TPBI ปีนี้ทรงตัว
บงกชรัตน์ สร้อยทองมุมมองผู้บริหารจากอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกและบรรจุภัณฑ์ "สมศักดิ์ บริสุทธนะกุล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีพีบีไอ (TPBI) ที่มีสินค้าเกี่ยวข้องกับการบริโภคและอุปโภค เช่น ถุงพลาสติก ฟิล์มใช้เป็นวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับสินค้าบริโภคและอุปโภค (Flexible Packaging) มองว่า ถ้าดูจากข่าวดูเหมือนผลิตผลทางการเกษตรและเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังจะดีขึ้น
บงกชรัตน์ สร้อยทอง
มุมมองผู้บริหารจากอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกและบรรจุภัณฑ์ "สมศักดิ์ บริสุทธนะกุล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีพีบีไอ (TPBI) ที่มีสินค้าเกี่ยวข้องกับการบริโภคและอุปโภค เช่น ถุงพลาสติก ฟิล์มใช้เป็นวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับสินค้าบริโภคและอุปโภค (Flexible Packaging) มองว่า ถ้าดูจากข่าวดูเหมือนผลิตผลทางการเกษตรและเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังจะดีขึ้น
ทว่าในอุตสากรรมแพ็กเกจจิ้งกลับมองว่า อุตสาหกรรมยังอยู่ในภาวะทรงตัวหรือแทบจะไม่มีการเติบโตเลย หรือบางรายอาจจะมีการปรับลงด้วยซ้ำ เพราะปกติอุตสาหกรรม นี้จะมีการเติบโตที่อ้างอิงไปกับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
นอกจากนั้น ยังมองว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากที่ข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็ว พอเกิดความไม่แน่นอนสูงทำให้เกิดความระมัดระวังในการทำธุรกิจ และไม่กล้าทำอะไรมาก และอาจนำไปสู่การเก็บของสต๊อกสินค้าน้อยลง โดยจะเห็นได้ชัดจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่อนาคตมีโอกาสเป็นรถจากไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งจะกระทบไปสู่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมากมาย เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ อะไหล่
เช่นเดียวกับ TPBI ที่ก็ได้รับผล กระทบจากกระแสที่จะมีการใช้ถุงหิ้วลดลง โดยสหรัฐที่เคยสั่งนำเข้าสินค้าจากเราเพราะมีความต้องการใช้ถุงหูหิ้วมากจนไม่เพียงพอต่อการผลิตในประเทศ แต่ปีที่แล้วทางรัฐแถบอเมริกาตะวันตกงดใช้ถุงหูหิ้วมากขึ้นก็ลดการนำเข้าถุงลง
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่บริษัทมีการ เตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อเตรียมจะหาสินค้าที่มาทดแทนกลุ่มนี้ โดยเน้นไปยังสินค้าที่มีความเฉพาะด้านมากขึ้น (นิชมาร์เก็ต) หรือเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอาหาร เช่น ถุงสำหรับแต่งหน้าเค้ก หรือถุงที่อยุ่ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเครื่องมือให้ได้ตามมาตรฐานทั้งสหรัฐและยุโรป
"เมื่อโลกกกำลังหมุนเร็ว เราต้องยอมเปลี่ยนถ่ายตัวเองเพื่อหาและเดินไปในช่องทางที่ถูกและมั่นคงมากขึ้น ต้องยอมให้กำลังการผลิตในบางส่วนหยุดเดินเพื่อเริ่มทดสอบกับกำลังการผลิตใหม่ อย่างที่บริษัทได้ระดมทุนจากประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) เมื่อต้นปี 2559 เพื่อไปลงทุนสร้างโรงงานใหม่ใน Flexible Packaging ที่อนาคตมีแต่จะเพิ่มอัตรากำไรสุทธิมากขึ้น เพียงแต่ช่วงกว่า 1 ปีนี้จะต้องยอมแบกต้นทุนการผลิตเพื่อรอให้เครื่องจักรได้ทดสอบและเดินเครื่องการผลิตให้เต็มศักยภาพ"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า โดยรวมภาพของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมครึ่งปีหลังคงไม่แตกต่างอะไรจากครึ่งปีแรก เพราะเป็น 2 เด้งที่บริษัทได้รับผลกระทบ ทั้งเรื่องการอยู่ระหว่างการเปลี่ยนถ่ายไปตาม เทรนด์ของโลกเพื่อให้มีโอกาสในการทำกำไรที่ยั่งยืน พร้อมกับผลกระทบจากเศรษฐกิจในประเทศที่ยังชะลอตัวอยู่
เชื่อว่าปีนี้เรื่องรายได้และกำไรสุทธิอาจจะลดลงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 5,025 ล้านบาท และ 393 ล้านบาท ตามลำดับ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ผลิตถุงพลาสติกทั่วไป 60% ของสัดส่วน รายได้ทั้งหมด ซึ่งยังมีการเติบโตท่ี่สูงจากถุงขยะและถุงบรรจุภัณฑ์ผักและผลไม้ แต่สิ่งที่ได้รับผลกระทบและน่าเป็นห่วงคือ ถุงพลาสติกแบบหูหิ้วที่คงลดลง ทั้งจากการชะลอตัวเศรษฐกิจและกระแสโลกที่ลดการใช้ถุงพลาสติก โดยสินค้าประเภทนี้ยังเป็นสัดส่วนที่สูง จึงส่งผลให้รายได้เฉลี่ยโดยรวมจากถุงพลาสติกทั่วไปลดลงด้วย ซึ่งปกติถ้าเศรษฐกิจเติบโตดีส่วนนี้จะเติบโตปีละ 5-10% แต่ปีนี้คาดว่ารายได้ส่วนนี้จะลดลง
ขณะที่อีก 40% มาจาก Flexible Packaging และสินค้ากลุ่มฟิล์ม ที่เน้นผลิตไปยังสินค้ากลุ่มอาหารพร้อมทานเพื่อสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และถือเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรสุทธิดี ปีนี้รายได้จากส่วนนี้จะอยู่ที่ 750 ล้านบาท หรือโตกว่า 10% จากปีก่อนที่ 650 ล้านบาท ปัจจุบันก็เห็นสัญญาณว่าน่าจะทำได้ตามเป้าหมาย
ปัจจุบันบริษัทมีการส่งออก 60% ขายในประเทศ 40% โดยในประเทศเป็นการเติบโตจาก Flexible Packaging อีกส่วนคือการหาซื้อกิจการหรือการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างๆ สำหรับการร่วมทุนกับบริษัทที่เมียนมา คาดว่าจะผลิตได้ภายในสิ้นปีนี้ ปกติที่เมียนมาการใช้ถุงเติบโต 10% ต่อปี ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรที่มีความสนใจร่วมทุนกันทั้งในประเทศกลุ่ม CLMV และนอกเขต CLMV


