แบรนด์-สก็อต มุ่งคนรุ่นใหม่ เปิดสงครามพรีเซนเตอร์เกาหลี
...ดวงใจ จิตต์มงคล
จากแนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ หรือตลาดสินค้าเสริมอาหารที่เติบโตต่อเนื่อง ตามพฤติกรรมผู้บริโภค ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทำให้ตลาดนี้มีความเคลื่อนไหวคึกคักต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทน้ำ ที่ปัจจุบันมี 2 ผู้เล่นในตลาดหลักอย่าง บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) เจ้าของผลิตภัณฑ์ซุปไก่ รังนก และเครื่องดื่มผลไม้สกัดเข้มข้น ตราแบรนด์ และบริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซุปไก่ รังนก และคอลลาเจน ตราสก๊อต
เห็นได้จากนับแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงโค้งสุดท้ายปีนี้ผู้เล่นทั้งสองรายต่างทุ่มทำตลาดสุดตัวโดยเฉพาะช่วงปลายปี 2553 ที่ทั้งสองค่ายใจตรงกัน โดยหันมาเลือกใช้ตัวแทนผลิตภัณฑ์ (พรีเซนเตอร์) ที่มีกลิ่นอายจากแดนกิมจิ ประเทศเกาหลีใต้เหมือนกัน
เริ่มจาก ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทเตรียมใช้งบราว 100 ล้านบาท เพื่อรุกกิจกรรมการตลาดในไตรมาส 4 ปีนี้ และต่อเนื่องไปถึงต้นปีหน้า เพื่อย้ำความเป็นผู้นำตลาดซุปไก่สกัด
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้เลือกใช้ศิลปินนักร้องชาวไทยที่สังกัดค่ายเพลงชื่อดัง
“เจวายพี” (JYP) ในเกาหลีใต้อย่าง “คุณนิชคุณ หรเวชกุล” ศิลปินเกาหลีวง 2 พีเอ็ม (2 PM) มาเป็นพรีเซนเตอร์คู่กับ “โต๋ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร” ร่วมกันครั้งแรก ในแคมเปญ “ไม่หยุดสร้างสรรค์กับแบรนด์ซุปไก่สกัดทุกวัน”การเลือกใช้พรีเซนเตอร์คู่ร่วมกันในครั้งนี้ เนื่องจาก
“แบรนด์” เป็นผู้นำตลาดในปัจจุบันไม่ควรหยุดการทำตลาด ซึ่งการที่ดึง “คุณ นิชคุณ” มาร่วมแคมเปญ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ ที่มีความทันสมัย และเป็นสินค้าของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ“
การใช้นิชคุณถือว่าตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างชัดเจน บวกกับมีสุขภาพดี มีความคิดสร้างสรรค์และเป็นบุคคลที่มีภาพลักษณ์ดี นอกจากนี้ยังมีแฟนคลับทั่วเอเชีย โดยเฉพาะในเกาหลี ที่ปัจจุบันแบรนด์ยังไม่ได้เข้าไปทำตลาด และกำลังศึกษาตลาดนี้อยู่” ลักขณา กล่าวสำหรับภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปัจจุบันและในอนาคตยังมีแนวโน้มเติบโตสูงต่อเนื่อง จากความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการดูแลตัวเองมากขึ้น โดยกลุ่มสินค้าซุปไก่สกัดในปัจจุบัน พบว่าการแข่งขันไม่ค่อยรุนแรง เนื่องจาก
“แบรนด์” เป็นเจ้าตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 90% ของมูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท และส่วนแบ่งกว่า 62% ในตลาดรังนก มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งจากแคมเปญนี้คาดส่งผลให้บริษัทมียอดขายเติบโตกว่า 15% เท่ากับตลาดรวมซุปไก่สกัดมีอัตราเฉลี่ย 1015% ในปีนี้ขณะที่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตรา
