ทิ้งหุ้นTNRหนีกำไรดิ่ง

โพสต์ทูเดย์ - หุ้นถุงยาง “ไทยนิปปอน” ไตรมาสแรกกำไรทรุด 93.21% กดราคาดิ่ง 17% ลุ้นครึ่งปีหลังฟื้น ตลาดซึมนักลงทุนผิดหวังหลาย บจ.ผลงานแย่

บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ (TNR) ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยและน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทยและรายใหญ่ของโลกรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องภายใต้แบรนด์ “Onetouch” และ “Niptex” แจ้งไตรมาส 1/2560 มีกำไรสุทธิ 3.37 ล้านบาท ลดลง 93.21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากรายได้รวม 242.5 ล้านบาท ลดลง 16.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TNR ชี้แจงว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากอัตรากำไร (มาร์จิ้น) และปริมาณการขายสินค้าที่ลดลง จากธุรกิจงานประมูลถุงยางอนามัยในต่างประเทศที่แข่งขันราคาสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาเฉลี่ยของงานที่ชนะประมูลในไตรมาสแรกลดลงเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

ธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้า (โออีเอ็ม) ได้รับผลกระทบจากลูกค้าหลักในกลุ่มทวีปเอเชียโดยเฉพาะประเทศจีนที่ชะลอการสั่งสินค้า เนื่องจากลูกค้าได้เปลี่ยนนโยบายการบริหารสินค้าคงคลัง มีผลให้สัดส่วนการซื้อสินค้าเปลี่ยนไป โดยเป็นสินค้าที่มีอัตรากำไรต่ำกว่า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ที่มีผลกระทบกับผลการดำเนินงาน ได้แก่ เงินบาทที่แข็งค่าเทียบไตรมาส 4 ปีก่อน และราคาน้ำยางพาราซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตเพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่คาดว่าไตรมาส 2-4 จะเติบโตได้ตามแผนงาน เตรียมเจรจาลูกค้าในจีนและญี่ปุ่นเพื่อร่วมมือวางแผนขยายตลาด และเร่งเพิ่มยอดขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัท ทั้ง “Onetouch” และ “Niptex” ส่วนธุรกิจ Tender นั้น หลังจากที่บริษัทชนะงานประมูลผลิตถุงยางอนามัยองค์กร NGOs ของประเทศสหรัฐ  8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 270-280 ล้านบาท) เมื่อปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าไตรมาส 4/2559 และไตรมาส 1/2560 มีการสั่งผลิตและส่งมอบสินค้าเพียง 0.6 ล้านเหรียญสหรัฐ  

 ตลาดหุ้นไทยวันที่ 9 พ.ค. ปิดลดลง 7.17 จุด มาที่ 1,560.31 จุด นักวิเคราะห์ระบุว่า สาเหตุหนึ่งเกิดจากบริษัทจดทะเบียน (บจ.) บางบริษัทผลประกอบไตรมาสแรกน่าผิดหวัง ส่วนราคาหุ้น TNR ปรับตัวลงแรง 17.01% ปิดที่ 22.20 บาท