กรมประมงเจ๋ง สกัดคอลลาเจน เศษหนังปลานิล
กรมประมงเปิดผลวิจัยเปลี่ยนหนังปลานิลเป็นคอลลาเจนคุณภาพสูง แนะเอสเอ็มอีไทยหาช่องแปรรูปเพิ่มรายได้
กรมประมงเปิดผลวิจัยเปลี่ยนหนังปลานิลเป็นคอลลาเจนคุณภาพสูง แนะเอสเอ็มอีไทยหาช่องแปรรูปเพิ่มรายได้
นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงได้ทำการวิจัยการสกัดคอลลาเจนที่ละลายในกรดจากหนังปลานิลมาผลิตเป็นคอลลาเจน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศษปลาที่เหลือ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับเอกชน ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่สนใจผลการวิจัยดังกล่าวแล้วนำไปต่อยอดการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมามีปริมาณผลผลิตปลานิลจากการเพาะเลี้ยง 1.7 แสนตัน ทำการส่งออกปลานิลและผลิตภัณฑ์ กว่า 7,975 ตัน คิดเป็นมูลค่า 598 ล้านบาท โดยส่งออกในรูปแบบเนื้อปลานิลแปรรูปแช่แข็งและแช่เย็นสัดส่วน 38.1% กระบวนการแปรรูป ทำให้มีเศษเหลือทิ้งจากหนัง เกล็ด ครีบ ก้างปลา กว่า 50-70% ของวัตถุดิบเริ่มต้นที่นำมาแปรรูป
นายปวเรศวร์ อินทุเศรษฐ นักวิชาการผลิตภัณฑ์อาหารชำนาญการพิเศษ กองวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง นักวิจัยผู้ศึกษาวิจัยเรื่องการสกัดคอลลาเจนที่ละลายในกรดจากหนังปลานิล กล่าวว่า ปัจจุบันเศษเหลือทิ้งจากการแปรรูปสัตว์น้ำส่วนใหญ่ถูกใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และการทำปุ๋ย ซึ่งมีมูลค่าค่อนข้างต่ำ
สำหรับแนวคิดการนำเศษเหลือทิ้งจากปลานิลมาศึกษาวิจัย ช่วยเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้นด้วยการสกัดเป็นคอลลาเจน เพื่อใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เครื่องหนัง ยารักษาโรค วัสดุทางการแพทย์ เครื่องสำอาง อาหาร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นต้น
"การศึกษาวิธีสกัดคอลลาเจนจาก หนังและก้างปลาส่วนใหญ่เป็นปลาทะเล แต่มีการศึกษาสกัดคอลลาเจนจากหนัง ปลาน้ำจืดน้อยมาก ครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายของงานวิจัยชิ้นนี้ อาจใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการใช้ประโยชน์เศษเหลือทิ้งจากสัตว์น้ำจืดชนิดอื่นๆ ต่อไปในอนาคตได้" นายปวเรศวร์ กล่าว


