ดีเดย์เริ่ม9พ.ย.ระบบTaxi OK ยกเครื่องบริการ
คมนาคมพร้อมเดินหน้า Taxi OK ยกระดับงานบริการ ขีดเส้นแท็กซี่ต้องเข้าระบบใหม่ภายในปี 2561
คมนาคมพร้อมเดินหน้า Taxi OK ยกระดับงานบริการ ขีดเส้นแท็กซี่ต้องเข้าระบบใหม่ภายในปี 2561
นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการแอพพลิเคชั่น Taxi Ok และ บริการ Taxi VIP ตัวโครงการ Taxi OK เพื่อยกระดับงานบริการแท็กซี่ผ่านการนำเทคโนโลยีมาใช้ควบคู่ไปด้วยกัน โดยกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะเริ่มเปิดตัวโครงการดังกล่าวในวันที่ 9 พ.ย.นี้ เบื้องต้นตั้งเป้าภายในปี 2560 จะมีแท็กซี่ปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบ Taxi OK จำนวน40,000 คัน ก่อนเพิ่มเป็นจำนวน80,000 คัน หรือคิดเป็น 72% ของแท็กซี่ทั้งหมดในปี 2561 ปัจจุบันมีรถแท็กซี่ในระบบทั้งหมด 110,000 คัน โดยมีแท็กซี่ที่จะหมดอายุและต้องเปลี่ยนไปเป็น Taxi OK ภายในปีนี้40,000 คัน จากนั้นในปีหน้าจะมีแท็กซี่ประเภทนิติบุคคลอีกราว 40,000 คันเข้าสู่ระบบนี้ ส่วนแท็กซี่ประเภทส่วนบุคคลที่เหลือ 30,000 คันจะใช้ระบบความสมัครใจว่าจะตัดสินใจเปลี่ยนเป็นระบบใหม่ หรือจะให้บริการแบบเดิมต่อไปก็ได้ อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ ขบ.ไปพิจารณาเพิ่มตัวเลือก pre-booking หรือระบบการจองแท็กซี่ล่วงหน้าในแอพพลิเคชั่น Taxi Ok เพื่อสร้างความแตกต่างในงานบริหารที่ แกร็บ และ อูเบอร์ ไม่มี
สำหรับโครงการ Taxi VIP ขณะนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างพิจารณาอัตราราคาตั้งต้นและการกำหนดราคาระหว่างทางให้เป็นไปตามความเหมาะสม โดยเบื้องต้นมีเพดานราคาค่าโดยสารแบ่งได้เป็นดังนี้ 1. อัตราค่าโดยสาร 2 กม.แรก ต้องไม่เกิน 200 บาท ส่วนกิโลเมตรต่อไปต้องไม่เกินกิโลเมตรละ 30 บาท ถ้าหากรถติดหยุดนิ่งต้องคิดอัตราค่าโดยสารไม่เกินนาทีละ 10 บาท ขณะที่อัตราค่าโดยสารแท็กซี่ปกติในปัจจุบันอยู่ที่ 2 กิโลเมตรแรกไม่เกิน 50 บาท ส่วนกิโลเมตรต่อไปไม่เกิน 12 บาท และถ้าหากรถติดหยุดนิ่งต้องคิดอัตราค่าโดยสารไม่เกินนาทีละ 3 บาท
นายพิชิตกล่าวต่อว่า ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ได้เสนอแนวทางการยกระดับบริการแท็กซี่มายังกระทรวงคมนาคม หลังจากที่มีการร้องเรียนจากภาคประชาชนจำนวนมากอาทิ การปฏิเสธผู้โดยสาร การขับรถประมาทและใช้วาจาไม่สุภาพตลอดจนการไม่คิดค่าโดยสารตามราคาจริง ซึ่ง TCDC ได้ไปศึกษารูปแบบการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาเพื่อเสนอให้กระทรวงคมนาคมนำไปปรับใช้ในอนาคต ประกอบด้วย 1. ระบบแท็กซี่ร่วมเดินทาง หรือ Taxi-Sharing เป็นการให้ผู้โดยสารที่ต้องการไปทางเดียวกันสามารถใช้บริการร่วมกันได้เพื่อลดภาระค่ใช้จ่ายทำให้ค่าโดยสารถูกลงและการแก้ปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารช่วงชั่วโมงเร่งด่วน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้ผู้ขับขี่อีกด้วย ซึ่งในต่างประเทศระบบดังกล่าวเป็นที่นิยมแต่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัว (privacy) และ ความปลอดภัย(Safety) ไปด้วย
