'นันทนีย์'แหนมไร้สาร
อักษรา ปิ่นนราสกุล"จิ้นส้ม" คำที่คนเมืองเหนือเรียกแหนม อาหารซึ่งผ่านกรรมวิธีเพื่อเก็บรักษาไว้รับประทานให้ได้นานขึ้น ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นที่รู้จักกันดีของคนไทยทั่วทุกภาค
อักษรา ปิ่นนราสกุล
"จิ้นส้ม" คำที่คนเมืองเหนือเรียกแหนม อาหารซึ่งผ่านกรรมวิธีเพื่อเก็บรักษาไว้รับประทานให้ได้นานขึ้น ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นที่รู้จักกันดีของคนไทยทั่วทุกภาค
แต่สำหรับผู้ผลิตที่ดำเนินกิจการมานานกว่า 15 ปี และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ย่อมต้องมีความน่าสนใจ อย่างกรณีของแหนม นันทนีย์ โดยกลุ่มชาวบ้านป่าหุ่ง หมู่ 9 ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย
ณัฐรัตน์ คำมูล หรือ สมศรี ประธานกลุ่มนันทนีย์ บอกว่า เราทำกันทุกวันและขายหมดทุกรอบ แหนมแต่ละรอบที่ทำแล้วจะอยู่ได้ประมาณ 5 วัน แต่ถ้าแช่เย็นอยู่ได้ประมาณ 30 วัน เพราะเราไม่มีการใส่สารกันบูดหรือเจือปนสารเคมีใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ได้รับ อย.จากกระทรวงสาธารณสุข รับประกันความปลอดภัย
"การผลิตสินค้าเพื่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคง ต้องเป็นการผลิตสินค้าประเภทอาหาร เพราะเป็นสินค้าประเภทใช้แล้วหมดไป เพราะสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค แม่บ้านในพื้นที่บ้านป่าหุ่ง จึงได้มีการรวมตัวกันตั้งกลุ่มนันทนีย์ขึ้นในปี 2544 ทำแหนมขายตลอด ปัจจุบันมีีสมาชิกกลุ่ม 27 คน มีโครงสร้างการทำงานของกลุ่ม แบ่งออกเป็นแต่ละฝ่าย ดังนี้ 1.ฝ่ายผลิต 2.ฝ่ายการตลาด และ 3.ฝ่ายหาวัตถุดิบ"
ณัฐรัตน์ บอกว่า วัตถุดิบในการทำแหนมจะใช้ของสดใหม่จากในพื้นที่ ทั้งเนื้อหมูและเนื้อควายห่อด้วยใบตองแบบโบราณ แต่รับประกันคุณภาพว่าแหนมนันทนีย์ไม่ได้ขายใบตอง แต่ขายคุณภาพของแหนมหมูจริงๆ
การตลาดของกลุ่มนันทนีย์จะขายโดยมีพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่มารับซื้อไปขายปลีก โดยราคาขายมีหลายราคา แหนมห่อใบตองห่อละ 10 บาท มัดละ 5 ห่อ 50 บาท แหนมอัดแท่ง แท่งละ 25 บาท และแหนมจิ๋วบัวตูม 10 บาท ด้านช่องทางการขายมีทั้งระบบออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อ "แหนมหมู Otop นันทนีย์" หรือติดต่อทางไลน์ เบอร์โทร. 08-7179-8481 และติดต่อซื้อโดยตรงจากกลุ่ม
ในแต่ละวันผลิตเพื่อจำหน่ายวันละประมาณ 10-15 กิโลกรัม แต่หากในช่วงเทศกาลสำคัญที่มีวันหยุดยาวและมีคนกลับมาเยี่ยมบ้าน จะมีการสั่งซื้อแหนมมากเป็นพิเศษเพื่อนำกลับไปเป็นของฝาก หรืออาหารรับประทานได้นาน กลุ่มก็จะต้องทำมากขึ้นถึงวันละ 20-30 กิโลกรัม
"เราทำกันทุกวันและขายหมดทุกรอบ ไม่มีการใส่สารกันบูด หรือเจือปนสารเคมีใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค เนื่องจากกลุ่มเราที่ทำก็รับประทานด้วย"
เพราะเห็นถึงความตั้งใจจริง หน่วยงานต่างๆ ทั้งท้องถิ่นและราชการ ได้เข้ามาให้การสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เช่น องค์การบริหารส่วนตำบลป่าหุ่ง สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอพาน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน กรมปศุสัตว์ โดยสำนักงานปศุสัตว์เชียงราย ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอพาน ทำให้กลุ่ม "นันทนีย์" มีความมั่นคงด้านอาชีพและกระจายรายได้สู่ชุมชนมาอย่างมั่นคง


