กลยุทธ์ซื้อขายออปชั่นราคาผันผวนต่ำ

เนื่องจากมีผู้ลงทุนออปชั่นจำนวนมากใช้กลยุทธ์การลงทุนที่สอดคล้องกับระดับความผันผวนของตลาดหุ้น หากความผันผวนของตลาดหุ้นต่ำดังเช่นในปีนี้ การใช้ออปชั่นในการลงทุนก็จะทำได้ยากไปด้วย เนื่องจากว่ามูลค่าของออปชั่นจะขึ้นอยู่กับความผันผวนของตลาดอย่างมาก วันนี้เราจะมาดูกันว่าจะมีกลยุทธ์ซื้อขายออปชั่นใดที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่มีความผันผวนต่ำเช่นในขณะนี้

สำหรับผู้ลงทุนที่มีความเชื่อว่าความผันผวนมีแนวโน้มจะปรับจากระดับต่ำกลับไปสู่ภาวะปกติในที่สุด หรือหมายถึงมีโอกาสสูงที่ความผันผวนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นั้น จะสามารถทำการซื้อออปชั่นหรือซื้อความผันผวน เพราะให้มูลค่าออปชั่นจะปรับตัวสูงขึ้นตามความผันผวน และส่งผลให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนต่อความเสี่ยงสูง กลยุทธ์การซื้อความผันผวนที่มีการบริหารความเสี่ยงพร้อมกันไปในตัวและเป็นที่นิยมกลยุทธ์ คือการทำ Calendar Spread หรือ Time Spread

กลยุทธ์ดังกล่าวจะประกอบไปด้วยการขายออปชั่นในเดือนใกล้ และซื้อออปชั่นในเดือนถัดไป ที่ราคาใช้สิทธิเดียวกัน ซึ่งประโยชน์ของกลยุทธ์นี้คือ ผู้ลงทุนจะจำกัดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าอ้างอิง ในขณะที่ได้รับประโยชน์จากความผันผวนที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ส่งผลให้กลยุทธ์นี้จะสามารถให้ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่สูงและคุ้มค่าต่อผู้ลงทุน เพราะใช้เงินในการลงทุนน้อย ทั้งนี้หากในระยะสั้นความผันผวนยังคงที่ เราจะได้กำไรจากพรีเมียมที่ได้รับจากการขายออปชั่นเดือนใกล้ และหากในอนาคตความผันผวนปรับสูงขึ้น ผู้ลงทุนก็ยังจะได้กำไรจาก ราคาออปชั่นที่ปรับสูงขึ้น

นอกจากกลยุทธ์ Calendar Spread แล้ว ยังมีอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมเช่นกัน คือ Iron Butterfly หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า Ironfly เป็นการขายความผันผวน ที่ให้ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน โดยที่กลยุทธ์ Iron Butterfly จะประกอบไปด้วยการซื้อขายออปชั่นรวมกันทั้งสิ้น 4 สัญญา

ได้แก่ การขายคอลออปชั่นที่ At-The-Money และซื้อคอลออปชั่นที่ Out-of-The-Money อย่างละสัญญา เพื่อจำกัดความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าอ้างอิงที่อาจจะปรับขึ้น และทำการขายพุทออปชั่นที่ At-The-Money และซื้อพุทที่ Out-of-The-Money อีกอย่างละสัญญา เพื่อจำกัดความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าอ้างอิงที่อาจจะปรับลดลง รวมทั้งสิ้นเป็น 4 สัญญา (คอลออปชั่น 2 สัญญา และ พุทออปชั่น 2 สัญญา) และ 3 ราคาใช้สิทธิ (At-The-Money, Out-of-The-Money ที่ราคาสูงสำหรับคอลออปชั่นและที่ราคาต่ำสำหรับพุทออปชั่น) ณ วันหมดอายุเดียวกันทั้งหมด

กลยุทธ์นี้จะทำให้ผู้ลงทุนสามารถจำกัดความเสี่ยงได้ แต่กำไรที่จะได้ก็จะถูกจำกัดไปด้วย ตามที่กล่าวมาข้างต้น กลยุทธ์ Ironfly นี้ คือ การที่ผู้ลงทุนขายความผันผวน หรือคาดการณ์ว่าความผันผวนจะอยู่ในระดับต่ำ หรือราคาของสินค้าอ้างอิงจะไม่เคลื่อนไหวมากนัก ดังนั้น กรณีที่ผู้ลงทุนจะได้กำไรจากกลยุทธ์นี้ คือ ในกรณีที่ราคาสินค้าอ้างอิงไม่เคลื่อนไหวออก

จากกรอบราคาระหว่าง Out-of-The-Money ที่สูงของคอลออปชั่นแ ละที่ต่ำสำหรับพุทออปชั่น ซึ่งเมื่ออายุของออปชั่นค่อยๆ หมดลง โอกาสที่เราจะขาดทุนก็จะค่อยๆ ลดลง และผู้ลงทุนจะได้กำไรจากผลต่างของการรับและจ่ายพรีเมียม ณ วันหมดอายุของสัญญานั่นเอง

ทั้งนี้ ในด้านความเสี่ยงของกลยุทธ์นี้ คือ การที่ราคาของสินค้าอ้างอิงออกจากกรอบราคาดังกล่าวข้างต้น นอกจากนี้ ผู้ลงทุนต้องอย่าลืมว่าการซื้อขายออปชั่นจะมีค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียมต่างๆ เพราะฉะนั้นต้องมั่นใจว่าต้นทุนที่จะเกิดขึ้นมีอะไรบ้าง คุ้มหรือไม่เมื่อเทียบกับพรีเมียมที่ได้มากับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Iron Butterfly เนื่องจากมีการเปิดสถานะจำนวนถึง 4 สัญญา เมื่อเปรียบเทียบกับ Calendar Spread ที่มีเพียง 2 สัญญาเท่านั้น

อายุสัญญาของออปชั่น ผู้ลงทุนจะต้องตัดสินใจว่าหากสัญญาตัวใกล้เกิดหมดอายุ เราจะทำอย่างไรเป็นลำดับถัดไป ซึ่งการตัดสินใจนั้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เช่น หากสัญญาใกล้หมดอายุลง แล้วสถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลงคือความผันผวนอยู่ในระดับเดิม ผู้ลงทุนอาจจะเลือกเปิดสถานะในวันหมดอายุถัดไปได้ แต่หากคิดว่าความผันผวนจะปรับสูงขึ้น ผู้ลงทุนก็ควรเลือกที่จะเก็บสถานะเดิมไว้ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นของราคาออปชั่นอย่างเต็มที่

สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนใน ออปชั่นหรือสินค้าอื่นๆ ใน TFEX สามารถสอบถามจากโบรกเกอร์ที่ท่านใช้บริการ หรือติดตามได้ที่เว็บไซต์ www. tfex.co.th