posttoday

ยื้อออกใบอนุญาตรง.อุตฯ

24 กันยายน 2553

 

 

รอทุกกลุ่มยื่นครบให้รวดเดียว ป้องกันเสียงครหาไม่โปร่งใส

โพสต์ทูเดย์ อุตฯ ยื้อออกใบอนุญาตโครงการหลุด 11 กิจการรุนแรง หวั่นถูกโจมตีเอื้อประโยชน์เฉพาะราย สั่งรอให้ครบค่อยอนุมัติรวดเดียว

นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หน่วยงานอนุมัติ อนุญาต ได้แก่ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) อยู่ระหว่างการพิจารณาตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ประกาศ 11 กิจการรุนแรง และรัฐธรรมนูญมาตรา 67 เพื่อออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการที่ไม่เข้าข่ายกิจการรุนแรง คาดว่าจะรอออกใบอนุญาตให้พร้อมๆ กัน

ทั้งนี้ ห่วงว่าถ้าออกให้รายใดก่อนจะมีปัญหาว่าเอื้อประโยชน์ให้เป็นพิเศษ ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ จึงยังไม่ได้ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการรายใดเลย รวมถึงโครงการโรงแยกก๊าซฯ 6 ของกลุ่ม ปตท.ก็ต้องรอพร้อมรายอื่นๆ

ในส่วนกลุ่มที่เข้าข่ายกิจการรุนแรงที่อยู่นอก 76 โครงการในมาบตาพุด อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล แต่จะเพิกถอนใบอนุญาตทันทีหรือไม่ อยู่ระหว่างปรึกษาทีมกฎหมาย เพราะถ้าเพิกถอนเอกชนก็มีสิทธิที่จะฟ้องร้อง หรืออีกแนวทางหนึ่งอาจจะให้เวลาเอกชนดำเนินการตามมาตรา 67 ถ้าไม่เสร็จตามกำหนดเวลาค่อยเพิกถอนใบอนุญาต เป็นต้น

แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กนอ.ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ผู้ประกอบการในมาบตาพุดที่ไม่เข้าข่ายกิจการรุนแรง รับทราบแล้วประมาณ 50 โครงการ โครงการเหล่านี้สามารถดำเนินการได้ตามปกติ ในจำนวนนี้มีโครงการที่ยังรอการพิจารณาออกใบอนุญาตขอใช้พื้นที่ค้างอยู่ 18 โครงการ

โครงการที่รอใบอนุญาตของกรมโรงงานอุตสาหกรรมมี 4 โครงการ เช่น โครงการโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 6 ของกลุ่ม ปตท. โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติไปยังบริษัท ยูทิลิตี้ ของบริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น โครงการศูนย์สาธารณูปการกลาง แห่งที่ 2 ของบริษัท พีทีที ยูทิลิตี้ รวมแล้วมีโครงการที่รอใบอนุญาตจาก กนอ.และกรมโรงงานอุตสาหกรรม 22 โครงการ

พร้อมกันนี้ นายชัยวุฒิ ได้มอบนโยบายและรับฟังแนวทางการดำเนินงานของ กนอ.ด้วย โดยมอบ นโยบายให้ปรับแนวทางการทำงานเพื่อเข้าสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (อีโคทาวน์) ให้มากขึ้นในช่วง 10 ปี จะต้องดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมและเพิ่มเฝ้าระวังมลพิษ

แหล่งข่าวจาก กนอ. เปิดเผยว่า กนอ.ได้กำหนดแผนการเงินปี 2554 2557 ตั้งเป้าหมายให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 3% ซึ่งในปี 2554 คาดว่าจะมีรายได้ 4,060 ล้านบาท ปี 2557 คาดว่าจะมีรายได้ 4,485 ล้านบาท โดยต้องการสร้างเสถียรภาพ ทางการเงินมากกว่าการเพิ่มของผลกำไร และสัดส่วนรายได้คงไม่เปลี่ยนแปลง รายได้ 50% จะมาจากการบริการสาธารณูปโภค

ช่วงดังกล่าวจะเน้นพัฒนาอีโคทาวน์ กำหนดงบยกระดับนิคมอุตสาหกรรมเข้าสู่อีโคทาวน์และการรับผิดชอบต่อสังคม (ซีเอสอาร์) มากขึ้น ซึ่งช่วง 4 ปี กำหนดค่าใช้จ่ายด้านอีโคทาวน์ไว้รวม 200 ล้านบาท ถือเป็น 61% ของค่าใช้จ่ายตามแผนปฏิบัติการทั้งหมด เพื่อผลักดันอีโคทาวน์ทำร่อง 3 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์น นิคมฯ บางปู และนิคมฯ ภาคเหนือนางมณฑา ประณุทนรพาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า ปี 2554 มีแผนจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังเพิ่ม 3 แห่ง ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู นิคมแหลมฉบังและนิคมบางปะอิน จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 3 แห่ง ที่นิคมมาบตาพุด นิคมอีสเทิร์นซีบอร์ด และนิคมอมตะซิตี้

การเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม จะเพิ่มรูปแบบการให้บริการข้อมูลแบบทันทีทันต่อเหตุการณ์ ผ่านทางศูนย์เฝ้าระวังและทางอินเตอร์เน็ต รวมทั้งมีแผนปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินเพื่อประเมินประสิทธิภาพการบริหารจัดการ บำรุงรักษาโรงงานอุตสาหกรรมในมาบตาพุด และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ กนอ.จะปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์เฝ้าระวัง โดยมีศูนย์เฝ้าระวังแจ้งเตือนด้านสิ่งแวดล้อมและภาวะฉุกเฉิน เช่น การตรวจวัดเฝ้าระวังคุณภาพากาศ การพัฒนาระบบสื่อสารด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย การพัฒนาระบบกระจายข่าว 2 ทาง 30 ชุมชน ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2554

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025