‘ช.โปรเซสซิ่งฟู้ด’ สร้างสรรค์แบรนด์มูมู่

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

การทำฟาร์มปศุสัตว์เลี้ยงสุกรอย่างครบวงจรของบริษัท ช. โปรเซสซิ่งฟู้ด ที่ทำผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ พร้อมกับมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความแตกต่างสู่ตลาดอย่างไม่จำกัด

“สวรรพิศา จงเพิ่มวัฒนะผล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช. โปรเซสซิ่งฟู้ด เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำฟาร์มปศุสัตว์เลี้ยงสุกรอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่มีตั้งแต่ทำฟาร์มเลี้ยงสุกรภายในโรงงาน พร้อมกับการพัฒนาระบบจัดการภายในฟาร์ม สร้างฟาร์มมาตรฐาน และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ สู่ผลิตภัณฑ์แปรรูป จากเนื้อสุกร กับแบรนด์ มูมู่ (Moo Moo) ที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย

การสร้างทำฟาร์มได้เริ่มตั้งแต่ปี 2545 พร้อมกับการพัฒนา สร้างฟาร์มมาตรฐานอยู่ใน จ.นครศรีธรรมราช ทำให้ได้การรับรองจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นแห่งแรกในพื้นที่ฟาร์มภาคใต้ พร้อมกับมีการพัฒนาการเลี้ยงสุกร ทำให้ได้เนื้อสุกรที่มีมาตรฐานและมีคุณภาพดี

ขณะเดียวกัน ยังมีการร่วมมือกับนักวิจัยพัฒนาการสร้างเนื้อสุกร ทำให้ได้รับมาตรฐานเนื้อสุกรที่มีคุณภาพ เนื้อแน่น และมีความนุ่ม รวมทั้งไม่มีการใส่สารใดๆ ส่งผลให้ผู้บริโภคจะได้เนื้อสุกรที่มีความปลอดภัย รวมถึงภายในโรงงาน ยังมีการสร้างโรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส ที่ผลิตไฟฟ้าไว้ใช้ภายในโรงงานด้วย

พร้อมกันนี้มีการบริการจัดการเรื่องน้ำเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการเลี้ยงสุกร ซึ่งมีกระบวนการบำบัดและนำกลับมาใช้ใหม่ภายในฟาร์ม ทำให้เกิดผลที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชนในพื้นที่อย่างมาก รวมถึงสร้างโรงงานและการเลี้ยงสุกร ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

สำหรับการแปรรูปเนื้อสุกร สู่ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ มูมู่ โดยมีผลิตภัณฑ์ทั้ง ไส้กรอก เบคอน และสเต๊ก เป็นต้น ซึ่งแนวคิดการแปรรูปสุกรสู่ผลิตภัณฑ์ เพราะต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า และต้องการมุ่งสร้างธุรกิจให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว

อีกทั้งมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บักกุดเต้ พร้อมรับประทาน และขาหมูพะโล้พร้อมรับประทาน ในโครงการ การพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ลูกค้า

“บริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่กำลังพัฒนาอยู่หลายรายการเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ และสร้างสินค้าที่มีคุณค่า ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และทำให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวก” สวรรพิศา กล่าว

ในปัจจุบัน บริษัทได้ทำตลาดในพื้นที่ภาคใต้เป็นหลัก และมีแผนจะขยายการทำตลาดไปในพื้นที่อื่นมากขึ้น พร้อมกันนี้จ ะมุ่งสร้างแบรนด์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงร่วมใช้งานวิจัยสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความแตกต่าง มีคุณภาพที่ดี และเป็นที่ต้องการของลูกค้า