เพิ่มน้ำหนัก‘พลังงาน’

ธนชาตปรับจากน้อยกว่าตลาดเป็นกลางผลราคากลุ่มปตท.ดิ่ง

โพสต์ทูเดย์ - ธนชาตปรับคำแนะนำหุ้นพลังงานขึ้นเป็นกลาง จากน้อยกว่าตลาด หลังราคาหุ้นดำดิ่ง

นายจักร เรืองสินภิญญา นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาตปรับคำแนะนำต่อกลุ่มพลังงานขึ้นเป็นกลาง จากน้อยกว่าตลาดหลังจากที่ราคาหุ้นบริษัท ปตท. (PTT) และบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ปรับลดลงมา แต่ยังเชื่อว่ากลุ่มพลังงานจะถูกลดสัดส่วนถือครองลง จากมูลค่าปัจจุบันอยู่บนความคาดหวังที่สูง และราคาน้ำมันน่าจะคงตัวต่อมูลค่าของกลุ่มธุรกิจปลายน้ำนั้นน่าสนใจกว่า จึงแนะนำซื้อ หุ้นบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) และบริษัท ซัสโก้ (SUSCO)

ด้านตลาดยังคาดหวังว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญแม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวลงมา และสัดส่วนความต้องการต่อการผลิตจะลดลงอย่างต่อเนื่อง

“การตั้งสมมติฐานราคาน้ำมันในระดับสูงของตลาด ทำให้มูลค่าพื้นฐานหุ้นกลุ่มพลังงานถูกประเมินสูงโดยเฉพาะ PTTEP แต่ยังเชื่อว่าหุ้นในกลุ่มธุรกิจปลายน้ำ และเคมีภัณฑ์ยังน่าสนใจมากกว่ากลุ่มอื่น” นายจักร กล่าว

ทั้งนี้ ยังคงแนะนำ ขาย PTTEP จากแนวโน้มภาพธุรกิจที่ยังอ่อนแอต่อเนื่องและมูลค่าพื้นฐานปัจจุบันดูสูงเกินไป ที่ระดับมูลค่า สัดส่วนราคาต่อกำไร (พีอี) ปี 2560 ที่ 13 เท่ารวมทั้งราคาหุ้นที่น่าจะรวมเอาความคาดหวังว่าราคาน้ำมันจะกลับไปคงตัวที่60-70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ได้และความคาดหวังในเชิงบวกต่อการต่อสัญญาสัมปทานใหม่ที่ใกล้เข้ามา

บล.ธนชาต ไม่นำความคาดหวังรวมในประมาณการและคาดว่าจะเห็นผลกำไรไตรมาส 2 ออกมาอ่อนแอจากผลของสต๊อกคงค้างจึงได้ปรับคำแนะนำ PTT ขึ้นเป็นถือจากขาย และปรับราคาเป้าหมาย เป็น 350 บาท จากเดิม 340 บาท ส่วน PTT ยังไม่น่าสนใจ แม้จะปรับตัวลงมากว่า 10% จากราคาสูงสุดของปี แต่ความเสี่ยงลงจำกัด แรงกดดันหลักต่อ PTT คือแนวโน้มธุรกิจก๊าซธรรมชาติยังดูไม่ดี ความต้องการก๊าซธรรมชาติยังคงตัวมาตลอด 5 ปีและเริ่มหดตัว และส่วนต่างกำไรหดตัวจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และราคาขายที่ลดต่ำลง น่าจะเห็นต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2 ธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกยังคงดูดี