เปิดเสรีก๊าซหุงต้ม การเมืองเป็นเรื่องสำคัญ
พรายพล คุ้มทรัพย์ประเทศไทยนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือก๊าซหุงต้ม (Liquefied petroleum gas หรือ LPG) มาใช้เป็นครั้งแรกในปี 2499 เพื่อใช้ในครัวเรือนแทนการใช้ถ่านฟืนในการหุงต้ม ต่อมาเมื่อมีการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย จึงมีการใช้ LPG เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลายมากขึ้น คือ เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เป็นวัตถุดิบและเชื้อเพลิงในโรงกลั่นน้ำมัน
พรายพล คุ้มทรัพย์
ประเทศไทยนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือก๊าซหุงต้ม (Liquefied petroleum gas หรือ LPG) มาใช้เป็นครั้งแรกในปี 2499 เพื่อใช้ในครัวเรือนแทนการใช้ถ่านฟืนในการหุงต้ม ต่อมาเมื่อมีการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย จึงมีการใช้ LPG เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลายมากขึ้น คือ เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เป็นวัตถุดิบและเชื้อเพลิงในโรงกลั่นน้ำมัน
ในปัจจุบันกว่าครึ่งหนึ่งของ LPG ทั้งหมดที่ใช้ผลิตมาจากโรง แยกก๊าซธรรมชาติของ ปตท. ประมาณ 30% ได้มาจากโรงกลั่นน้ำมัน และที่เหลืออีกประมาณ 10% เป็นการนำเข้า
ปตท.เป็นผู้นำในตลาด LPG คือมียอดขายมากกว่า 1 ใน 3 ปตท.เป็นเจ้าของโรงแยกก๊าซและเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในโรงกลั่นน้ำมันอีก 4 แห่ง คุมการผลิตกว่าครึ่งหนึ่ง เป็นเจ้าของคลังก๊าซเกือบทั้งหมดและมีโรงบรรจุก๊าซมากที่สุด ปตท. มีอำนาจผูกขาดตลาด LPG สูง
รัฐบาลใช้นโยบายควบคุมราคาขายปลีก LPG มาตั้งแต่ปี 2522 ทุกครั้งที่ก๊าซตลาดโลกสูง รัฐบาลจะปรับราคา ณ โรงกลั่น แต่ปรับราคาขายปลีกน้อยที่สุด โดยใช้กองทุนน้ำมันฯ เป็นเครื่องมือคุมราคาขายปลีกให้ต่ำ ค่าการตลาดปรับน้อยมาก หลายครั้งกองทุนน้ำมันฯ ติดลบ
การคุมราคาขายปลีก LPG ไว้ในระดับที่ต่ำ ด้านบวก คือ ช่วยค่าครองชีพต่ำโดยเฉพาะอาหาร ลดปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าทำฟืน
ส่วนด้านลบ ราคาขายปลีก LPG ที่ค่อนข้างต่ำมาโดยตลอดเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงอื่น
lทำให้การใช้ LPG สูงขึ้นทุกประเภทการใช้ ที่เพิ่มมากที่สุดคือ เชื้อเพลิงในรถยนต์สิ้นเปลืองไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ
lทำให้ฐานะการเงินของกองทุนน้ำมันฯ เลวร้ายลง มีส่วนทำให้ฐานะการคลังอ่อนแอ
lสร้างแรงจูงใจให้ลักลอบส่ง LPG จากไทยไปประเทศเพื่อนบ้าน
ค่าการตลาดที่ต่ำเกินไปทำให้บริการที่เกี่ยวกับการจำหน่าย LPG มีคุณภาพที่ด้อยลง ในอดีตเคยมี "ปัญหาถังขาว" คือการใช้ถังก๊าซข้ามยี่ห้อ ไม่ได้มาตรฐาน บรรจุไม่ครบ
