posttoday

นราวดี วรวณิชชา แม่ทัพหญิง FC

16 กันยายน 2560

การมีผู้นำที่เข้าใจธุรกิจเข้าถึงหัวอกทีมงาน น่าจะเป็นโชคและรางวัลสำคัญของคนทำงาน

โดย ยินดี ฤตวิรุฬห์

การมีผู้นำที่เข้าใจธุรกิจเข้าถึงหัวอกทีมงาน น่าจะเป็นโชคและรางวัลสำคัญของคนทำงาน ขอบคุณนะคะที่ฟ้าประทานเจ้านายที่เก่งและเข้าใจธุรกิจมา นี้คือคำพูดของทีมงาน ระดับผู้จัดการร้าน "เคียวโชน" ไก่ทอดสไตล์เกาหลีหนึ่งในธุรกิจแฟรนไชส์ ของบริษัท ฟู้ด แคปปิตอล หรือ FC ที่ได้พูดถึง "นราวดี วรวณิชชา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

จากการสัมภาษณ์ นราวดี ก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะเธอบอกว่า หลักการทำงาน หลักการบริหารงานที่ยึดมานับตั้งแต่ก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารในธุรกิจต่างๆ ที่ทอดยาวมากว่า 20 ปีนั้น คือเข้าไปสัมผัสและเรียนรู้ธุรกิจ เรียนรู้ และเข้าใจพนักงานของธุรกิจในทุกระดับ ในทุกๆ แผนก เพราะถ้าเราเข้าใจ เรารู้ปัญหา ตัวเราเองในฐานะผู้บริหารที่มีหน้าที่ในการอนุมัติ ไม่ว่าจะเรื่องงบประมาณ เรื่องการตัดสินใจในเรื่องใดๆ ก็จะเกิดขึ้นจากความเข้าใจ ก็จะทำให้การทำงานการบริหารงานเดินหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และด้วยปรัชญาในการบริหารแบบนี้ก็จะยังคงเป็นแนวทางที่เธอนำมาใช้ในการเข้ามารับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ ของ ฟู้ด แคปปิตอล เธอเชื่อว่าการเข้ามาและทำงานแบบนี้จะเหนื่อยมากในช่วงแรกๆ เท่านั้น แต่หลังจากนั้นทุกอย่างจะเดินหน้าจากการร่วมมือและร่วมใจของทีมงาน

นราวดี วันนี้ในวัย 52 ปี ยังครองความเป็นโสด ผ่านประสบการณ์การทำงานทั้งที่เป็นมืออาชีพในการรับจ้างบริหารและเป็นเจ้าของธุรกิจตัวเอง เริ่มจากปี 2534-2542 เริ่มต้นตั้งแต่ตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และขึ้นไปเป็นผู้ช่วยประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซี.พี.แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ทำไปถึงระดับหนึ่งที่รู้สึกว่า อิ่มตัวก็ขอลาออกไปประกอบธุรกิจส่วนตัว ระหว่างปี 2544-2554 ด้วยการ ก่อตั้ง บริษัท ซันเบลท์ เอเชีย บริษัท อร่อยเบรด บริษัท ซันไรซ์ ทาโก้ ซึ่งหนึ่งในธุรกิจส่วนตัวที่ทำและเป็นที่รู้จักดีก็คือการไปได้แฟรนด์ไซส์ร้าน SUBWAY หรือซับเวย์ แซนด์วิช นั่นเอง

เมื่อทำธุรกิจเองไปได้ระยะหนึ่งเมื่ออยู่ตัวและกิจการไปต่อได้ ก็หวนกลับมาร่วมงานกับ ทาง ซี.พี.แลนด์ อีกครั้ง ระหว่างปี 2555-2560 ในตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการ ด้านการลงทุนและบริหารจัดการธุรกิจโรงแรม และกรรมการผู้จัดการ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น ซึ่งถือว่าเป็นโครงการใหญ่มูลค่าลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาทที่ผ่านมือของเธอ

