posttoday

ดีเดย์เริ่ม9พ.ย.ระบบTaxi OK ยกเครื่องบริการ

29 กันยายน 2560

คมนาคมพร้อมเดินหน้า Taxi OK ยกระดับงานบริการ ขีดเส้นแท็กซี่ต้องเข้าระบบใหม่ภายในปี 2561

คมนาคมพร้อมเดินหน้า Taxi OK ยกระดับงานบริการ ขีดเส้นแท็กซี่ต้องเข้าระบบใหม่ภายในปี 2561

นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการแอพพลิเคชั่น Taxi Ok และ บริการ Taxi VIP ตัวโครงการ Taxi OK  เพื่อยกระดับงานบริการแท็กซี่ผ่านการนำเทคโนโลยีมาใช้ควบคู่ไปด้วยกัน โดยกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะเริ่มเปิดตัวโครงการดังกล่าวในวันที่ 9 พ.ย.นี้ เบื้องต้นตั้งเป้าภายในปี 2560 จะมีแท็กซี่ปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบ Taxi OK จำนวน40,000 คัน ก่อนเพิ่มเป็นจำนวน80,000 คัน หรือคิดเป็น 72% ของแท็กซี่ทั้งหมดในปี 2561 ปัจจุบันมีรถแท็กซี่ในระบบทั้งหมด 110,000 คัน โดยมีแท็กซี่ที่จะหมดอายุและต้องเปลี่ยนไปเป็น Taxi OK ภายในปีนี้40,000 คัน จากนั้นในปีหน้าจะมีแท็กซี่ประเภทนิติบุคคลอีกราว 40,000 คันเข้าสู่ระบบนี้ ส่วนแท็กซี่ประเภทส่วนบุคคลที่เหลือ 30,000 คันจะใช้ระบบความสมัครใจว่าจะตัดสินใจเปลี่ยนเป็นระบบใหม่ หรือจะให้บริการแบบเดิมต่อไปก็ได้ อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ ขบ.ไปพิจารณาเพิ่มตัวเลือก pre-booking หรือระบบการจองแท็กซี่ล่วงหน้าในแอพพลิเคชั่น Taxi Ok เพื่อสร้างความแตกต่างในงานบริหารที่ แกร็บ และ อูเบอร์ ไม่มี

สำหรับโครงการ Taxi VIP ขณะนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างพิจารณาอัตราราคาตั้งต้นและการกำหนดราคาระหว่างทางให้เป็นไปตามความเหมาะสม โดยเบื้องต้นมีเพดานราคาค่าโดยสารแบ่งได้เป็นดังนี้ 1. อัตราค่าโดยสาร 2 กม.แรก ต้องไม่เกิน 200 บาท ส่วนกิโลเมตรต่อไปต้องไม่เกินกิโลเมตรละ 30 บาท ถ้าหากรถติดหยุดนิ่งต้องคิดอัตราค่าโดยสารไม่เกินนาทีละ 10 บาท ขณะที่อัตราค่าโดยสารแท็กซี่ปกติในปัจจุบันอยู่ที่ 2 กิโลเมตรแรกไม่เกิน 50 บาท ส่วนกิโลเมตรต่อไปไม่เกิน 12 บาท และถ้าหากรถติดหยุดนิ่งต้องคิดอัตราค่าโดยสารไม่เกินนาทีละ 3 บาท

นายพิชิตกล่าวต่อว่า ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ได้เสนอแนวทางการยกระดับบริการแท็กซี่มายังกระทรวงคมนาคม หลังจากที่มีการร้องเรียนจากภาคประชาชนจำนวนมากอาทิ การปฏิเสธผู้โดยสาร การขับรถประมาทและใช้วาจาไม่สุภาพตลอดจนการไม่คิดค่าโดยสารตามราคาจริง ซึ่ง TCDC ได้ไปศึกษารูปแบบการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาเพื่อเสนอให้กระทรวงคมนาคมนำไปปรับใช้ในอนาคต ประกอบด้วย 1. ระบบแท็กซี่ร่วมเดินทาง หรือ Taxi-Sharing เป็นการให้ผู้โดยสารที่ต้องการไปทางเดียวกันสามารถใช้บริการร่วมกันได้เพื่อลดภาระค่ใช้จ่ายทำให้ค่าโดยสารถูกลงและการแก้ปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารช่วงชั่วโมงเร่งด่วน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้ผู้ขับขี่อีกด้วย ซึ่งในต่างประเทศระบบดังกล่าวเป็นที่นิยมแต่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัว (privacy) และ ความปลอดภัย(Safety) ไปด้วย

