แจ้งเอาผิดสหกรณ์ออมทรัพย์นพเก้าหลังพบพิรุธไซฟ่อนเงิน6พันล้าน
กรมส่งเสริมสหกรณ์ สั่งดำเนินคดียักยอกทรัพย์กับสหกรณ์ออมทรัพย์นพเก้า พบพิรุธไซฟ่อนเงินสมาชิกเฉียด 6,000 ล้าน
กรมส่งเสริมสหกรณ์ สั่งดำเนินคดียักยอกทรัพย์กับสหกรณ์ออมทรัพย์นพเก้า พบพิรุธไซฟ่อนเงินสมาชิกเฉียด 6,000 ล้าน
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมได้ให้ผู้ชำระบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์เคหสถานนพเก้ารวมใจ เข้าดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ เคหสถานนพเก้ารวมใจ ข้อหายักยอกและฉ้อโกงสมาชิกจัดซื้อที่ดินราคาสูงเกินจริง พร้อมสั่งเลิกสหกรณ์เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2560 หลังจากพบความผิดปกติทางการเงินและให้กรรมการสหกรณ์เข้าแจ้งความดำเนินคดีทางแพ่งกับกรรมการสหกรณ์เพื่อไล่เบี้ยทรัพย์ทั้งหมด
ทั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มบุคคลเพียง 5-6 กลุ่มที่พัวพันกับธุรกรรม ซึ่งกรมได้ส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มบุคคลดังกล่าว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน โดยพบว่าสหกรณ์ดังกล่าวนำเงินที่รับฝากจากสมาชิกไปซื้อที่ดินในราคาที่สูงกว่าราคาประเมินมาก โดยอ้างว่าเป็นราคาที่บริษัทกลางที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รับรอง
กรมและ ก.ล.ต.ร่วมตรวจสอบพบว่ามีการประเมินราคาที่ดินสูงเกินจริง โดยประเมินราคาที่ดินให้สหกรณ์นพเกล้าในหลายแปลงเป็นมูลค่าสูงถึง 6,900 ล้านบาท เช่น ที่ดินริมทรัพย์น้ำเมืองทองธานีราคาประเมิน 300 ล้านบาท ราคาสหกรณ์ซื้อ 1,900 ล้านบาท ที่ดินปากเกร็ดราคาประเมิน 37 ล้านบาท สหกรณ์ซื้อ 915 ล้านบาท ที่ดินกบินทร์บุรีราคา 37 ล้านบาท สหกรณ์ซื้อราคา 440 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งมูลค่าที่ดินที่สหกรณ์ซื้อทั้งหมดรวมตัวเลขเป็นเงิน 6,900 ล้านบาท
"เบื้องต้นกรมได้ตรวจสอบอย่างไม่เป็นทางการ คาดว่ามูลค่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้นเงินจำนวนมากหายไปกับพฤติกรรมนี้ ซึ่งเมื่อตรวจสอบอย่างเป็นทางการจะรู้ราคาที่แท้จริงของทรัพย์อีกครั้ง"นายพิเชษฐ์ กล่าว
ขณะที่สหกรณ์ดังกล่าวมีการระดมทุนและมีผู้ถือหุ้นประมาณ 400 คน แต่มีเพียง 4 รายที่ถือหุ้นเกิน 10 ล้านบาท คือ ประธานและภรรยาและลูก เงินฝากมาจากสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝากเงิน 915 ล้านบาท มีที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนนทบุรี ฝากเงิน 113 ล้านบาท ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน ชุมนุมสหกรณ์ ธนกิจไทย มี นายสวัสดิ์แสงบางปลาว เป็นกรรมการฝากเงิน 4,485 ล้านบาท มีทรัพย์จำนองรวมราคาประเมิน 650 ล้านบาท
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่ากรมได้ให้กรรมการสหกรณ์ทุกแห่งไปดำเนินการฟ้องคดีทางแพ่งกับกรรมการสหกรณ์นั้นๆไป ตั้งกรรมการสอบหาคนทุจริตใน 15 วัน และร้องทุกข์กล่าวโทษทางแพ่งไล่เบี้ยทรัยพ์ให้ชดใช้ทรัยพ์ภายใน 15 วันหากไม่ดำเนินการชดใช้ทรัพย์ให้ฟ้องคดีทางแพ่งภายใน 15 วัน และหากสกรณ์นั้นๆยังไม่ดำเนินการกรมส่งเสริมสหกรณ์จะเข้าดำเนินคดีตามกฏหมายสหกรณ์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดคาดว่าจะรู้ว่าจะมีมาตรการอย่างไรภายใน 1 เดือน และได้ให้ทุกจังหวัดไปตรวจสอบสหกรณ์ทั้งหมดที่มีการฝากเงินไขว้กันและรายงานมายังกรมภายใน 15 มิ.ย. เพื่อตรวจสอบและหาทางแก้ไขหากมีการทุจริตและผิดพลาดเกิดขึ้น ซึ่งผลจากกรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยคลองจั่นและสหกรณ์นพเก้า นั้นเป็นตัวอย่างสำคัญที่ทำให้กรมและกระทรวงการคลังและแบงค์ชาติต้องมีมาตรการควบคุมสหกรณ์ออกมาบังคับใช้ 1 มิ.ย. 2560
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบสถานะเงินกู้ของสหกรณ์เจ้าหนี้ พบว่าไม่น่ากังวลเรื่องจากชุมนุมสหกรณ์ธนกิจมีมูลค่าสินทรัยพ์รวม 7 พันล้านบาท แต่มาให้สหกรณ์นพเกล้ากู้ 4 พันล้านบาท และมีทรัยพ์ค้ำ แต่อยู่ระหว่างประเมินว่าทรัยพ์ที่ค้ำคุ้มกับเงินที่กู้หรือไม่เนื่องจากราคาที่ดินประเมินสูงเกินจริง แต่เนื่องจากมีเงินสดเยอะดังนั้นคาดว่าไม่กระทบกับสมาชิกสหกรณ์ของชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย ส่วนสหกรณ์ออมทรัพย์ออมทรัยพ์ครูนนทบุรี มีสถานะทางการเงินถึง 8 พันล้านบาท เงินที่ฝาก 113 ล้านหรือประมาณ 0.01 % จึงไม่น่ากังวลแม้จะไม่มีทรัยพ์ค้ำ นอกจากนั้นสหกรณ์นพเกล้ายังมีสินทรัพย์ที่จะครอบคลุมเงินฝากก้อนนี้ คือคอนโดและที่ดินที่เมืองทองธานีมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท


