แนะแก้โรงแรมไทย ติดกับดักราคาห้องพักต่ำ

โดย...จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

หากดูสถิติราคาห้องพักที่ประเทศไทยทำได้ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก็จัดอยู่ในกลุ่มท้ายๆ ของประเทศในเอเชียด้วยกัน และก็ยังไม่มีแววว่าจะขยับขึ้นมาเป็นผู้นำทำราคาห้องพักได้ดีระดับต้นๆ เลย ทั้งที่การท่องเที่ยวเติบโตดีมากๆ

ไพสิฐ แก่นจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเซท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า หากไทยต้องการหลุดพ้นจากกลุ่มประเทศราคาห้องพักต่ำสุดในภูมิภาคไปสู่ประเทศที่ทำราคาห้องพักได้สูงๆ ภาครัฐต้องจำกัดการสร้างโรงแรมใหม่ โดยใช้เกณฑ์อัตราเข้าพักของโรงแรมที่มีอยู่เดิมเป็นตัวพิจารณา ถ้าโรงแรมที่มีอยู่ทำอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีเกิน 80% ได้ แปลว่าความต้องการผู้เข้าพักมากขึ้น จึงค่อยอนุญาตให้เปิดโรงแรมเพิ่มได้ และควรต้องมีผู้กำหนดโควตาว่าจะอนุญาตให้สร้างพื้นที่ใดบ้าง จำนวนกี่ห้อง และพื้นที่ใดไม่อนุญาตให้สร้างเพิ่มเพราะมีห้องพักมากแล้ว

ทั้งนี้ พิจารณาตัวอย่างจากฮ่องกง สิงคโปร์ หรือสหราชอาณาจักร พื้นที่ในเมืองประเทศเหล่านี้จะบังคับว่าถ้าอัตราเข้าพักโรงแรมที่มีอยู่ยังไม่เกิน 80% จะไม่ให้สร้างโรงแรมใหม่ เพราะอัตราเข้าพัก 80% เป็นเครื่องสะท้อนความแข็งแรงของความต้องการห้องพัก ส่วนไทยไม่ได้จำกัดเลย ปล่อยให้สร้างโรงแรมใหม่ได้เรื่อยๆ พอโรงแรมใหม่เปิดบริการก็แข่งกันลดราคาเรียกลูกค้า ทำให้โรงแรมเก่าขึ้นราคาไม่ได้ เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ไทยจึงติดกับดักราคาห้องพักอยู่ในกลุ่มต่ำสุดในภูมิภาคไปตลอด และยังทำให้ผลตอบแทน การลงทุนโรงแรมต่ำลงเรื่อยๆ

เช่นเดียวกับ สุวรรณา พุทธประสาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล แอนด์ เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล กล่าวว่า ไทยคงต้องติดกับดักกลุ่มประเทศราคาห้องพักต่ำเกือบสุดในภูมิภาคอีกนาน เพราะมีโรงแรมมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซ้ำยังมีกลุ่มโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตให้บริการกดดันอีกทางทำให้โรงแรมที่มีอยู่ขยับราคาขึ้นไม่ได้ หากไทยอยากหลุดกับดักนี้ต้องจำกัดการเพิ่มห้องพักใหม่ๆ ซึ่งการเข้มงวดให้โรงแรมที่เปิดบริการต้องมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่คอนโดมิเนียมก็เปิดขายรายวันเหมือนโรงแรมได้ ก็เป็นส่วนหนึ่งช่วยจำกัดได้

“ในสิงคโปร์และฮ่องกง การหาที่ดินทำโรงแรมเป็นเรื่องยากและประเทศเหล่านี้เป็นศูนย์กลางการเงิน มีคนไปเที่ยวและไปเพื่อธุรกิจสูง ทำให้ขึ้นราคาห้องพักได้สูง ส่วนไทยเฉพาะในกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีพื้นที่มาก และไม่ใช่ศูนย์กลางการเงิน จึงไม่มีผู้เข้าพักกลุ่มหลักที่ขับเคลื่อนให้ขึ้นราคาได้ ซ้ำยังมีโรงแรมเต็มไปหมด มีโรงแรมไม่มีใบอนุญาตด้วย จึงทำราคาสูงขึ้นยาก”สุวรรณา กล่าว

อย่างไรก็ตาม วิจิตร ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ โรงแรมเดอะ สเลท ภูเก็ต กล่าวว่า การจำกัดจำนวนห้องพักในไทยไม่ให้มากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไทยมีเป็นเรื่องยาก เพราะกฎหมายปัจจุบันไม่ได้จำกัด ใครทำถูกต้องตามเงื่อนไขอาคารประเภทโรงแรมก็ขออนุญาตได้ และหากรัฐจะออกกฎหมายใหม่มาเพื่อจำกัดโควตาสร้างห้องพักใหม่หลังจากนี้ก็คงไม่เหมาะกับทิศทางตลาดท่องเที่ยวที่เปลี่ยนเร็ว

“ถ้ารัฐมีกฎหมายเฉพาะเพื่อควบคุมการสร้างห้องพักใหม่ก็เหมือนไปแทรกแซงตลาด ซึ่งตลาดเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขณะที่กฎหมายออกมาแล้วแก้ไขยาก ถ้าออกกฎหมายมาแล้วตลาดเปลี่ยนจะเสียประโยชน์มากกว่าได้ จึงมองว่าการกำหนดโควตาสร้างห้องพักใหม่ควรมาจากภาครัฐมีกลไกลให้ข้อมูลที่ชัดเจนแม่นยำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจถูกต้อง” วิจิตร กล่าว

สิ่งที่อยากให้รัฐบาลทำคือ ส่งเสริมการเจาะตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ ซึ่งไม่ได้หมายถึงกลุ่มที่พักโรงแรมราคาสูงๆ อย่างเดียว กลุ่มที่พักโรงแรม 2-3 ดาวก็มีคุณภาพได้ถ้าใช้จ่ายดี หากผู้ประกอบการร่วมกันเจาะกลุ่มคุณภาพมากขึ้น ก็จะทำให้ราคาห้องพักเฉลี่ยขยับขึ้นตามเอง ที่สำคัญรัฐต้องประชา สัมพันธ์ข้อมูลที่ชัดเจนให้ทั่วถึงว่า ปัจจุบันสนามบินแต่ละแห่งจะเพิ่มกำลังรับนักท่องเที่ยวได้อีกแค่ไหน ชี้แจงส่วนแบ่งตลาดนักท่องเที่ยวแต่ละภูมิภาคที่มาให้ชัด และตัวเลขนักท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาต้องออกมารวดเร็ว ถูกต้อง ทันเวลา เพราะถ้าตัวเลขนักท่องเที่ยวที่นำเสนอสูงเกินจริง จะทำให้นักลงทุนไขว้เขวเข้ามาลงทุนกันมากเกินความต้องการจริง

เหล่านี้คือแนวคิดของผู้ที่คร่ำหวอดในวงการโรงแรมเสนอทางแก้เพื่อช่วยไทยหลุดกับดักราคาห้องพักต่ำ