อเมซอนปรับแผนสู่แฟรนไชส์เต็มรูปแบบ

คาเฟ่อาเมซอน ปรับแผนการดำเนินสู่แฟรนไชส์เต็มรูปแบบ พร้อมขึ้นห้าง อาคารสำนักงาน มั่นใจยอดขายปีนี้ 20 ล้านแก้ว 500 สาขา ทั่วประเทศ

นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. ผู้ดำเนินธุรกิจร้านคาเฟ่อาเมซอน เปิดเผยว่า ในขณะนี้บริษัทกำลังวางแผนที่จะเปิดขายร้านคาเฟ่อาเมซอนในรูปแบบแฟรนไชส์ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในปีหน้า และจะขยายสาขาไปยังห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน นอกเหนือจากสถานีน้ำมันปตท.
 เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดี และร้านกาแฟเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั่วไป

ปัจจุบัน ร้านคาเฟ่อเมซอนมี 470 สาขา ทั่วประเทศจากสถานีน้ำมันปตท.กว่า 1,200 สาขา คาดวาสิ้นปีนี้จะมีสาขาทั้งสิ้น 500 สาขา ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนี้ บริษัทบริหารร้านเองราว 10% ที่เหลือ 90% เป็นการลงทุนจากเอกชน ที่บริษัทส่งวัตถุดิบให้ และในปีหน้าหากมีการขยายสาขาไปยังห้างสรรพสินค้า หรืออาคารสำนักงาน บริษัทก็จะคงสัดส่วนการบริหารร้านเองในระดับ 10% ต่อไป

ทั้งนี้ ยอดขายของร้านคาเฟ่อเมซอนในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายทั้งสิ้น 20 ล้านแก้ว หรือคิดเป็นยอดขาย 100 แก้วต่อสาขาต่อวัน ซึ่งสาขาที่ขายดีจะมียอดขายถึง 500 แก้วต่อวัน และ 1,000 แก้วในช่วงเทศกาล

“ทางบริษัทของเรามีความสนใจในการทำธุรกิจค้าปลีก อย่าง ไฮเปอร์ มาร์เก็ต หรือห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ก็เป็นธุรกิจที่น่าสนใจและเป็นเทรนด์ของการทำธุรกิจในปัจจุบัน ส่วนเรื่องการซื้อคาร์ฟูร์นั้นไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ” นายปรัชญา กล่าวเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ปตท. ก็มีธุรกิจค้าปลีกอยู่แล้ว เช่น คาเฟ่อาเมซอน, ร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ และศูนย์ให้บริการรถยนต์ โปรเชค โดยคิดสัดส่วนรายได้10%  ของรายได้ทั้งหมด ในขณะที่บริษัทในต่างประเทศที่ทำธุรกิจพลังงานจะมีรายได้จากทางอื่นที่ไม่ใช้น้ำมันและแก๊ซถึง 80% ในขณะที่ปตท. ยังมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากพลังงานน้ำมันและแก๊ส  ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตบริษัทจะมีรายได้จากด้านอื่นเพิ่มขึ้นแทนธุรกิจหลัก

ล่าสุด บริษัทได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท กรีนสปอต ผู้ผลิตนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ เปิดตัวเครื่องดื่มสูตรพิเศษ สำหรับเทศกาลกินเจที่กำลังจะเริ่มขึ้นในเดือน ต.ค. ได้แก่ กาแฟลาเต้ ร้อนน้ำนมถั่วเหลือง, กาแฟอาเมซอนเย็นน้ำนมถั่วเหลือง และ ชาเย็นน้ำนมถั่วเหลือง โดยปตท.จะแบ่งรายได้ 10% ต่อแก้วให้กับ กรีนสปอต