ปากกาวิเศษ
เย็นวันนี้ ทันทีที่รถจอดถึงบ้าน ลูกสาวของดิฉันก็รีบวิ่งเข้ามาหาหม่าม้า วันนี้หนูได้ "ปากกาวิเศษ" จากคุณครูค่ะ
โดย เมย์ลภัส บุญสิทธิ์วิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการโค้ชสลิงชอท กรุ๊ป
เย็นวันนี้ ทันทีที่รถจอดถึงบ้าน ลูกสาวของดิฉันก็รีบวิ่งเข้ามาหาหม่าม้า วันนี้หนูได้ "ปากกาวิเศษ" จากคุณครูค่ะ
ปากกาปลอกพลาสติกสีดำแท่งนี้ไม่ได้มีมูลค่าอันใด แต่คุณค่าทางใจนั้นนับค่าไม่ได้
เพราะมันคือ Pen License ปากกาที่คุณครูมอบให้กับเด็กนักเรียนที่ได้รับการอนุญาตให้เลื่อนขั้นใช้ปากกาแทนดินสอ
สำหรับเด็กประถมห้า ใครที่ได้ปากกาวิเศษจากครูถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
ปากกาวิเศษนี้หมายถึงการได้รับคำชมเชยในการเขียนลายมือที่อ่านง่าย สะอาด เรียบร้อย และที่สำคัญมันคือสิ่งที่สะท้อนความทุ่มเทพยายามของเด็กน้อยจากวัยดินสอสู่วัยปากกา
ดิฉันพลันนึกถึงองค์กรต่างๆ ที่พยายามหาวิธีที่จะหา "แรงกระตุ้น" ให้พนักงาน "ทุ่มเท" ในการทำงานด้วยวิธีการต่างๆ
ตั้งแต่การให้รางวัลเป็นโบนัส เลื่อนขั้น ขึ้นเงินเดือน ไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งเป็นทางเลือกที่องค์กรใช้จนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ
ขณะเดียวกันองค์กรที่ลงทุนกับการให้รางวัลอาจเริ่มลังเลสงสัยในประสิทธิผลหรือความคุ้มทุนของค่าอัดฉีดพนักงาน ซึ่งอาจทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนได้เร็ว
แต่ในทางกลับกันพฤติกรรมเหล่านั้นก็เปลี่ยนกลับได้เร็วเช่นกัน
หากจะทบทวนถึงปัจจัยที่จะทำให้คนทุ่มเท (Engagement) ก็จะพบว่า ความทุ่มเทเกิดจาก "แรงกระตุ้นภายใน" ซึ่งต่างจากแรงอันเกิดจากการกระตุ้นภายนอกซึ่งเกิดชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ได้ผลอย่างยั่งยืน เมื่อหมดก็จะหายไป
พอล เอล มาร์เชียน (Paul L. Marcian) ได้เขียนหนังสือ Carrots and Sticks Don't Work กล่าวว่า การให้รางวัลไม่ได้ส่งผลให้พนักงานทุ่มเทเสมอไป หากผู้ที่ให้รางวัลไม่เข้าใจถึงหลักการพื้นฐานที่สร้างแรงกระตุ้นภายในของปัจเจกบุคคล
มาร์เชียนได้ให้หลักการ R.E.S.P.E.C.T เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้พนักงานเกิดแรงผลักดันจากภายในไว้ดังนี้
1.R-Recognition การให้การยอมรับชื่นชม หัวหน้าควรหมั่นกล่าวคำชื่นชมและขอบคุณเสมอ ใน "ระหว่างทางการทำงาน" พนักงานก็ต้องการกำลังใจและการยอมรับ โดยไม่ต้องรอให้งาน "สำเร็จที่ปลายทาง"
2.E-Empowerment การส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ และให้อำนาจการตัดสินใจที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถดึงศักยภาพมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น
3.S-Supportive Feedback การให้ข้อมูลป้อนกลับสะท้อนผลงานอย่างสร้างสรรค์และจริงใจ โดยมุ่งเน้นการให้ข้อมูลที่เป็นกลางเพื่อต่อยอดในการพัฒนาต่อไป
4.P-Partnering การสื่อสารข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวในองค์กรเพื่อให้พนักงานรู้สึกมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของงาน
5.E-Expectations การกำหนดทิศทางที่ชัดเจนและจัดลำดับความสำคัญของงานให้กับทีมรับรู้ร่วมกัน เปรียบเหมือนเรือแจวที่หากคนแจวไปทิศเดียวกัน เรือก็จะไปถึงจุดหมายได้อย่างมั่นคงรวดเร็ว
6.C-Consideration การใส่ใจและเห็นอกเห็นใจพนักงานในฐานะว่าเขาเป็นคนคนหนึ่งที่มีเงื่อนไขในชีวิตส่วนตัวและงาน
7.T-Trust ผู้นำที่ดูแลผลประโยชน์ของทีม พร้อม "รับผิด" และ "รับชอบ" จะได้รับความไว้วางใจจากทีม
อับราฮัม มาสโลว์ กล่าวว่า มนุษย์ทุกคนล้วนต้องการความมั่นคงปลอดภัยในแง่กายภาพเป็นพื้นฐาน
การให้รางวัลในรูปแบบของปัจจัยพื้นฐานก็อาจจะสามารถเทียบเคียงได้กับการตอบสนองความต้องการขั้นต้น แต่สิ่งที่ทำให้คนขับเคลื่อนไปคือ กำลังใจที่ไม่ได้มี "มูลค่า" แต่มี "คุณค่าภายใน"
เช่นเดียวกัน...ปากกาพลาสติกจะแปลงร่างเป็นปากกาวิเศษได้ เนื่องด้วยการสร้างคุณค่าผ่านการพัฒนาและส่งเสริมอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง


