posttoday

ก่อนจะอวสาน 'พจนานุกรม'

27 กันยายน 2553

....ฐาปนา

ท่านผู้อ่านรู้จักพจนานุกรมออกซฟอร์ดไหมส่วนใหญ่น่าจะเคยใช้หรืออย่างน้อยก็เคยได้ยินชื่อ เพราะสมัยที่เป็นนักเรียนในชั้นเรียนภาษาอังกฤษนั้น ครูบาอาจารย์ส่วนใหญ่ท่านจะแนะนำให้ใช้ดิกชันนารีของออกซฟอร์ด ที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในดิกชันนารีที่ดีที่สุดในโลก

ดิกชันนารีออกซฟอร์ดตีพิมพ์เป็นครั้งแรกในปี 1884 ถึงตอนนี้ก็มีอายุปาเข้าไป 126 ปีแล้ว และยังคงคุณภาพดีอยู่ เพราะมีการปรับปรุงแก้ไขกันเรื่อยๆ ทั้งการเติมคำศัพท์ใหม่ๆ การพัฒนาพจนานุกรมคำศัพท์เฉพาะทางต่างๆ

แต่ผ่านกาลเวลามาร้อยกว่าปี ดิกชันนารีของออกซฟอร์ดก็เจอะปัญหาเข้าจนได้ จนถึงขั้นที่อาจจะต้องพูดว่าอีกไม่ช้าไม่นานต่อจากนี้ เราอาจจะไม่ได้เห็นดิกชันนารีของออกซฟอร์ดที่ตีพิมพ์ออกมาเป็นรูปเล่มอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพจนานุกรมที่เป็นฉบับสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งตอนนี้มีจำนวนรวมกัน 20 เล่ม (ที่เราเห็นและใช้กันบ่อยๆ เป็นแค่ฉบับย่อ ถึงได้มีเล่มเดียว ซึ่งก็หนาพอดู แต่ถ้าจะให้เป็นฉบับสมบูรณ์จะต้องมี 20 เล่ม น้ำหนักรวมกันมากถึง 59 กิโลกรัม เรียกว่า แค่แบกมาให้ครบก็เหนื่อยแล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าจะอ่านให้ครบได้อย่างไรกับคำศัพท์ที่มีตั้ง 291,500 คำ)

ปัญหาของดิกชันนารีออกซฟอร์ดก็ไม่ต่างไปจากปัญหาที่สิ่งพิมพ์ทั้งหลายกำลังเจอ นั่นคือ กระแสดิจิตอลมาแรง ใครกันล่ะที่อยากจะไปเปิดหนังสือพจนานุกรมดูทีละหน้า...ทีละหน้า ในเมื่อยุคจรวดนี้เราสามารถใส่คำเข้าไปในคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือ ก็จะได้คำแปลออกมาโดยฉับพลัน

อย่างนี้จะไม่ให้หนังสือพจนานุกรมร้องไห้กระไรไหว

ย้อนไปที่พจนานุกรมฉบับเต็มของออกซฟอร์ด หากใครยังอยากซื้อมาเป็นเจ้าของเพื่ออนุรักษ์ของเก่า ก็ยังสามารถหาซื้อได้ด้วยราคา 750 ปอนด์ หรือราวๆ 3.6 หมื่นบาท ซึ่งหากมีการสั่งซื้อไป ผู้ผลิตคงดีใจ เพราะจากเวอร์ชันล่าสุดที่มีการตีพิมพ์ในปี 1989 เพิ่งขายไปได้แค่ 3 หมื่นชุด

แต่นี่ก็ไม่รวมฉบับย่อ ฉบับเล็ก ฉบับน้อย ที่ขายได้มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดในหมู่นักเรียน นักศึกษา ที่ยังจำเป็นต้องใช้เพื่อการอ้างอิง

