ลุยธุรกิจรับส่งกระเป๋า เจาะตลาดเที่ยวเองโต

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทย 32.5 ล้านคน และปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายว่าจะมี 35 ล้านคน จึงเป็นโอกาสของผู้ทำธุรกิจที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวในการเติบโตไปตามภาพรวมของประเทศ

อานันท์ ประเสริฐรุ่งเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์พอเทลล์ เปิดเผยว่า ได้เริ่มจัดตั้งบริษัทเมื่อเดือน ต.ค. 2558 แต่เริ่มดำเนินการจริงกลางปี 2559 จุดเริ่มต้นของธุรกิจไม่ได้มาจากการเห็นโอกาสของธุรกิจลักษณะนี้ในต่างประเทศแล้วต้องการทำบ้าง แต่เป็นเพราะเห็นปัญหาของนักเดินทางที่เจออยู่เป็นประจำ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวมาก่อน มักจะเจอปัญหาการจัดการสัมภาระของนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่มีกระเป๋าใบใหญ่

ในต่างประเทศนั้นมีตู้เก็บสัมภาระอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ไว้อำนวยความสะดวก แต่เมื่อศึกษาพฤติกรรมนักท่องเที่ยวพบว่า เมื่อลูกค้าเช็กเอาต์จากโรงแรมหากต้องแบกสัมภาระไปฝากไว้ในตู้เก็บสัมภาระที่สถานีรถไฟฟ้าเพื่อไปทำธุระหรือไปเที่ยวแล้วกลับมารับสัมภาระที่ฝากไว้ก็เสียเวลาอยู่ดี จึงควรมีขั้นตอนที่ลดระยะเวลาทำให้สัมภาระไปรอถึงสนามบินเลย

ด้วยเหตุนี้จึงริเริ่มจัดทำบริการขนส่งสัมภาระกระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยว โดยเริ่มจากจัดตั้งเคาน์เตอร์รับ-ส่งกระเป๋าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นที่แรก เพื่อให้บริการขนส่งกระเป๋าจากสนามบินไปยังที่พักและจากที่พักมายังสนามบิน ซึ่งเป็นทางเลือกทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงสนามบินแล้วอยากไปเที่ยวก่อนแล้วค่อยไปเช็กอินที่โรงแรมหลังเที่ยวเสร็จไม่ต้องลำบากนำสัมภาระไปฝากไว้ที่โรงแรมก่อนแล้วค่อยไปเที่ยว ขณะที่กลุ่มที่เช็กเอาต์จากที่พักก็ฝากกระเป๋าไว้กับที่พักเพื่อส่งมายังสนามบินได้เลย จากนั้นไปเที่ยวต่อได้ก่อนมาสนามบิน โดยไม่ต้องกลับไปรับกระเป๋าที่โรงแรมให้เสียเวลา

รูปแบบการให้บริการจะมีทั้งลงทะเบียนใช้บริการผ่าน www.airportels.asia โทรศัพท์ไปจองบริการผ่านคอลเซ็นเตอร์ หรือจองใช้บริการผ่านไลน์และวีแชท จากนั้นก็แจ้งรายละเอียดว่าจะฝากกระเป๋าจากที่ไหนไปส่งที่ไหนมีค่าบริการ 350 บาท/กระเป๋า 1 ใบ ปัจจุบันมีเคาน์เตอร์รับส่งกระเป๋า 2 จุดคือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถรับและส่งกระเป๋าจากจุดเหล่านี้ไปยังที่พักหรือสนามบินได้ ส่วนปลายเดือน เม.ย.นี้ จะขยายเคาน์เตอร์รับส่งกระเป๋าเพิ่มที่ท่าอากาศยานดอนเมือง

อานันท์ กล่าวว่า ปีนี้จะใช้งบลงทุน 20-30 ล้านบาท เพื่อขยายเคาน์เตอร์ให้บริการและพัฒนาแพลตฟอร์มให้เป็นมิตร ลูกค้าใช้งานง่ายขึ้น โดยหลังขยายเคาน์เตอร์ปฏิบัติการที่ดอนเมือง ก็จะเริ่มขยายบริการออกนอกกรุงเทพฯ ไปสู่เมืองท่องเที่ยวหลักอื่น ได้แก่ จ.ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา พร้อมเพิ่มบริการรับส่งกระเป๋าแบบข้ามจังหวัด เช่น จากที่พักในกรุงเทพฯ ไปยังที่พักในภูเก็ต ช่วยให้ผู้ใช้บริการสะดวกไม่ต้องแบกสัมภาระขึ้นเครื่องบินไปด้วย

