คอนซูเมอร์แข่งราคาดุ พีแอนด์จีชูนวัตกรรมสู้

โดย...จะเรียม สำรวจ

ภาวะที่ผู้บริโภคในระดับกลางและล่างยังมีกำลังซื้อทรงตัว ส่งผลให้ ผู้ประกอบการในธุรกิจคอนซูเมอร์ยังคงต้องแข่งขันในด้านของราคากันค่อนข้างรุนแรง เห็นได้จากการลดราคาสินค้าประมาณ 50% เพื่อกระตุ้นความสนใจและการใช้จ่ายของผู้บริโภค

ราฟฟี่ ฟาร์ฮาโด กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย) หรือพีแอนด์จี กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจคอนซูเมอร์ในขณะนี้ยังคงแข่งขันราคากันรุนแรง แต่ในส่วนของบริษัทไม่มีแผนจะไปปรับลดราคาอยู่ในระดับ ดังกล่าวเพื่อกระตุ้นยอดขาย เนื่องจากสินค้าของบริษัทที่นำมาจำหน่ายส่วนใหญ่เป็นสินค้าพรีเมียม เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนเป็นหลัก จึงทำให้ การดำเนินธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบ จากปัจจัยลบกำลังซื้อของผู้บริโภคมากนัก

นอกจากนี้ การที่บริษัทมีสินค้าหลากหลายแบรนด์ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกันไป รวมไปถึงการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของดาวน์นี่เข้ามาทำตลาด และก็ได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี จึงทำให้ยอดขายสินค้าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจในอีก 3-4 ปีนับจากนี้ บริษัทจะดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด "We Grow To-gether" ด้วยการชูกลยุทธ์ในด้านของนวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการพัฒนาสินค้าใหม่ การทำการตลาด หรือการขาย เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำทางธุรกิจและการเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม โดยภายในปี 2563 คาดว่าจะสามารถ ผลักดันให้ธุรกิจพีแอนด์จีในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากปัจจุบันมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ประมาณ 2 หลัก

ราฟฟี่ กล่าวต่อว่า สินค้าที่สร้างยอดขายหลักให้กับบริษัทจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผ้า โดยมีดาวน์นี่เป็นตัวสร้างยอดขายหลัก และกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ที่มีแพนทีนเป็นตัวสร้างรายได้หลัก

หลังจากเดินหน้าขยายธุรกิจในประเทศไทยต่อเนื่อง ราฟฟี่ คาดหวังว่าในอนาคตประเทศไทยอาจมียอดขายแซงหน้าประเทศฟิลิปปินส์ก็เป็นได้ จากปัจจุบันในตลาดอาเซียนประเทศฟิลิปปินส์มียอดขายเป็นอันดับ 1 และมีประเทศไทยเป็นอันดับ 2 ซึ่งปัจจัยที่ทำให้คาดหวังว่าไทยอาจมียอดขายแซงฟิลิปปินส์ คือตลาดในประเทศไทยยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมากหากเศรษฐกิจฟื้นตัว