posttoday

Amazon รุกอาเซียน - Prime Now สิงคโปร์

24 สิงหาคม 2560

หลายท่านคงจะได้ยินข่าว Amazon Prime Now ในสิงคโปร์กันแล้วนะครับ การเข้ามาของ Amazon Prime Now ครั้งนี้ ก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อตีตลาดอี-คอมเมิร์ซ และดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย เนื่องจากสมาชิกที่ซื้อสินค้าออนไลน์จะได้รับสินค้าภายใน 2 ชั่วโมง จากปกติจะใช้เวลาประมาณ 1-3 วัน

หลายท่านคงจะได้ยินข่าว Amazon Prime Now ในสิงคโปร์กันแล้วนะครับ การเข้ามาของ Amazon Prime Now ครั้งนี้ ก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อตีตลาดอี-คอมเมิร์ซ และดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย เนื่องจากสมาชิกที่ซื้อสินค้าออนไลน์จะได้รับสินค้าภายใน 2 ชั่วโมง จากปกติจะใช้เวลาประมาณ 1-3 วัน

การเข้ามาของยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซ อย่างอเมซอน ทำให้ต้องเผชิญหน้ากับ Alibaba Group พี่ใหญ่แห่งอี-คอมเมิร์ซเอเชียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วใครจะเป็นผู้เล่นที่ครองตลาดอาเซียนได้อย่างแท้จริง มาวิเคราะห์ไปพร้อมๆ กันครับ

Amazon Prime Now ในสิงคโปร์ ไม่ได้มาแบบเต็มรูปแบบ เพราะตัดบริการส่วนพรีเมียมออกไปมาก เช่น บริการของวิดีโอสตรีมมิ่ง นอกจากนี้ การสั่งสินค้าของ Amazon Prime Now ไม่ได้ทำผ่านหน้าเว็บไซต์ แต่จะต้องสั่งซื้อผ่านแอพพลิเคชั่น Amazon Prime Now เท่านั้น ซึ่งจุดเด่นก็คือบริการจัดส่งด่วน 1-2 ชั่วโมง

ทำไมต้องสิงคโปร์?

ประการแรกคือ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตราวๆ 82% จากจำนวนประชากรทั้งหมดราว 5.74 ล้านคน สิงคโปร์มีความเร็วของอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยอยู่ที่ 18.2 Mbps ซึ่งสูงสุดในอาเซียน เวลาใช้บริการก็สะดวกรวดเร็วและยังช่วยเพิ่มประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้าได้อีก นอกจากนี้ คนสิงคโปร์ 3 ใน 5 คน คือ นักช็อปออนไลน์ อีกประเด็นสำคัญคือ การจราจรที่คล่องตัวทำให้บริการส่งด่วนเป็นไปได้ง่ายกว่าประเทศที่มีการจราจรติดขัด และคนสิงคโปร์คุ้นชินกับการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศอยู่แล้ว

ใครได้เปรียบใครเสียเปรียบ

เป็นที่รู้กันว่า Alibaba Group เป็นผู้นำด้านอี-คอมเมิร์ซที่แข็งแกร่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเป็นเจ้าของเว็บ Lazada และ Redmart ผู้ให้บริการจัดส่งและขายของชำออนไลน์ในสิงคโปร์ ทำให้ Alibaba Group มีจุดแข็ง ที่อาจจะทำให้ Amazon เหงื่อตกได้ วิเคราะห์ทีละจุดนะครับ

จำนวนสินค้า : Amazon Prime Now มีจำนวนสินค้ามากกว่า 2 หมื่นรายการ ในขณะที่ Redmart ก็มีสินค้ามากกว่า 5 หมื่นรายการ เมื่อนับรวมทั้ง Lazada และ Redmart ก็ทำให้ Alibaba Group ถือแต้มต่ออยู่มากทีเดียว

บริการที่หลากหลาย : Amazon ในสิงคโปร์ ได้ตัดพรีเมียมฟีเจอร์ออกไปมาก ขณะที่ Lazada มีบริการอย่าง LiveUp ที่นำเสนอการส่งสินค้าฟรี พร้อม ส่วนลดพิเศษของ Redmart Netflix Uber UberEats และ Taobao Collection ให้แก่สมาชิก

สินค้าท้องถิ่น : การขาดแคลนสินค้าท้องถิ่น อาจกลายเป็นข้อจำกัดสำคัญของ Amazon Prime Now ในอนาคตได้ครับ เช่น หากผู้บริโภคต้องการบริโภคไข่จากฟาร์มระดับคุณภาพของสิงคโปร์อย่าง Seng Choon ลูกค้าก็น่าจะเลือกซื้อสินค้าจาก Redmart แน่นอน

แม้ว่า Amazon จะเป็นยักษ์ใหญ่แห่งอี-คอมเมิร์ซ แต่ผมคิดว่าการเข้ามาเปิดตัวในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะ Amazon เอง ก็ยังถือว่าใหม่กับตลาดแถบนี้ และต้องมารับมือกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งอย่าง Alibaba Group อีกด้วย

แต่เมื่อไรที่ Amazon หากลวิธีเจาะตลาดอาเซียนได้ เมื่อนั้นอาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้ตลาดอี-คอมเมิร์ซแห่งเอเชียก็ได้ ท้ายที่สุดแล้วการแข่งขันในตลาดอี-คอมเมิร์ซ คนที่ชนะและได้รับประโยชน์สูงสุดก็คือผู้บริโภคนั่นเอง n

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"