posttoday

ซิมโฟนี่บุกเคเบิลใต้น้ำ

27 กันยายน 2560

ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น ควงพันธมิตรโทรคมนาคมมาเลเซียกับกัมพูชา ทุ่มกว่า 2,000 ล้าน ลุยโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ 1,300 กม.

ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น ควงพันธมิตรโทรคมนาคมมาเลเซียกับกัมพูชา ทุ่มกว่า 2,000 ล้าน ลุยโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ 1,300 กม.

นายธีรรัตน์ ปัณฑรสูตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น ผู้ให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูงภายในและระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าร่วมลงทุนกับ 2 พันธมิตร ได้แก่ บริษัท เทเลคอม มาเลเซีย เบอร์ฮัด ประเทศมาเลเซีย และบริษัท เทลโกเทค ประเทศกัมพูชา ภายใต้โครงการ MCT ซับมารีน เคเบิล ซิสเต็มส์ พัฒนาโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ ใช้งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะเป็นการรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจในยุคดิจิทัลอีโคโนมี หรือไทยแลนด์ 4.0 โดยจุดเด่นของโครงข่ายระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ MCT สามารถรับส่งข้อมูลในปริมาณมากได้อย่างรวดเร็ว ระบบสามารถรองรับได้สูงถึง 30 Tpbs. ซึ่งมีความเสถียร ปลอดภัยในราคาที่เหมาะสม สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารระหว่าง 3 ประเทศรวมถึงการเชื่อมต่อไปยังประเทศอื่นทั่วโลก

"ระบบเคเบิลใต้น้ำจะเสริมสร้างให้ไทยมีโอกาสเป็นฮับทางด้านสื่อสารโทรคมนาคม และจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับคนไทยในการใช้บริการอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ ซึ่งบริษัทถือเป็นเอกชนรายแรกที่ลงทุนสร้างระบบดังกล่าว ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนโดยได้เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือน เม.ย.ปีนี้ ซึ่งระบบจะมีการทดสอบสัญญาณก่อนที่จะใช้จริง ขณะนี้มีความพร้อมที่จะให้บริการเต็มระบบแล้ว" นายธีรรัตน์ กล่าว

สำหรับกลุ่มลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ อาทิ โมบาย โอเปอเรเตอร์ และไอเอสพี รวมถึงเน็ตเวิร์ก เซอร์วิส โปรวายเดอร์ ที่ได้รับใบอนุญาตให้บริการเชื่อมต่อบริการระหว่างประเทศที่ต้องการระบบโครงข่ายสำรองหรือป้องกันกับระบบโครงข่ายเดิมที่ใช้งานอยู่ นิคมอุตสาหกรรม สถาบันการเงิน และหน่วยงานภาครัฐ รวมไปถึงการเจาะลูกค้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการส่งข้อมูลผ่านประเทศไทยไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ด บีโอไอ ซึ่งในช่วงเวลา 8 ปีนั้น หากรายได้ของบริษัทยังไม่เกิน 988 ล้านบาทตามเกณฑ์นั้นก็ไม่ต้องเสียภาษี

นายธีรรัตน์ คาดการณ์ว่ารายได้ ปี 2560 จะเติบโตไม่ถึง 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,380 ล้านบาท เนื่องจาก การรับรู้รายได้โครงข่ายเคเบิลใต้น้ำช้ากว่ากำหนดจากเดิมที่จะรับรู้ในเดือน ส.ค. แต่เลื่อนมาเป็นเดือน ต.ค. 2560 ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าแล้ว แต่เป็นลูกค้าจากต่างประเทศ และขณะนี้อยู่ระหว่างทำการตลาดกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

นอกจากนี้ บริษัท ไทม์ดอทคอม อินเตอร์เนชั่นแนล เอสดีเอ็น บีเอชดี เป็นบริษัทจดทะเบียนในมาเลเซีย เตรียมจะเข้าถือหุ้นในบริษัทเกิน 40% หลังจากทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) จำนวนไม่ต่ำกว่า 35% แต่ไม่เกิน 37% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว และหลังจากบริษัทเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมมูลค่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะขายหุ้นเพิ่มทุนเสร็จในเดือน ธ.ค.นี้

"บริษัทจะมีการแถลงแผนธุรกิจ ในต้นปี 2561 หลังจากมีผู้ถือหุ้นรายใหม่และแผนลงทุนหลังจากได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิม โดยคาดว่ารายได้ในปี 2561 จะเติบโตขึ้น 12% จะมีรายได้จากธุรกิจเคเบิลใต้น้ำ MCT ประมาณ 150 ล้านบาท" นายธีรรัตน์ กล่าว

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2