ช้างดาวเร่งเจาะวัยรุ่น

โพสต์ทูเดย์ – นันยางรุกตลาดรองเท้าแตะช้างดาว ชูกลยุทธ์คัลเลอร์มาร์เก็ตติ้งออกสีใหม่ รับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ใส่เที่ยวนอกบ้าน ดันรายได้รวมโต 5%

นายจักรพล จันทวิมล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและขาย บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้าผ้าใบนันยาง เปิดเผยว่า แผนธุรกิจรองเท้าแตะตราช้างดาวในช่วง 3 ปีข้างหน้า บริษัทจะใช้กลยุทธ์คัลเลอร์มาร์เก็ตติ้ง หรือพัฒนาสีรองเท้าใหม่ๆ ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์สินค้าให้ดูทันสมัย ขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ 20 ปีขึ้นไป เพิ่มจาก 30% เป็น 40% เพื่อสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มจากปัจจุบันฐานลูกค้าหลัก 40 ปีขึ้นไปในสัดส่วน 70%

ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดตัวรองเท้าแตะช้างดาวเบสิก มีด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีดำสีขาว จากปัจจุบันมีสีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน และสีเหลือง โดยมองว่าตลาดรองเท้าแตะหูคีบในเซ็กเมนต์เดียวกับนันยางนั้นมีมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ยังมีช่องว่างอีกมาก จากทัศนคติของคนที่ใส่รองเท้าแตะเปลี่ยนไป เริ่มใส่ออกจากบ้าน หรือเดินเที่ยวมากขึ้น ในขณะที่คนไทย 1 คน มีรองเท้าแตะไว้ใส่โดยเฉลี่ย 5-8 คู่

สำหรับการทำตลาดจะเน้นการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก ยูทูบ เพื่อให้แบรนด์เข้าถึงคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น และขยายช่องทางขายทางออนไลน์ แม้ว่าจะยังมีสัดส่วนที่เล็กแต่เติบโตสูงมาก โดยจำหน่ายสินค้าผ่านทางมาร์เก็ตเพลส อาทิ ลาซาด้า อีเทลเลอร์มาร์เก็ต เช่น บิ๊กซีเทสโก้ โลตัส จากเดิมช่องทางหลักร้านค้าปลีกรายย่อย 80% โมเดิร์นเทรด 20% ซึ่งปัจจุบันนันยางเป็นผู้นำตลาดรองเท้าแตะแบบหูคีบ มีส่วนแบ่ง 5-10%

“ช่วงนี้เป็นโลว์ซีซั่นของรองเท้าผ้าใบนักเรียน ซึ่งปกติครึ่งปีแรกสร้างรายได้ 80% บริษัทจึงต้องรุกตลาดรองเท้าแตะเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม และช่วงปลายปีวางแผนเปิดตัวสินค้ารุ่นลิมิเต็ดออกมาจำหน่าย สร้างสีสันให้ตลาด เนื่องจากการแข่งขันตลาดผู้ประกอบการจากจีนและแบรนด์ท้องถิ่นส่วนใหญ่ใช้กลยุทธ์ราคาจำหน่าย 40-50 บาท/คู่ เมื่อเทียบกับนันยางราคา 99 บาท/คู่” นาย
จักรพล กล่าว

ขณะที่แผนการทำตลาดต่างประเทศ 3 ปี ปัจจุบันส่งออกรองเท้าแตะไปยังยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี รวมทั้งทำตลาดอาเซียนครอบคลุมทุกประเทศผ่านดิสทริบิวเตอร์ ตั้งเป้าเพิ่มจาก 17% เป็น 25% ส่วนรายได้ภายในประเทศ 83% เหลือเป็น 75%

ด้านรายได้ทั้งปีของบริษัทคาดว่าเติบโต 3-5% ตามเป้าหมาย จากรายได้ 6 เดือนเติบโต 2-3% และจากการเปิดตัวสินค้าใหม่จะผลักดันให้กลุ่มรองเท้าแตะช้าวดาวเติบโต 5% หรือมีรายได้ร่วม 1,000 ล้านบาท