ในอดีตมีความพยายามจะยกเลิกควบคุมราคา LPG และหาทางลอยตัวราคาเต็มรูปแบบตั้งแต่ปี 2540 แต่ดูเหมือนว่าข้อจำกัดทางการเมือง ช่วงครึ่งหลังปี 2557 ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มลดลงอย่างมาก จึงเปิดโอกาสให้รัฐบาล คสช.ปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน ปรับราคาต่างๆ ของ LPG ตามหลัก 3 ประการ คือ 1.ราคาที่ผู้ขายก๊าซได้รับควรสะท้อนต้นทุนแท้จริง 2.ยกเลิกการอุดหนุนราคาขายปลีกก๊าซทุกประเภทการ ใช้ ยกเว้นก๊าซหุงต้มผู้มีรายได้น้อย และ 3.กำหนดราคาขายปลีกเพียงราคาเดียวสำหรับการใช้ทุกประเภท (ก่อนหน้านี้มีสามราคา คือ ก๊าซ ที่ใช้หุงต้ม ก๊าซอุตสาหกรรม และก๊าซรถยนต์ ยังไม่รวมก๊าซสำหรับ ผู้มีรายได้น้อย)
ในการปรับปรุงโรงแยกก๊าซได้รับราคา LPG ตามต้นทุนการผลิต ซึ่งต้นปี 2558 อยู่ที่ประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน โรงกลั่นน้ำมันได้รับราคา LPG ตามต้นทุนค่าเสียโอกาสในการส่งออก คือราคา CP ลบด้วย 20 ดอลลาร์/ตัน (CP เป็นราคาประกาศของเปโตรมิน ที่ซาอุดิอาระเบียถือเป็นราคาตลาดโลก เดือน ม.ค. 2558 อยู่ที่ 443 ดอลลาร์/ตัน) และก๊าซนำเข้าได้รับราคาตามต้นทุนนำเข้า คือราคา CP รวมค่าขนส่ง (ซึ่งในขณะนั้นกำหนดเป็น 85 ดอลลาร์/ตัน)
"ราคาซื้อตั้งต้น" คำนวณได้จากการเฉลี่ยของราคาที่โรงแยกก๊าซ โรงกลั่นน้ำมัน และผู้นำเข้าก๊าซได้รับตามรายละเอียดข้างต้น เป็นการเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักและเมื่อเอาราคาซื้อตั้งต้นไปรวมกับภาษีต่างๆ กองทุนน้ำมันฯ และค่าการตลาดแล้ว ก็จะได้ราคาขายปลีก LPG สำหรับการใช้ทุกประเภท ซึ่งเดือน ม.ค. 2558 อยู่ที่ 24.16 บาท/กิโลกรัม
ตั้งแต่เดือน ส.ค. กระทรวงพลังงานเริ่มเปิดเสรีธุรกิจ LPG ทั้งระบบ โดยขั้นแรกเสรีเฉพาะการนำเข้า แต่ยังคงราคาที่โรงกลั่นน้ำมันและที่โรงแยกก๊าซ และยกเลิกการชดเชยส่วนต่างราคาจากการนำเข้า รวมทั้งยกเลิกระบบโควตาการนำเข้า และให้ส่งออกก๊าซได้ภายใต้การควบคุมของกรมธุรกิจพลังงาน
ในขั้นตอนสุดท้ายของการเปิดเสรีมีแผนจะยกเลิกการควบคุมราคาและปริมาณของทุกแหล่งผลิตและจัดหา เปิดเสรีการนำเข้าและส่งออกโดยสมบูรณ์ รวมทั้งยกเลิกการประกาศราคาก๊าซ ณ โรงกลั่นและราคาขายส่ง ณ คลังก๊าซ โดยจะดำเนินการเมื่อตลาดมีความพร้อมด้านการแข่งขันอย่างเพียงพอ
โดยหลักการแล้วการเปิดเสรีให้มีการแข่งขันมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเป็นเรื่องที่ควรส่งเสริม เพราะหากทำได้จริง (บวกกับการกำกับดูแลที่ดี) ก็จะนำไปสู่ราคาและกำไรที่เหมาะสมและเป็นธรรม สินค้าที่มีมาตรฐานและคุณภาพเป็นที่น่าพอใจและความมั่นคงด้าน Supply
ในทางปฏิบัติการเพิ่มการแข่งขันอย่างจริงจังคงเกิดขึ้นได้ไม่ง่ายนัก เพราะ ปตท.คือผู้เล่นที่มีอิทธิพล รัฐบาลคงต้องออกแรงลดบทบาท ปตท.
แต่ที่น่าจะเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุดในอนาคต คือ การแทรกแซงของฝ่ายการเมือง ในยามที่ราคาตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น ผู้บริโภคซื้อก๊าซแพงและเริ่มบ่นบริษัทน้ำมันเอาเปรียบผู้บริโภค เปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจการเมืองเข้ามาแทรก เพื่อ "หาคะแนนนิยม" โดยอาจใช้กองทุนน้ำมันฯ ตรึงราคาและอาจใช้ ปตท.เป็นเครื่องมือบีบค่าการตลาดเหมือนในอดีต
ฟังดูเหมือนมองโลกแง่ร้ายเกินไป และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผมคงมองโลกและเมืองไทยในแง่ร้ายเกินไปจริงๆ n


