กรุงศรีลุ้นสินเชื่อบ้านฟื้นตัว
กรุงศรีลุ้นเศรษฐกิจฟื้นช่วยดันสินเชื่อบ้านครึ่งปีหลัง ห่วงความเสี่ยงกำลังซื้อและความเชื่อมั่นผู้บริโภค
กรุงศรีลุ้นเศรษฐกิจฟื้นช่วยดันสินเชื่อบ้านครึ่งปีหลัง ห่วงความเสี่ยงกำลังซื้อและความเชื่อมั่นผู้บริโภค
นายณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ครึ่งปีแรกสินเชื่อที่อยู่อาศัยเติบโต 4% ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย แต่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในปีนี้ไม่หวือหวาเหมือนปีที่แล้วที่มีมาตรการภาครัฐเข้ามากระตุ้นการโอน การเติบโต 4% บนฐานเดิมจึงเป็นที่น่าพอใจ
ทั้งนี้ สินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารไม่เติบโตก้าวกระโดด 20-30% เหมือนในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้า ซึ่งขณะนั้นอยู่ในช่วงปรับฐาน ขณะนี้ฐานสินเชื่อที่อยู่อาศัยปรับขึ้นมาจนสูงใกล้เคียงกับธนาคารใหญ่แล้ว การเติบโตจากนี้จะเป็นไปตามความเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและตลาด โดยสิ้นเดือน มิ.ย. 2560 ยอดคงค้างสินเชื่อที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 2.04 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ดี ยังคงเป้าหมายสินเชื่อที่อยู่อาศัยเติบโต 10-11% เช่นเดิม โดยคาดหวังว่า เศรษฐกิจในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก และเป็นช่วงฤดูกาลที่มีการโอนที่อยู่อาศัยมากกว่าครึ่งปีแรก แต่ก็ยังกังวลปัจจัยกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะกลับมาได้ หรือไม่ ซึ่งเมื่อพิจารณาหนี้ครัวเรือน มีแนวโน้มลดลงแล้ว แต่ต้องอาศัย ความเชื่อมั่นระยะยาวในการตัดสินใจซื้อสินทรัพย์คงทน
นายณัฐพล กล่าวว่า การปล่อย สินเชื่อใหม่ 70% มาจากความร่วมมือผ่านผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนลูกค้าติดต่อขอสินเชื่อเองมีเพียง 30% ดังนั้นกลยุทธ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีหลังเน้นทำงานร่วมกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างใกล้ชิด เพื่อจัดแคมเปญพิเศษที่กระตุ้นให้ผู้บริโภค เร่งตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันด้าน ราคาระหว่างสถาบันการเงินน่าจะถึงทางตันแล้ว สังเกตจากดอกเบี้ยบ้านในตลาดค่อนข้างใกล้เคียงกัน และโปรโมชั่นกับ ดีเวลอปเปอร์ไม่แตกต่างกันมาก สิ่งสำคัญการแข่งขันจะเป็นด้านการบริการมาก กว่า และโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% อาจจะมีเป็นกิมมิกบ้างสั้นๆ 3 เดือนเท่านั้น
สำหรับทำเลเป้าหมายที่มีโอกาสเติบโตนั้นจะมุ่งเน้นจังหวัดหัวเมืองใหญ่ พื้นที่ที่เศรษฐกิจอิงการท่องเที่ยวและบริการ ที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตดีตามอัตราการเติบโตจำนวนนักท่องเที่ยว ซึ่งประชากรมีรายได้ดี ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง นอกจากนี้ กทม.และปริมณฑล บางทำเลยังไปได้ เช่น ในเมือง ตลาดคอนโดมิเนียมระดับบน เป็นต้น
สำหรับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ค่อนข้างนิ่ง ผู้ประกอบการมีสต๊อกคงค้างอยู่มาก แต่ธนาคารไม่กังวลเรื่องฟองสบู่ เพราะดีเวลอปเปอร์มีการวางแผนที่ดี เมื่อเห็นสัญญาณกำลังซื้อต่ำและสต๊อกคงค้างเหลือในทำเลใด ก็ชะลอการขึ้นโครงการใหม่ รอจนกว่าความต้องการซื้อจะดูดซับออกไป จึงจะเริ่มขึ้นโครงการใหม่อีกครั้ง คาดว่าตลาดจะเริ่มกลับมาดีขึ้นในปี 2561
ทั้งนี้ การปฏิเสธสินเชื่อเป็นปลายเหตุของตลาดที่อยู่อาศัยชะลอ ต้นเหตุมาจากความสามารถชำระหนี้ของ ผู้กู้ด้อยลง เพราะภาระหนี้ต่อรายได้สูง ซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ้านกับ ดีเวลอปเปอร์ใหญ่มีอัตราอนุมัติ 70-80% ส่วนดีเวลอปเปอร์รายกลาง-เล็กมีอัตราอนุมัติ 40-50% เนื่องจากดีเวลอปเปอร์คัดกรองลูกค้ามาแล้วระดับหนึ่งก่อน ที่ถึงขั้นตอนการยื่นกู้ธนาคาร