2.ป้ายเรียกแท็กซี หรือ Taxi Stand โดยจะเป็นการติดตั้งป้ายดิจิทัลเสมือนจริง (Virtual) เพื่อให้ผู้โดยสารกดปุ่มเรียกแท็กซี่ได้ผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลไปในระบบแอพพลิเคชั่นผู้ขับขี่ให้รู้ตำแหน่งของผู้โดยสารก่อนแสดงผลตำแหน่งของแท็กซี่ขึ้นบนหน้าจอTaxi Stand ให้ผู้โดยสารรับทราบ เพื่อแก้ปัญหาการเข้าถึงแท็กซี่ในที่ห่างไกลอีกทั้งยังเติมเต็มบริการแท็กซี่สมัยใหม่สำหรับผู้ที่ไม่ใช้แอพพลิเคชั่นเรียกแท็กซี่บนมือถืออีกด้วย
3.ระบบ Pre-Booking บริการจองแท็กซี่ล่วงหน้าเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารให้สามารถวางแผนการเดินทางและลดปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารได้ อีกทั้งยังเป็นฟีเจอร์ในแอพพลิเคชั่นที่อุเบอร์และแกร็บ ไม่มีอีกด้วย
4. ระบบบริการเสริมหรือ Incar-Media เป็นรูปแบบบริการเสริมด้านสื่อบนรถแท็กซี่ที่ผู้โดยสารต้องจ่ายเพิ่ม โดยเบื้องต้นน่าจะเริ่มจากบริการอินเตอร์เน็ตไร้สายบนแท็กซี่ Taxi-Wifi ภายในเดือนธ.ค. เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสารในการเดินทาง โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท ตลอดจนบริการดูหนังฟังเพลงรวมถึงบริการแนะนำร้านอาหารชื่อดังที่อยู่ในละแวกการเดินทางอีกด้วย
อย่างไรก็ตามขณะนี้ทีซีดีซี ได้ไปเจรจากับสหกรณ์แท็กซี่เพื่อนำระบบนวัตกรรมดังกล่าวไปทดลองกับผู้ใช้จริง ตลอดจนในเดือนหน้าจะเริ่มการติดตั้งป้ายเพื่อทดลองใช้เป็นที่แรกภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นจะติดตั้งเพิ่มต่อไปในเขตผู้คนพลุกพล่านอาทิ สยามและเจริญกรุง โดยหลังจากนี้ tcdc จะรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นพร้อมเสนอให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณาภายใน 3 เดือน แล้วหลังจากนั้นกระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้คัดเลือกต่อไปว่าอันไหนสามารถมีความเหมาะสมและนำมาใช้กับบริการแท็กซี่ยุคใหม่ได้
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมระบุว่า ขบ.ได้กำหนดให้รถแท็กซี่ที่จดทะเบียนใหม่ทุกคันติดตั้งเครื่องบันทึกการเดินทางของรถ ประกอบด้วยอุปกรณ์ GPS Tracking ซึ่งเป็นระบบติดตามรถแบบ Real-time พร้อมอุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับที่ใช้กับใบอนุญาตขับรถสาธารณะที่กรมการขนส่งทางบกออกให้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยต้องสามารถส่ง ระยะทาง เวลา พิกัดตำแหน่งรถ เส้นทางการเดินทาง ความเร็วรถ ค่าโดยสารจากมิเตอร์ ระบบประเมินค่าโดยสารเบื้องต้นและระบบตรวจสอบความผิดปกติของค่าโดยสาร หรืออาจติดตั้งมาตรค่าโดยสารแบบดิจิทัล ที่มีคุณสมบัติครบตามเงื่อนไข มีระบบกล้องถ่ายภาพภายในรถแบบ Snap Shot เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับรถและผู้โดยสาร รวมถึงมีปุ่มฉุกเฉินหรือปุ่ม Emergency สำหรับผู้โดยสารที่สามารถส่งข้อมูลมายังศูนย์ให้บริการรถแท็กซี่และกรมการขนส่งทางบกเพื่อขอความช่วยเหลือได้แบบทันที ทันสถานการณ์ ส่วนด้านบทลงโทษของแท็กซี่ระบบใหม่อย่าง Taxi Ok นั้น ขบ.จะตรวจสอบอย่างเข้มงวด หากหากพบผู้กระทำผิดในทุกกรณีจะดำเนินการพักใช้ใบอนุญาตทันทีรวมถึงการปรับผู้ประกอบการและเจ้าของอู่ในอัตราโทษสูงสุดที่ 5,000 บาท โดยแบ่งเป็น การกระทำผิดครั้งแรกพักใช้ใบอนุญาต 15 วัน กระทำผิดครั้งที่สอง พักใช้ 1 เดือนและหากกระทำผิดซ้ำซากจะดำเนินการยกเลิกใบอนุญาตไปเลย ส่วนโทษหนักที่จะต้องถอนใยอนุญาตทันทีคือการปล่อยผู้โดยสารลงกลางทาง


