กรุงเทพประกันปรับสินค้าใหม่ รับมือทิศทางดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่อง

กรุงเทพประกันชีวิตรับมือดอกเบี้ยยืนระดับต่ำต่อเนื่อง ปรับสินค้าขายผ่านแบงก์เน้นความคุ้มครองจากสะสมทรัพย์

นายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต เปิดเผยว่า ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ในระดับต่ำ และยังอยู่ในสถานการณ์นี้อีกนาน โดยอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 10 ปี จะเริ่มปรับตัวขึ้นมาบ้าง จาก 1.5% มาอยู่ที่ 2.7-2.8% และคาดว่าจะไม่ปรับตัวสูงขึ้นกว่านี้อีก ทำให้บริษัทต้องทบทวนและปรับปรุงสินค้าใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ในระยะยาว

โดยเฉพาะการขายผ่านช่องทางธนาคารที่ปัจจุบันกว่า 80% เป็นแบบประกันสะสมทรัพย์ จะปรับไปเป็นสินค้าที่เน้นความคุ้มครองชีวิตเป็นหลัก ซึ่งบริษัทประกันชีวิตทุกแห่งต่างหันมาในทิศทางนี้

นอกจากนี้ จะมีการปรับสัดส่วนอายุกรมธรรม์ให้เกิดความสมดุลมากขึ้น โดยเป็นกรมธรรม์ระยะสั้นอายุไม่เกิน 5 ปี มีสัดส่วน 30% กรมธรรม์ระยะกลางอายุ 10 ปี สัดส่วน 30% และกรมธรรม์ระยะยาว 30% ที่เหลือจะเป็นแบบอื่นๆ โดยจะเน้นสินค้าสุขภาพและบำนาญ เพื่อรองรับสังคมสูงอายุ และค่าใช้จ่ายด้านค่ารักษาพยาบาลที่จะสูงขึ้นปีละ 6-7%

"กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูงและอายุสูงด้วย จะชอบแบบประกันที่อายุสั้นๆ คนวัยทำงานจะชอบแบบค่อยๆ สะสมเพื่ออนาคต จึงต้องวางสัดส่วนและแบบประกันให้เหมาะสม เพื่อให้เหมาะกับลูกค้าและบริษัทในระยะยาว" นายวิพล กล่าว

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ตั้งเป้าเบี้ยรับปีแรกหรือเบี้ยลูกค้าใหม่เติบโต 17% จากปี 2559 ที่ทำได้ 1.11 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขเดิมที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี เน้นการตอกย้ำการเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับประชาชนอย่างรอบด้าน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตัวแทนที่มี 1.4 หมื่นคนให้สูงขึ้น และผลักดันการพัฒนาธุรกิจประกันภัยผ่านดิจิทัล

สำหรับการลงทุนในปี 2560 ยังคงรักษาสัดส่วนเดิม จากสินทรัพย์ลงทุนปี 2559 จำนวน 2.7 แสนล้านบาท มีการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน รวม 80% ในหุ้น 6.5% ซึ่งยังไม่เต็มเพดานที่วางไว้ 10% ลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานอีกประมาณ 5% ที่เหลือเป็นอื่นๆ โดยปี 2560 คาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนจะทำได้ 4.5-5% ลดลงจากปี 2559 ที่ทำได้ 5.2% จากราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น

"เงินใหม่ที่จะเข้ามาในปีนี้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท จะยังกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ 3 ส่วนนี้ ถึงแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 10 ปี จะปรับเพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากเงินก้อนเก่าซึ่งเป็นเงินส่วนใหญ่ได้มีการลงทุนไปแล้ว ทำให้กำไรจากการลงทุนไม่ได้เพิ่มขึ้นทันที" นาย วิพล กล่าว

นายวิพล กล่าวว่า นอกจากนี้จะมีการสร้างรากฐานระบบงานเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการสนับสนุนการขายที่พัฒนากระบวนการการทำงาน บริหารต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการดำเนินงานและการบริหาร