คีย์การ์ด…กุญแจสำคัญ ของการอยู่อาศัยร่วมกัน

โดย...สมศรี เตชะไกรศรี

คีย์การ์ดแผ่นพลาสติกบางๆ ขนาดเท่านามบัตร แต่สามารถควบคุมการเข้าออกคอนโดได้ภายในแผ่นเดียว สะดวกสบาย ปลอดภัย และง่ายต่อการใช้งาน แต่น่าแปลกใจที่หลายๆ คนมักไม่ชอบพกพา ทำให้บางครั้งประสบปัญหาจึงต้องอาศัยคีย์การ์ดคนอื่นเข้าไปในคอนโด และนั่นอาจเป็นที่มาของอาชญากรรมจากมิจฉาชีพได้ง่ายๆ

จริงอยู่ที่ระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโดหลายๆ ที่ ทำให้ทุกคนมั่นใจได้ว่าคุณสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างปลอดภัย แต่อย่าลืมว่าคีย์การ์ดก็เป็นระบบรักษาความปลอดภัยอันดับต้นๆ ของเราด้วยเช่นกัน ฉะนั้นการพกคีย์การ์ดติดตัวไว้ใช้ตลอดเวลา จึงถือเป็นอีกหนึ่งการควบคุมดูแลให้คอนโดที่คุณอยู่เป็นชุมชนน่าอยู่และปลอดภัยแบบไร้กังวล เพราะถึงแม้การเข้าออกของผู้คนส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของร่วมผู้อยู่อาศัยในโครงการ แต่สังคมคอนโดก็ยังคงมีผู้คนมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนกันเข้าออกอยู่เสมอ ทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็นผู้เช่า ญาติ เพื่อน พนักงานซ่อมบำรุงโน่นนี่ คนส่งของสารพัด หรือพนักงานบริการ
เดลิเวอรี่ เป็นต้น ซึ่งหากเราใจดีช่วยเปิดประตูให้ใครที่คิดว่า คือเพื่อนบ้าน หรือใครก็ไม่รู้ แต่เห็นว่าน่าจะอยู่ในโครงการเดียวกัน เป็นการแสดงน้ำใจเล็กๆ ก็อาจเป็นเรื่องดีและร้ายได้ในเวลาเดียวกัน

เพื่อความปลอดภัยในการอยู่อาศัย ดังนั้นเวลาเข้าออกคอนโด จึงควรใช้คีย์การ์ดของตัวเองเสมอ และปิดประตูให้สนิททุกครั้งก่อนเดินจากไป เพื่อป้องกันบุคคลภายนอกที่อาจลักลอบเข้าไปประสงค์ร้ายถึงพื้นที่ส่วนตัวภายใน รวมถึงไม่ควรฝาก วาน หรือให้ใครลงมารับส่งของด้านล่างแทนตัวเอง เพราะนอกจากป้องกันการรับส่งที่ผิดพลาดแล้ว ยังช่วยระมัดระวังเหตุร้ายไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการรับฝากของพัสดุไปรษณีย์ หรืออาหารเดลิเวอรี่ก็ตามที เว้นแต่ในกรณีที่เจ้าของร่วมผู้อยู่อาศัยไม่สามารถลงมารับส่งของได้ด้วยตัวเอง และต้องการให้บุคคลภายนอกเข้าไปพบภายในจริงๆ เพื่อความปลอดภัยก็ควรให้ผู้ที่จะเข้ามาพบแลกบัตรประจำตัวกับเจ้าหน้าที่ รปภ.ทุกครั้งก่อนขึ้นไป

ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้หลายท่านอาจคิดว่า “กังวลมากเกินไปหรือเปล่า?” แต่เพื่อความปลอดภัยควรป้องกันไว้ก่อน จะได้เป็นการดูแลตัวเองและชุมชนที่อยู่อาศัย เพราะคีย์การ์ดเป็นกุญแจสำคัญของการอยู่อาศัยร่วมกัน เชื่อว่าแค่ทุกคนพกคีย์การ์ดติดตัวอยู่ตลอด ...ทุกเหตุปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าจะทำให้เกิดปัญหาหนัก หรือเบา ก็จะสามารถควบคุมได้ เหมือนสุภาษิตที่ว่า “กันไว้ดีกว่าแก้ ดีกว่าวัวหายแล้วล้อมคอก”