ลุยปล่อยกู้ผ่านเซเว่นฯ ปี'61

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

ประเทศไทยเริ่มถูกแทนที่ด้วย "สังคมไร้เงินสด" มากขึ้นตามแนวโน้มเช่นเดียวกับโลก โดยการสนับสนุนของนโยบายรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประมาณการผู้ใช้บริการ อี-วอลเล็ต ในประเทศไทยมีอยู่ราว 7-8 ล้านราย

ปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป ผู้ให้บริการอี-เพย์เมนต์ กล่าวว่า หลังจากบริษัทได้ทดลองปล่อยเงินกู้รายย่อยในร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น มูลค่าวงเงินหลักร้อยบาทในช่วงที่ผ่านมา ภายในปี 2561 บริษัทมีแผนการขยายรูปแบบบริการปล่อยกู้ โดยใช้ฐานข้อมูลจาก ทรูมันนี่ วอลเล็ต ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยคาดว่าไตรมาส 2 ปี 2561 จะสามารถเริ่มให้บริการได้

ทั้งนี้ บริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ อาทิ อาลีเพย์ ในการกำหนดแผนการบริหารงานและความเสี่ยง โดยเบื้องต้นมีทั้งรูปแบบ การแนะนำผู้บริโภคให้กับธนาคารโดยการใช้ฐานข้อมูลของทรูมันนี่ฯ และรูปแบบการรับความเสี่ยงจากธนาคาร โดยธนาคารปล่อยเงินกู้ให้บริษัทและบริษัทปล่อยกู้ให้รายย่อย

"บริษัทตั้งเป้าเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงธุรกรรมการเงินออนไลน์สู่ผู้บริโภค ซึ่งสามารถตอบสนองทุกความต้องการในชีวิตประจำวันที่เรียกว่า ฟินไลฟ์ (FinLife)" ปุณณมาศ กล่าว

ขณะที่ในปี 2560 โฟกัสในกลุ่มระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อี-เพย์เมนต์) โดยได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ อาทิ เซเว่นอีเลฟเว่น, ทรู คอฟฟี่ และร้านอาหารชั้นนำ โดยในปีนี้จะใช้เงินลงทุนรวมราว 500-600 ล้านบาท ในการเพิ่มจุดบริการรับชำระและดำเนินธุรกิจในส่วนต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ปี 2561 โฟกัสในกลุ่มการกู้ยืมและการลงทุน อาทิ เงินกู้รายย่อย ซื้อประกันภัย ซื้อกองทุน และกิจกรรมทางการเงินอื่นๆ โดยจะใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว จากปี 2560 เพื่อรองรับการเติบโตและรองรับการชำระเงินที่สะดวกยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ แผนการขยายจุดรับบริการชำระเงิน ทรูมันนี่ฯ ช่วยเพิ่มความถี่ในการใช้จ่ายผ่านแอพได้จาก 3 ครั้ง/คน/เดือน เป็น 7 ครั้ง/คน/เดือน โดยมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 200-300 บาท/ครั้ง ซึ่งการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจหลังจากนี้ทั้งร้านค้าออนไลน์ ร้านค้าออฟไลน์ จะช่วยเพิ่มความถี่การใช้งานวงกว้างได้เพิ่มขึ้นในอนาคต

ล่าสุด บริษัทได้ร่วมมือกับ แอปเปิ้ล ในการซื้อสินค้าผ่านทางแอพ สโตร์, แอปเปิ้ล มิวสิค และไอทูนส์ สามารถชำระเงินด้วยบัญชีทรูมันนี่ฯ ซึ่งเป็นครั้งแรกในอาเซียนที่มีช่องทางชำระเงินนอกจากบัตรเครดิตในระบบปฏิบัติการดังกล่าว

ทรูมันนี่ฯ มองว่า ปัจจุบันคู่แข่งในตลาดคือ "เงินสด" ไม่ใช่ "ผู้เล่นในตลาด" ซึ่งการแนะนำบริการให้ผู้บริโภคเข้าถึงระบบธุรกรรมการเงินบนโลกออนไลน์ได้ ถือเป็นเป้าหมายสำคัญ