posttoday

ไม่ใช่แค่มุมกาแฟ ‘ร้านกาแฟ’ ในออฟฟิศกำลังมาแรง

26 กรกฎาคม 2560

เรื่อง เอกศาสตร์ สรรพช่างภาพ เอเอฟพี, อีพีเอผมเคยไปเยี่ยมสำนักงานของทั้งไมโครซอฟท์และกูเกิลที่สิงคโปร์ เข้าใจเลยว่าการแข่งกันในธุรกิจนี้สูงจริงๆ การ "มัดใจพนักงาน" ไม่ให้ย้ายบริษัทเป็นเรื่องใหญ่มากที่ต้องเอาจริงเอาจัง ฉะนั้นก็ไม่แปลกใจที่พื้นที่สันธนาการต่างๆ และแคนทีนจะน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก เพราะมาตรฐานสูงกว่าโรงอาหารของบริษัททั่วไปก็ว่าได้ ในราคาที่จ่ายเท่ากัน บางอย่างก็กินได้ฟรี กาแฟก็เป็นหนึ่งใน Compliment ที่ "ต้องมี" ให้พนักงาน

เรื่อง เอกศาสตร์ สรรพช่างภาพ เอเอฟพี, อีพีเอ

ผมเคยไปเยี่ยมสำนักงานของทั้งไมโครซอฟท์และกูเกิลที่สิงคโปร์ เข้าใจเลยว่าการแข่งกันในธุรกิจนี้สูงจริงๆ การ "มัดใจพนักงาน" ไม่ให้ย้ายบริษัทเป็นเรื่องใหญ่มากที่ต้องเอาจริงเอาจัง ฉะนั้นก็ไม่แปลกใจที่พื้นที่สันธนาการต่างๆ และแคนทีนจะน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก เพราะมาตรฐานสูงกว่าโรงอาหารของบริษัททั่วไปก็ว่าได้ ในราคาที่จ่ายเท่ากัน บางอย่างก็กินได้ฟรี กาแฟก็เป็นหนึ่งใน Compliment ที่ "ต้องมี" ให้พนักงาน

การมีเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติตั้งไว้ให้บริการก็ว่าดีแล้ว ใครอยากมากดดื่มก็ตามสบายได้เลย มีบริการให้ฟรีทั้งวัน แต่สำหรับตอนนี้การมีแค่เครื่องกาแฟอาจไม่พอ บริษัทหลายแห่งเริ่มให้บริการแบบ "คาเฟ่" ในบริษัทเสียเลย มีบาริสต้าคอยชงให้บริการพร้อมบรรยากาศที่ดูเป็นร้านกาแฟมากขึ้น และไม่ใช่ในบริษัทเทคโนโลยี บริษัทใน เซ็กเมนต์อื่นๆ ก็เริ่มที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องการดื่มกาแฟของพนักงานมากขึ้น

บริษัทวิจัยทางการตลาด Package Pack เปิดเผยผลสำรวจของพนักงานออฟฟิศในสหรัฐ ในปี 2015 พบว่าพนักงานส่วนมากใช้เวลาโดยเฉลี่ย 62 ชั่วโมง/ปี นอกเหนือจากการพักกลางวัน หมดไปกับการออกไปหาซื้อและดื่มกาแฟข้างนอกบริษัท ซึ่งเป็นจำนวนชั่วโมงไม่น้อยเมื่อคิดว่ามันมาจากพนักงานกว่า 75% ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ ฉะนั้นหากคิดกลับกัน หากยกเอาคาเฟ่และกาแฟคุณภาพดีหน่อยมาอยู่ในออฟฟิศ ก็น่าจะอำนวยความสะดวกให้พนักงานไม่น้อย สิ่งที่ตามมา ก็คือ เกิดธุรกิจใหม่ของบริษัทกาแฟที่รับจัดการเรื่องการตั้งร้านกาแฟในออฟฟิศขึ้นมาหลายต่อหลายบริษัท อย่าง Farm Coffee Roaster หรือ Ritual Coffee ที่หันมาสนใจธุรกิจนี้จริงจัง โดยยินดีขายกาแฟในราคาที่ถูกลงครึ่งหนึ่งเพื่อแลกกับค่าเช่าที่ถูกลง โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นคนที่ทำงานบริษัทเป็นหลัก

