอบของแบบประกันภัยพื้นฐานของบริษัทนั้นๆ ที่ได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนประกันภัยมาก่อนหน้า

แต่ตัวแทนประกันวินาศภัยต้องทำงานภายใต้การกำกับดูแลของบริษัท เพราะทำงานโดยได้รับการมอบหมายจากบริษัทประกันภัยให้ทำหน้าที่แทน

สาระสำคัญอีกประการหนึ่งในบทบาทหน้าที่ของนายหน้าประกันวินาศภัย คือ นายหน้าประกันวินาศภัยไม่สามารถที่จะรับเบี้ยค่าประกันภัยแทนบริษัทที่รับประกันภัยได้ ยกเว้นนายหน้าประกันกันวินาศภัยนั้นๆ จะได้รับหนังสือมอบอำนาจให้รับเบี้ยประกันภัยจากบริษัทที่รับประกันภัยนั้นๆ และมีแบบฟอร์มการรับตามที่ตกลงกันไว้

ส่วนตัวแทนขายประกันวินาศภัยสามารถรับค่าเบี้ยประกันภัยแทนบริษัทรับประกันภัยได้ แต่แบบฟอร์มเอกสารการรับค่าเบี้ยประกันภัยต้องเป็นของบริษัทรับประกันภัยนั้นๆ

ดังนั้น เมื่อนายหน้าประกันภัยมีความเป็นอิสระในการทำงานได้อย่างกว้างขวางอย่างนี้ การพิจารณาเลือกซื้อประกันภัยจากนายหน้าประกันวินาศภัยภัย ไม่ว่าเป็นนายหน้าบุคคลก็ดีหรือนายหน้านิติบุคคลก็ได้ จำเป็นต้องใช้ความละเอียดถี่ถ้วนในการพิจารณาเลือกซื้อมากขึ้น โดยมี 5 วิธีการตรวจสอบก่อนจ่ายเบี้ยประกันภัย เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองแน่นอน

1.มีสำนักงานหลักแหล่งชัดเจน เชื่อถือได้

นายหน้าประกันวินาศภัยภัยที่เสนอขายประกันภัย ต้องแสดงที่ตั้งสำนักงานของบริษัทให้เห็นเป็นประจักษ์ เชื่อถือได้ ต้องตรวจสอบการจดทะเบียนของบริษัทว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยเฉพาะการตรวจสอบลงไปถึงวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งบริษัท ต้องระบุว่าประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัยด้วย

ดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นล่าสุด บริษัทที่ถูกดำเนินคดีเป็นบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและมีที่ตั้งชัดเจน แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าในหนังสือบริคณห์สนธิไม่ได้ระบุวัตถุประสงค์ว่า ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัย

2.ดูบัตรก่อนซื้อ แสดงบัตรก่อนขาย

กฎหมายบังคับให้ตัวแทนขายประกันวินาศภัยหรือนายหน้าประกันภัย ต้องแสดงบัตรประจำตัวคือ ใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้าประกันภัย หรือแม้แต่ขายประกันผ่านทางโทรศัพท์จำต้องบอกหมายเลขใบอนุญาตก่อนเสมอ โดยใบอนุญาตนี้สามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าถูกต้องหรือไม่ กับทาง คปภ.

อีกทั้งเพื่อให้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ณ ปัจจุบัน ควรตรวจสอบบริษัทประกันภัยที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นบริษัทที่รับประกันภัยด้วยเพื่อความแน่นอน

3.ตัวแทนต้องมีสังกัด นายหน้าต้องมีใบแต่งตั้ง

กรณีที่มีการกล่าวอ้างถึงบริษัทประกันภัยรายใดรายหนึ่งในฐานะบริษัทผู้รับประกันภัย ควรอย่างยิ่งที่ต้องตรวจสอบกับบริษัทประกันภัยนั้นๆ โดยตรง ว่านายหน้าประกันภัยนั้นๆ เป็นคู่สัญญากับบริษัทหรือไม่ เพราะการตรวจสอบเฉพาะใบแต่งตั้งที่นายหน้าแสดงให้เห็นนั้น อาจถูกปลอมแปลงหรือเป็นใบแต่งตั้งเดิมที่หมดอายุหรือถูกเพิกถอนไปแล้ว

4.ต้องได้เลขรับแจ้งอุบัติเหตุ เช็กแล้วชัวร์

กระบวนการการรับประกันภัยรถยนต์ เมื่อนายหน้าประกันวินาศภัยได้รับทราบความต้องการความคุ้มครองที่ผู้บริโภคจะประสงค์ซื้อแล้ว ก็จะดำเนินการส่งใบคำขอเอาประกันภัยไปยังบริษัทผู้รับประกันภัย และเมื่อบริษัทผู้รับประกันภัยได้รับข้อมูลคำขอประกันภัย ถ้าไม่มีอะไรทักท้วง บริษัทผู้รับประกันภัยจะออกหมายเลขรับแจ้งอุบัติเหตุให้ก่อน ดังนั้นเมื่อรับหมายเลขแจ้งอุบัติเหตุจากนายหน้าประกันภัย ควรอย่างยิ่งที่จำต้องตรวจสอบย้อนกลับเพื่อยืนยันหมายเลขดังกล่าวว่าถูกต้องหรือไม่

5.นายหน้าต้องแสดงใบรับมอบอำนาจก่อนรับเบี้ยประกันภัย

กฎหมายระบุไว้ว่า นายหน้าประกันวินาศภัยต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจจากบริษัทผู้รับประกันภัยทุกครั้งที่มีการรับเบี้ยประกันภัยในนามของบริษัทนายหน้าประกันภัย

จะเห็นได้ว่าเพียงปฏิบัติตามแนวทางที่ว่านี้ ผู้บริโภคก็สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองประกันภัยได้อย่างมั่นใจ และให้ตระหนักเป็นอย่างยิ่งว่า การซื้อเบี้ยประกันภัยถูกเกินจริง ย่อมที่จะเจอแก๊งมิจฉาชีพหลอกขายประกันตัวจริงเช่นกัน

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