ธนาคารผู้สูงอายุเริ่มเดินหน้า Reverse Mortgage

หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแก้ไขกฎหมายเพื่อขยายขอบเขตการทำธุรกิจ และแก้ไขข้อขัดข้องในการดำเนินกิจการของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เมื่อปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในนั้นคือ

ร่างพระราชบัญญัติธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... 

โดยแก้ไขวัตถุประสงค์ของ ธอส.ให้รองรับการให้สินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage) เพราะปัจจุบัน ธอส.ไม่สามารถให้บริการ Reverse Mortgage เนื่องจากไม่อยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ในการสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัย

ทั้งนี้ Reverse Mortgage มีลักษณะคล้ายกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย แต่มีรูปแบบในทางตรงกันข้าม โดย Reverse Mortgage จะเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ผู้กู้จำนองที่อยู่อาศัยซึ่งปลอดภาระไว้เป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินเพื่อขอรับเงินเป็นงวดๆ ตามที่ตกลงกันเอาไว้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุที่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และรองรับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของประชากรในอนาคต

ลองย้อนรำลึกความหลังเมื่อไม่นานมานี้กันหน่อยว่า สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ หรือ Reverse Mortgage คืออะไร

สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ หรือ Reverse Mortgage เพื่อให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป สามารถนำที่อยู่อาศัยที่ตนมีกรรมสิทธิ์และปลอดภาระหนี้มาเปลี่ยนเป็นรายได้ในการดำรงชีพเป็นรายเดือน โดยมอบหมายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจไปดำเนินการ 

“สินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุ” หรือถ้าแปลตามตัวจากภาษาอังกฤษก็จะเรียกว่า “การจำนองแบบย้อนกลับ” เพราะเป็นการกลับทิศจากสินเชื่อบ้านปกติ

จากปกติถ้าเราไปขอกู้ซื้อบ้าน เราต้องจ่ายเงินเป็นค่าผ่อนบ้านให้สถาบันการเงินทุกเดือนๆ ไปจนกว่าจะหมดหนี้ ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นเจ้าของบ้านจริงๆ

ขณะที่สินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุ จะเป็นสินเชื่อที่ผู้สูงอายุนำบ้านที่อยู่อาศัยของตัวเองมาจำนองกับสถาบันการเงิน แต่แทนที่จะได้รับเป็นเงินก้อนใหญ่ไปในครั้งเดียวเหมือนกับการจำนองทั่วไป ก็จะได้เป็น “เงินงวด” ไปเรื่อยๆ โดยที่เรายังสามารถอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นต่อไปได้จนกว่าจะเสียชีวิต หรือจนกว่าจะครบกำหนดตามสัญญา

เงินงวดที่สถาบันการเงินทยอยจ่ายให้ทุกเดือนก็จะเป็น “รายได้วัยเกษียณ” ซึ่งถือเป็นทางรอดของคนไทยวัยเกษียณที่ส่วนใหญ่จะมีบ้านเป็นของตัวเอง

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราอาจจะมองไม่เห็นโอกาสที่ Reverse Mortgage จะเกิดในประเทศไทย แต่หลังจาก ครม.เห็นชอบการแก้กฎหมายเปิดทางให้ ธอส.ทำได้ ก็เริ่มใจชื้นขึ้นมาว่าวัยเกษียณของเราน่าจะสดใสและมีทางรอดได้มากขึ้น

และไม่ใช่แค่ ธอส.เท่านั้น ที่จะเปิดให้บริการ Reverse Mortgage เพราะธนาคารออมสินก็พร้อมให้บริการ โดยล่าสุดเตรียมเปิด “ธนาคารผู้สูงอายุ” ในเดือน เม.ย.นี้

โครงการธนาคารผู้สูงอายุของธนาคารออมสิน จะมีทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ หรือ Reverse Mortgage

ปล่อยกู้ให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป

ใช้กรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมาเป็นหลักประกันขอสินเชื่อ โดยหลักประกันต้องอยู่ในแหล่งชุมชนที่มีความเจริญมีสาธารณูปโภคที่จำเป็น และห้ามนำหลักประกันไปให้เช่าต่อ

ที่ดินพร้อมอาคารกู้ได้ไม่เกิน 70% ของราคาประเมิน

ห้องชุดกู้ได้ไม่เกิน 60% ของราคาประเมิน

อัตราดอกเบี้ย 6% ตลอดสัญญากู้เงิน

กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 2 คน/สัญญา

ระยะเวลาให้กู้ไม่เกิน 20 ปี รวมอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 85 ปี

กรณีที่ผู้กู้เสียชีวิตให้สิทธิทายาทซื้อหรือกู้เพื่อเอาหลักประกันคืนได้

ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน บอกว่า ช่วงแรกจะมีโครงการนำร่องในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน และกำหนดวงเงินไว้ 5,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ธนาคารยังมีสินเชื่อลูกกตัญญูที่ดูแลบุพการี และสินเชื่อธนาคารประชาชนที่ให้กู้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป แต่ยังประกอบอาชีพค้าขาย สามารถยื่นขอสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษได้จนถึงอายุ 70 ปี

โครงการเงินฝากเพื่อผู้สูงอายุ ซึ่งที่ผ่านมามีเงินฝากเผื่อเรียกประชารัฐผู้สูงวัย ไม่หักภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก เน้นรับเงินฝากจากผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ให้ดอกเบี้ย 1% รับดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง ณ วันที่ 30 มิ.ย. และ 31 ธ.ค.ของทุกปีอีกด้วย โดยเงื่อนไขการรับฝากเงินคือ ต้องเปิดบัญชีขั้นต่ำ 100 บาท รับฝากสูงสุดไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท เปิดบัญชีได้คนละ 1 บัญชี และเปิดให้ถอนเงินวันละกี่ครั้งก็ได้

เห็นแบบนี้แล้วน่าจะช่วยให้วัยเกษียณสบายใจขึ้นมาบ้าง