ฟังดูก็เป็นโมเดลที่น่าสนใจนะครับ เพราะหากคิดง่ายๆ ว่า ถ้ามีร้านกาแฟที่ราคาถูกลงครึ่งหนึ่ง แถมไม่ต้องลงลิฟต์ เดินไปอีกให้เสียเวลา ก็เป็นทางเลือกที่เราสามารถกินมันได้ทุกวัน อย่างไรก็ดี นี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว เพราะคุณอาจคิดว่าที่ไหนๆ ก็มีแบบนี้ ตึกที่ออฟฟิศไหนๆ ในเมืองไทยก็มีร้านกาแฟใต้ตึก ถูกด้วย ดีด้วย กาแฟมวลชนของ CP ก็ใช้หลักการเดียวกันในการเจาะตลาดคนทำงานในย่านธุรกิจ แต่อย่าลืมว่าในเมืองใหญ่ๆ อย่างชิคาโกหรือนิวยอร์ก ค่าเช่าที่ในการทำธุรกิจไม่ได้ราคาถูก และการออกไปตั้งเป็น Kios อยู่นอกตึกเหมือนซุ้มขายฮอตด็อก มันไม่น่าเวิร์กเท่าไรในฤดูหนาว สิ่งที่ร้านกาแฟเหล่านั้นทำได้มากกว่าการเป็นมุมกาแฟเฉยๆ ก็คือ ความพยายามในการเปลี่ยนร้านกาแฟเหล่านั้นให้เป็นเหมือน Co-Working Space เก๋ๆ ที่ไม่ต้องเสียค่าชั่วโมงและไว-ไฟ นั่นทำให้การทำซุ้มกาแฟข้างล่างตึกกลายเป็นโปรเจกต์เด็กน้อยไปเลย

ผมเจอรายงานใน Wall Street Journal เล่าว่า สำนักงานใหญ่ของบริษัทด้านการเงินอย่างมาสเตอร์การ์ดที่นิวยอร์กก็กำลังพยายามสร้างวัฒนธรรมแบบคาเฟ่ขึ้นในที่ทำงานและอุทิศที่ส่วนหนึ่งให้กลายเป็นทั้งคาเฟ่ ที่นั่งประชุม ที่สังสรรค์พนักงาน เป็นร้านกาแฟและ Co-Working Space ที่ไม่ต้องตะกายออกไปข้างนอกให้เสียเวลา สำหรับองค์กรที่ค่อนข้างเปิดกว้างและต้องการความคิดสร้างสรรค์จากพนักงาน บริษัทแบบนี้อาจไม่น่าแปลกใจมากนัก แต่หากคิดถึงว่านี่คือบริษัทเมนสตรีมที่ทำงานอยู่ในย่านการเงินการธนาคารที่ต้องน่าเชื่อถือ หรือการรักษาภาพลักษณ์ที่ต้องดูเป็นคนเอาจริงเอาจัง ความพยายามครั้งนี้ จึงเป็นหัวข้อที่น่าสนใจทั้งเหล่าคนทำงานและคนทำร้านกาแฟด้วย เพราะนั่นหมายถึงวัฒนธรรมการทำงานแบบใหม่ในบริษัทที่ดูไม่น่าจะตกแต่งที่ทำงานอะไรมากมายนอกจากแผงกั้นเก็บเสียง อาจกำลังจะเปลี่ยน ผลตอบรับของพนักงานก็แน่นอนครับ เป็นไปในทางบวก และรู้สึกดีกับบรรยากาศการทำงานใหม่ของพวกเขา แนวโน้มนี้ก็เหมือนกับจะเป็นกระแสที่น่าจะต่อเนื่องและส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงในระยะต่อไปในเรื่องมายาคติต่อที่ทำงานที่จะค่อยๆ เปลี่ยนไป ก็เป็นได้

มีการวิจัยมาตลอดถึงเรื่องของกาแฟกับการทำงานของคนเรา ความที่กาแฟถูกสร้างเงื่อนไขให้เป็นเครื่องดื่มเชิงสัญลักษณ์ของการทำงานหนัก ก็เลยกลายเป็นว่ามีความพยายามมากมายที่จะแสดงให้เห็นความสัมพันธ์เรื่องนี้ให้ชัดเจนมากขึ้น โดยมากก็เป็นงานวิจัยที่ (อาจจะ) ได้รับเงินสนับสนุนทางด้านการเงินมาจากบริษัทกาแฟ แต่อย่างไรก็ดีผลการวิจัยเหล่านี้ก็มีรายละเอียดที่น่าสนใจและทำให้เห็นถึงว่า กาแฟเอื้อต่อการทำงานและระบบทุนนิยมของโลกจริงๆ

ซึ่งจะเล่าให้ฟังในตอนหน้านะครับ

ข่าวล่าสุด

ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต “เชษฐ์ปาดัง” เลขานายกปาดังเบซาร์