การตัดสินใจย้ายงานอีกครั้งในวัย 52 ต้องบอกว่างานเดิมที่ทำอยู่รู้สึกอิ่มตัว ประกอบกับมีประสบการณ์ในด้านธุรกิจอาหารทางผู้ถือหุ้นใหญ่ของ FC จึงได้ชวนให้มาร่วมงานด้วย เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2560 และถือว่าเป็นการก้าวสู่การเป็นมือปืนรับจ้างอีกครั้ง และมั่นใจว่าจะสามารถนำพา FC ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีทั้งร้านอาหารที่เป็นเจ้าของแบรนด์เอง และซื้อแฟรนไซส์มา อย่าง โดมิโน่ส์ พิซซ่า และไก่ทอดเกาหลี เคียวโชน ซึ่งเป็นไก่ทอดที่มีสาขากว่า 1,000 สาขาในเกาหลีใต้ และจะทำให้เป็นที่ 2 รองจากเคเอฟซี ให้ได้ เดอะ คอฟฟี่บีน แอนด์ ทีลีฟ ให้เป็นที่รู้จักและคุ้นลิ้นของคนไทย และตั้งเป้า 3-5 ปีข้างหน้าผลักดันบริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากการเติบโตภายใต้ 3 แบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่ได้รับสิทธิแฟรนไชส์ และภายใต้ 7 แบรนด์ของบริษัทพร้อมทั้งเล็งซื้อแบรนด์ชั้นนำเพิ่ม อยู่ระหว่างพิจารณา 3-4 แบรนด์

อย่างไรก็ตาม หากดูประวัติการศึกษาของ นราวดี เธอจบ ปี 2529 ปริญญาตรี รัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และระหว่างปี 2531-2532 ได้ ประกาศนียบัตรภาษาจีน จาก Chinese Language Center, Beijing University, ปักกิ่ง, ประเทศจีน ปี 2534-2537 M.A International, Sofia University Tokyo, Japan (ภายใต้ทุนการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการประเทศญี่ปุ่น) และปี 2539-2540 M.B.A, Warwick University, Coventry, U.K (ภายใต้ทุนการศึกษาของเครือเจริญโภคภัณฑ์) การได้ออกไปเรียนรู้ในต่างประเทศทำให้วันนี้เธอสามารถพูดและสื่อสารได้ใน 4 ภาษาด้วยกัน

นราวดี กล่าวว่า การเข้ามาทำงานใน ฟู้ด แคปปิตอล ถือว่าภารกิจที่ท้าทายแต่ด้วยมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจอาหาร การเป็นผู้บริหาร ซี.พี.แลนด์มาก่อนก็จะมีส่วนมากในการเลือกทำเลที่จะเปิดร้านได้ดี และเป้าหมายแรกของการทำงานที่ทางผู้ถือหุ้นใหญ่ให้มานั้นคือการปรับโครงสร้างภายในให้ แข็งแรง มั่นคง เพื่อที่จะก้าวเดินต่อไปในธุรกิจและทำให้กิจการกลับมาเติบโต

"ยอมรับว่าช่วงแรกอาจจะเหนื่อยหากตัวเลขทางการเงินที่ยังขาดทุนสะสมอยู่แต่ด้วยความเชื่อมั่นต่อแบรนด์และธุรกิจที่ทำอยู่ก็เชื่อว่าจะทำให้มีการเติบโตที่ดี และเร็วๆ นี้เราจะรุกเข้าสู่ออนไลน์ คือลูกค้าสามารถสั่งสินค้าของบริษัทผ่านเครือข่ายออนไลน์ ผ่านสมาร์ทโฟน และจะมีระบบที่เก็บพฤติกรรมลูกค้า เพื่อเข้าใจและเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด และเชื่อว่า อาจนำระบบใหม่มาใช้ในการขายจะทำให้ยอดขายเพิ่มจากปกติได้ประมาณ 15%" นราวดี กล่าว

หลังจากนี้ก็ต้องจับตาดู โดมิโน่ส์ พิซซ่า และไก่ทอดเกาหลี เคียวโชน จะเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคคนไทยได้แค่ไหน

ข่าวล่าสุด

กต.ชี้ กัมพูชาปิดด่านห้ามคนไทยกลับประเทศขัดกฎหมายระหว่างประเทศ