“สก๊อต” แม้จะเป็นมวยรองในตลาดนี้ ทว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ยึดกลยุทธ์ “ไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตติง” ออกมาทำตลาดออกมาต่อกรกับเบอร์หนึ่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งการนำสินค้าเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนในกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดนตรี กีฬา และความงาม เพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด ควบคู่กับการเปิดตัวสินค้าใหม่ล่าสุด สก๊อตใช้งบกว่า 50 ล้านบาท จัดกิจกรรมการตลาดสำหรับสินค้าใหม่
“สก๊อตเพียวเร่” พรุนสกัดเข้มข้นผสมวิตามิน เพื่อเข้าไปท้าทายในตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากผลไม้สกัดเข้มข้นที่มีแบรนด์เปิดตลาดรออยู่ก่อนหน้านี้สมโภช ชวาลเวชกุล กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทได้ขยายไลน์เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ
“สก๊อต เพียวเร่” รองรับกระแสผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเห็นโอกาสจากตลาดเครื่องดื่มพรุนสกัด ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าผลไม้ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต และคู่แข่งเพิ่งออกมาทำตลาดได้ไม่นาน โดยชูความแตกต่างด้านเนื้อพรุนในเครื่องดื่มเข้าไปด้วยนอกจากนี้ ยังเลือกใช้ศิลปินเกาหลี โฟร์ มินิท (4 Minute) นำโดย ฮยอนอา โซฮยอน จีฮยอน จียุน และกายูน มาเป็นพรีเซนเตอร์ พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาโทรทัศน์ชุดใหม่
“ฮอต อิชชู” เพื่อสื่อถึงความสดใส ร่าเริง พร้อมรูปร่างที่สวยเพรียว ตรงกับกลุ่มเป้าหมายผลิตภัณฑ์ใหม่ดังกล่าว คือ กลุ่มผู้หญิง วัยรุ่น วัยทำงาน ที่เป็นคนรุ่นใหม่ชื่นชอบการดูแลรักษาสุขภาพตัวเองจนถึงสิ้นปีนี้ บริษัทวางเป้ายอดขายสก๊อต เพียวเร่ 100 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งตลาดราว 1015% จากมูลค่าตลาดรวมเครื่องดื่มพรุนสกัดอยู่ที่ 700 ล้านบาท โดยคาดว่าตลาดรวมจะมีอัตราเติบโตราว 10% และคาดว่าในปี 2554 จะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 28% หรือยอดขาย 250 ล้านบาทของมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 1,1001,120 ล้านบาท และวางเป้าหมายระยะยาวใน 35 ปีข้างหน้า ครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% และเป็นอันดับ 1 โดยตลาดรวมจะมีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท
ปัจจุบันตลาดเสริมอาหารประเภทน้ำกลุ่มซุปไก่ และรังนกค่อนข้างใหญ่และอิ่มตัว จากการทำตลาดของ2ผู้เล่นหลักในตลาด โดยสิ้นปีบริษัทวางเป้ารายได้ที่ 2,100 ล้านบาท และเติบโต20% แบ่งเป็น กลุ่มรังนก 1,300 ล้านบาท กลุ่มซุปไก่ 500 ล้านบาท กลุ่มคอลลาเจน 200 ล้านบาท และอื่นๆ 100 ล้านบาท
บริษัทยังวางเป้าหมาย 35 ปีนับจากนี้จะขยายพอร์ตกลุ่มเครื่องดื่มผลไม้สกัดเข้มข้นเป็นสัดส่วน 50% จากการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ในกลุ่มนี้ และขึ้นเป็นผู้นำในตลาดเสริมอาหารเครื่องดื่มผลไม้สกัดเข้มข้นมูลค่าตลาดรวมราว 1,300 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มพรุน 700 ล้านบาท เบอร์รี 500600 ล้านบาท และที่เหลือเล็กน้อยเป็นกลุ่มควินซ์ เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า นอกจากการแข่งขันด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แล้ว การแข่งขันเพื่อสร้างภาพลักษณ์ความสด ทันสมัย ผ่านพรีเซนเตอร์ที่อยู่ในกระแสนิยมของกลุ่มวัยรุ่น ก็นับว่าดุเดือดไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันในตลาดนี้ด้วย