“การให้บริการนี้เป็นการตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้บริการที่เดินทางด้วยสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์ส) ซึ่งมักมีข้อจำกัดต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าแยกต่างหาก โดยบริษัทจะนำเสนอจุดแข็งว่าไม่ได้มีแค่ความสะดวกสบาย แต่มีเรื่องความปลอดภัยระหว่างขนส่งด้วย กลุ่มเป้าหมายหลักคือคนอายุ 25-45 ปี รองลงมา คืออายุ 45-60 ปี ซึ่งไม่ใช่กลุ่มที่แบกเป้เที่ยว (แบ็กแพ็กเกอร์) แต่เดินทางมากับเพื่อน คู่รัก หรือครอบครัว เป็นนักธุรกิจ หรือผู้สูงอายุที่มีสัมภาระมาก”

อย่างไรก็ตาม การคิดค่าบริการขนส่งกระเป๋าระหว่างจังหวัดจะสูงกว่าค่าบริการขนส่งกระเป๋าในจังหวัดเดียวกัน ปัจจุบันกำลังศึกษาอัตราที่เหมาะสม และอนาคตหลังขยายบริการรับส่งข้ามจังหวัดแล้ว คงจะไปสู่การรับส่งสัมภาระระหว่างประเทศด้วย โดยจะจับมือกับพันธมิตรที่ให้บริการในลักษณะเดียวกันที่อยู่ในต่างประเทศ เช่น ไต้หวัน จีน และญี่ปุ่น

“บริการขนส่งกระเป๋าข้ามจังหวัดน่าจะเปิดตัวได้พร้อมๆ กับการเปิดตัวเคาน์เตอร์ที่ภูเก็ตใน 3 เดือนจากนี้ ขณะที่เคาน์เตอร์ที่เชียงใหม่น่าจะเปิดได้ใน 6 เดือนจากนี้”

อานันท์ ระบุว่า 3-5 ปีข้างหน้าตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการขนส่งสัมภาระที่มีความน่าเชื่อถือในสายตาของนักเดินทาง สามารถขยายตัวในตลาดโลจิสติกส์และท่องเที่ยว ทำให้การเดินทางสะดวกและครบวงจรขึ้น โดยมองว่านอกจากรองรับตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเองและต้องการลดภาระแบกสัมภาระเอง ก็สามารถขยายบริการโลจิสติกส์นี้ให้ตอบโจทย์กลุ่มอื่นได้ด้วย เช่น ส่งของจากห้างสรรพสินค้าไปยังที่บ้าน คาดว่าบริการเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ภายในปีนี้แน่นอน เพราะปัจจุบันอยู่ระหว่างหารือพันธมิตรกลุ่มศูนย์การค้า เพื่อขยายเคาน์เตอร์ให้บริการในศูนย์การค้าเพิ่ม

ขณะเดียวกันปีนี้คาดหวังผลักดันผู้ใช้บริการให้ถึง 5 หมื่นคน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งมีผู้ใช้บริการกว่า 1 หมื่นคน ปัจจัยสำคัญมาจากการมีจุดให้บริการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสนามบินดอนเมือง ขณะที่ปีที่ผ่านมาเริ่มเปิดให้บริการเพียงครึ่งปีเท่านั้น เริ่มจากมีเคาน์เตอร์เพียงแห่งเดียวที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนเคาน์เตอร์ที่เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ เพิ่งเริ่มเปิดเมื่อเดือน ต.ค. ดังนั้นจึงมีส่วนช่วยผลักดันยอดใช้บริการเพียง 2 เดือนสุดท้าย

นี่แค่ก้าวแรกของแอร์พอเทลล์ หลังจากนี้ธุรกิจน่าจะขยายตัวอีกมาก เพราะความต้องการรับฝากสัมภาระน่าจะโตตามความต้องการของคนที่อยากสะดวกสบายระหว่างเดินทางมากขึ้น