สุพรีมสามเสนทุ่มพันล้านผุดคอมมูนิตีมอลล์

ซุปไก่สกัดสก๊อต ขยายไลน์ธุรกิจสู่อสังหาริมทรัพย์ ทุ่ม 1,200 ล้านบาทผุด สุพรีม คอมเพล็กซ์ คอมมูนิตีมอลล์ อาคารสำนักงาน และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์

นายสมโภช ชวาลเวชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุพรีม สามเสน ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจซุปไก่สกัด และอาหารเสริมสุขภาพจากรังนก ตราสก๊อต เปิดเผยว่า
บริษัทได้ขยายไลน์ธุรกิจที่สองสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่ทำธุรกิจอาหารเสริม มานาน 27 ปี โดยได้ใช้ทุ่มงบ 1,200 ล้านบาท ก่อสร้างสุพรีม คอมเพล็กซ์
ตั้งอยู่ ปากซ. สามเสน 28 บนเนื้อที่ 5 ไร่ โครงการดังกล่าวเป็นอาหาร สูง 16 ชั้น ขณะนี้ก่อสร้างเสร็จสมบรูณ์แล้ว

ทั้งนี้ภายในโครงการประกอบด้วยคอมมูนีมอลล์ 8,000 ตารางเมตร มีผู้เช่าพื้นที่แล้ว 90% จะเปิดให้บริการ 23 ก.ยนี้ ส่วนที่สองเป็นสำนักงานให้เช่า 4,000
ตารางเมตร อัตราค่าเช่า 400-500 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งจะย้ายสำนักงานของบริษัท สก๊อต มาอยู่ที่นี่ด้วย ขณะที่พื้นที่ส่วนที่เหลือจะเน้นผู้เช่าไปยังกลุ่มโรงเรียน
กวดวิชา สถาบันสอนภาษา และพื้นที่ส่วน เซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ พื้นที่รวม 4,800 ตารางเมตร แบ่งเป็นจำนวน 31 ห้อง โดย จะคิดอัตราค่าเช่า 1.5 หมื่นบาท -2.5
หมื่นบาทต่อเดือน คาดว่าทั้งสองส่วนจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้

"เหตุผลที่มาทำธุรกิจประเภทอสังหาฯ เนื่องจากที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินที่อยู่มาตั้งแต่เกิด และได้ก็ทำการซื้อที่ดินเพิ่ม จนรวมเป็น 5 ไร่ บริเวณดังกล่าวถือว่าเป็นแปลงที่ดินที่มีศักยภาพ เพราะจะอยู่ใกล้กับรัฐสภาแห่งใหม่ที่จะก่อสร้างเสร็จ ใกล้กับโรงเรียนประถม และมัธยมที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในย่านสามเสน เช่นโรงเรียนเซนคาเบรียล เซ็นต์ฟรังก์ ราชินีบน ขณะที่คอมมินีมอลล์ รูปแบบนี้ในย่านสามเสน ยังไม่มี" นายสมโภชกล่าว

สำหรับในช่วงเปิดตัวบริษัทจะใช้งบจำนวน 20 ล้านบาทในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อและกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยเป้าหมายหลักนั้นเป็นกล่มครอบครัวที่อยู่ในย่านสามเสน  กลุ่มผู้ปกครองที่ต้องคอยบุตรหลานและมารับบุตร  ซึ่งในย่านนี้มีประชากร 8 แสนคน ในระยะทาง 5 กม. คาดว่าจะมีการซื้อต่อครั้งประมาณ 500 บาท และจะซื้อไม่ต่ำกว่าวันละ 4-5 ครั้ง  คาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 6-7 ปี โดยคาดว่าปีแรกจะมีรายได้ 150 ล้านบาท

นายสมโภช กล่าวว่าการดำเนินธุรกิจที่ดี จะต้องมีสามขา ธุรกิจจึงจะถือว่ามั่นคง โดยธุรกิจอาหารเสริมสก๊อตนั้น ถือว่ามั่นคง ในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้ 2,100 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 20% ส่วนธุรกิจอสังหาฯนั้น ขึ้นอยู่กับทำเล ซึ่งไม่ได้เร่งรีบว่าจะต้องมีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็ ต้องการจะดำเนินธุรกิจในรูปแบบอื่นต่อ คือธุรกิจอินเตอร์เทรด เช่นผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก หรือนำเข้า รวมไปถึงการร่วมหุ้นกับต่างประเทศ เพื่อรับกับการเปิดเสรีทางการค้า คาดว่าจะเริ่มได้ภายใน 4-5 ปีข้างเนื่องจากต้องรอพิจารณาว่าธุรกิจอสังหาฯ ที่ดำเนินอยู่นี้ว่าไปได้ดีเพียงใด