2.ป้ายเรียกแท็กซี หรือ Taxi Stand โดยจะเป็นการติดตั้งป้ายดิจิทัลเสมือนจริง (Virtual) เพื่อให้ผู้โดยสารกดปุ่มเรียกแท็กซี่ได้ผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลไปในระบบแอพพลิเคชั่นผู้ขับขี่ให้รู้ตำแหน่งของผู้โดยสารก่อนแสดงผลตำแหน่งของแท็กซี่ขึ้นบนหน้าจอTaxi Stand ให้ผู้โดยสารรับทราบ เพื่อแก้ปัญหาการเข้าถึงแท็กซี่ในที่ห่างไกลอีกทั้งยังเติมเต็มบริการแท็กซี่สมัยใหม่สำหรับผู้ที่ไม่ใช้แอพพลิเคชั่นเรียกแท็กซี่บนมือถืออีกด้วย

3.ระบบ Pre-Booking บริการจองแท็กซี่ล่วงหน้าเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารให้สามารถวางแผนการเดินทางและลดปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารได้ อีกทั้งยังเป็นฟีเจอร์ในแอพพลิเคชั่นที่อุเบอร์และแกร็บ ไม่มีอีกด้วย

4. ระบบบริการเสริมหรือ Incar-Media เป็นรูปแบบบริการเสริมด้านสื่อบนรถแท็กซี่ที่ผู้โดยสารต้องจ่ายเพิ่ม โดยเบื้องต้นน่าจะเริ่มจากบริการอินเตอร์เน็ตไร้สายบนแท็กซี่ Taxi-Wifi ภายในเดือนธ.ค. เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสารในการเดินทาง โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท ตลอดจนบริการดูหนังฟังเพลงรวมถึงบริการแนะนำร้านอาหารชื่อดังที่อยู่ในละแวกการเดินทางอีกด้วย

5.การเพิ่มระบบแสดงข้อมูลของแท็กซี่ให้ผู้โดยสารทราบ อาทิ ข้อมูลผู้ขับขี่ไปจนถึงข้อมูลปริมาณเชื้อเพลิงขณะนั้นเพื่อแก้ปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารเพราะเชื้อเพลิงไม่เพียงพอไปยังจุดหมายปลายทาง

อย่างไรก็ตามขณะนี้ทีซีดีซี ได้ไปเจรจากับสหกรณ์แท็กซี่เพื่อนำระบบนวัตกรรมดังกล่าวไปทดลองกับผู้ใช้จริง ตลอดจนในเดือนหน้าจะเริ่มการติดตั้งป้ายเพื่อทดลองใช้เป็นที่แรกภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นจะติดตั้งเพิ่มต่อไปในเขตผู้คนพลุกพล่านอาทิ สยามและเจริญกรุง โดยหลังจากนี้ tcdc จะรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นพร้อมเสนอให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณาภายใน 3 เดือน แล้วหลังจากนั้นกระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้คัดเลือกต่อไปว่าอันไหนสามารถมีความเหมาะสมและนำมาใช้กับบริการแท็กซี่ยุคใหม่ได้

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมระบุว่า ขบ.ได้กำหนดให้รถแท็กซี่ที่จดทะเบียนใหม่ทุกคันติดตั้งเครื่องบันทึกการเดินทางของรถ ประกอบด้วยอุปกรณ์ GPS Tracking ซึ่งเป็นระบบติดตามรถแบบ Real-time พร้อมอุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับที่ใช้กับใบอนุญาตขับรถสาธารณะที่กรมการขนส่งทางบกออกให้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยต้องสามารถส่ง ระยะทาง เวลา พิกัดตำแหน่งรถ เส้นทางการเดินทาง ความเร็วรถ ค่าโดยสารจากมิเตอร์ ระบบประเมินค่าโดยสารเบื้องต้นและระบบตรวจสอบความผิดปกติของค่าโดยสาร หรืออาจติดตั้งมาตรค่าโดยสารแบบดิจิทัล ที่มีคุณสมบัติครบตามเงื่อนไข มีระบบกล้องถ่ายภาพภายในรถแบบ Snap Shot เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับรถและผู้โดยสาร รวมถึงมีปุ่มฉุกเฉินหรือปุ่ม Emergency สำหรับผู้โดยสารที่สามารถส่งข้อมูลมายังศูนย์ให้บริการรถแท็กซี่และกรมการขนส่งทางบกเพื่อขอความช่วยเหลือได้แบบทันที ทันสถานการณ์ ส่วนด้านบทลงโทษของแท็กซี่ระบบใหม่อย่าง Taxi Ok นั้น ขบ.จะตรวจสอบอย่างเข้มงวด หากหากพบผู้กระทำผิดในทุกกรณีจะดำเนินการพักใช้ใบอนุญาตทันทีรวมถึงการปรับผู้ประกอบการและเจ้าของอู่ในอัตราโทษสูงสุดที่ 5,000 บาท โดยแบ่งเป็น การกระทำผิดครั้งแรกพักใช้ใบอนุญาต 15 วัน กระทำผิดครั้งที่สอง พักใช้ 1 เดือนและหากกระทำผิดซ้ำซากจะดำเนินการยกเลิกใบอนุญาตไปเลย ส่วนโทษหนักที่จะต้องถอนใยอนุญาตทันทีคือการปล่อยผู้โดยสารลงกลางทาง

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"