ตอนนี้ออกซฟอร์ดก็ปรับตัวเหมือนกัน เพราะรู้ว่าคงอยู่ไม่ได้ หากมีเฉพาะหนังสือเล่มโต ก็เลยหันมาทำดิกชันนารีระบบดิจิตอลกับเขาด้วย ซึ่งก็ทำมาพักใหญ่แล้วตั้งแต่ปี 2000 หรือ 10 ปีมาแล้ว แต่คนที่จะเข้าไปดูได้ ต้องสมัครสมาชิกก่อน และตอนนี้สมาชิกต่างๆ ก็ คลิกเข้าไปดูคำศัพท์กันประมาณเดือนละ 2 ล้านคลิก ซึ่งสมาชิกเหล่านี้จะต้องจ่ายเงินค่าดูพจนานุกรมด้วย อย่างที่สหรัฐอเมริกาสมาชิกออกซฟอร์ดต้องควักกระเป๋าคนละ 295 เหรียญสหรัฐต่อปี หรือประมาณเกือบ 9,000 บาทต่อปี

ถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านหลายๆ ท่านที่ใช้ google ในการแปลภาษา อาจจะสงสัยว่า ทำไมถึงมีคนยอมเสียเงินเพื่อเป็นสมาชิกออกซฟอร์ด ก็เพราะว่าพจนานุกรมเก่าแก่นี้ได้รับการยอมรับว่า มีคุณภาพดีที่สุดในโลก สามารถใช้ในการอ้างอิงและเขาไม่ได้แค่แปลคำเป็นคำเท่านั้น แต่ยังบอกวิธีใช้ ตัวอย่างการใช้ ทำให้คนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษมากนัก สามารถพัฒนาตัวเองได้ดีกว่าการใช้ฟังก์ชันแปลโดดๆ อย่างที่เว็บไซต์ต่างๆ ให้บริการฟรีกันอยู่ในตอนนี้

ไนเจล พอร์ตวูด หัวหน้าฝ่ายบริหารของแผนกสิ่งพิมพ์ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ผู้เป็นเจ้าของพจนานุกรมที่โด่งดังที่สุดในโลกนี้บอกว่า ที่ผ่านมามีการปรับปรุงพจนานุกรมให้ทันสมัยขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละครั้งใช้เวลาค่อนข้างนาน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าระยะเวลาที่ผ่านมากว่าศตวรรษที่ ดิกชันนารีฉบับเต็มของออกซฟอร์ด เพิ่งจะมีการพิมพ์ออกมาเพียง 2 ครั้งเท่านั้น คือเมื่อปี 1928 และล่าสุดคือเวอร์ชันปัจจุบันที่พิมพ์ในปี 1989 ที่ตอนนี้ยังมีวางขาย

ปัจจุบันทีมงานที่มีมากถึง 80 คน กำลังพยายามปรับปรุงดิกชันนารีเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งแม้จะทำมาแล้วหลายปี ก็ยังทำไปได้แค่ 25% ของคำศัพท์ทั้งหมด เรียกว่าชำระศัพท์กันหน้ามืดและพอร์ตวูดก็บอกว่า แม้ทีมงานจะก้มหน้าก้มตาทำงานกันอย่างหนักแค่ไหน แต่พจนานุกรมออกซฟอร์ดฉบับเต็มครั้งที่ 3 ก็คงไม่ได้ตีพิมพ์ออกมา เพราะกระแสออนไลน์มาแรงอย่างที่ว่า

พจนานุกรมบนหน้ากระดาษกำลังหายไปเรื่อยๆ แต่ละปียอดขายหายไปหลายสิบเปอร์เซ็นต์พอร์ตวูด กล่าว

สิ่งที่เกิดกับพจนานุกรมออกซฟอร์ดไม่ต่างจากกิจการสิ่งพิมพ์อื่นๆ แต่ออกซฟอร์ดก็ปรับตัวได้ดี และเผลอๆ รายได้จากการทำพจนานุกรมออนไลน์ยังจะทำรายได้มากกว่าการตีพิมพ์เสียอีก

สิ่งสำคัญคือออกซฟอร์ดมี จุดเด่นแน่นอน ที่ใครก็เลียนแบบยาก แม้จะเป็นสินค้าที่มีผู้ให้บริการจำนวนมากหลายรายและหลายรายบริการฟรี แต่ออกซฟอร์ดก็ยังฝ่ากระแสการตลาดอยู่ได้อย่างสง่างาม

เป็นตัวอย่างในการปรับตัวรับกระแสโลกใหม่ได้อย่างชาญฉลาด และทำให้กาลอวสานที่กำลังมาเยือนฉบับพิมพ์ได้กลายเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดตัวตนใหม่ในโลกออนไลน์ ที่จะไม่ทำให้พจนานุกรมดีๆ ตกยุคไปได้เลย

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2