หุ้นฮาลาล ถูกต้องตามหลักศาสนา

ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2559 มีบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อยู่ทั้งหมด 522 บริษัท และในตลาด mai อีก 134 บริษัท รวมทั้งหมด 656 บริษัท แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า หุ้นตัวไหนบ้างที่เป็น “หุ้นฮาลาล” ที่นักลงทุนมุสลิมสามารถลงทุนได้

เพราะกว่าจะได้ชื่อว่าเป็น “หุ้นฮาลาล” ไม่ได้ดูเพียงแค่ว่ามีการดำเนินธุรกิจที่ไม่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม เช่น ไม่เกี่ยวข้องกับสุรา ดอกเบี้ย การพนัน สุกร หรือสิ่งฮารอมต่างๆ เท่านั้น

แต่การลงทุนในหุ้นตามหลักชะรีอะฮ์ จะมีกระบวนการการกลั่นกรอง โดยคณะกรรมการชะรีอะฮ์ เพื่อตัดสินว่า “หุ้นของบริษัทใดสามารถลงทุนได้ตามหลักชะรีอะฮ์”

หากอ้างอิงจากกระบวนการคัดเลือกของ KTBST - Islamic Wealth Management บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) หลังจากคัดกรองหุ้นที่ดำเนินธุรกิจที่ฮารอมออกไปแล้ว จะคัดกรองจากข้อมูลทางการเงินอีกชั้นหนึ่ง โดยใช้หลักสากลของ 2 สถาบัน คือ

หลักเกณฑ์สากลของตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย(SC Malaysia)

หลักเกณฑ์ของประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง (AAIOFI)

อิสเรศ มะหะหมัด ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการลงทุนส่วนบุคคล 3 บล.เคทีบี(ประเทศไทย) บอกว่า หลังจากคัดกรองออกมาแล้วจะได้หุ้นที่ผ่านหลักเกณฑ์ AAIOFI ทั้งหมด 127 บริษัท และผ่านหลักเกณฑ์ของ SC Malaysia มีอยู่ 545 บริษัท

“หลักเกณฑ์ของประเทศตะวันออกกลางจะเข้มงวดมากกว่าหลักเกณฑ์ของมาเลเซียโดยเฉพาะในประเด็นรายได้จากดอกเบี้ย เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพสังคม จึงมีหุ้นที่เข้าหลักเกณฑ์มากกว่า” อิสเรศ กล่าว

ขณะที่ เกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บอกว่า บริษัทที่ใช้ในการคำนวณดัชนี FTSE SET Shariah Index เมื่อปี 2559 อยู่ที่ 111 บริษัท

“111 บริษัท ที่ใช้ในการคำนวณดัชนี FTSE SET Shariah Index ในปี 2559 ได้ผลตอบแทนประมาณ 30% มากกว่า 600 บริษัท ในดัชนี SET Index ที่มีผลตอบแทน 20%” เกศรา กล่าว

อิสเรศ บอกว่า “ถ้าเป็นนักลงทุนรายย่อย ไม่สามารถเข้าไปดูรายชื่อหุ้นที่เป็นองค์ประกอบของ FTSE SET Shariah Index ได้” แต่ถ้าเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นตามหลักศาสนาอิสลามกับบล.เคทีบี (ประเทศไทย) จะรู้ได้ทันทีว่ามีหุ้นอะไรบ้างที่เป็น “หุ้นฮาลาล”

นอกจากนี้ ยังให้บริการบัญชีซื้อขายหุ้นที่ปราศจากดอกเบี้ยอีกด้วย

หรือถ้าไม่ต้องการลงทุนด้วยตัวเองก็ยังมีทางเลือกที่จะลงทุน “หุ้นฮาลาล” ได้อีก 2 ช่องทางคือ

1.ลงทุนผ่านกองทุนรวม

ในปัจจุบันมีกองทุนรวมที่คัดเลือกหุ้นตามหลักศาสนาอิสลามอยู่ 4 กองทุน ได้แก่

กองทุนวรรณ กองทุนคุณธรรม (ชะรีอะห์) หุ้นระยะยาว (ONE-SHARIAHLTF) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ

กองทุนกรุงไทยชาริอะฮ์หุ้นระยะยาว (KSLTF) และกองทุนกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KSRMF) บลจ.กรุงไทย

กองทุนเอ็มเอฟซีอิสลามิกหุ้นระยะยาว (MIF-LTF) บลจ.เอ็มเอฟซี

2.ใช้บริการซื้อขายอัตโนมัติ

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดบริการซื้อขายอัตโนมัติ (Islamic Smart Algo Trade) ซึ่งมีให้เลือก2 กลยุทธ์ ได้แก่

HIT N’ RUN (Shariah) เป็นกลยุทธ์การลงทุนแบบผสมผสาน เมื่อราคาหุ้นอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น กลยุทธ์จะหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นในช่วงที่ราคาหุ้นย่อลงในระยะสั้น และขายทำกำไรเมื่อหุ้นดีดตัวขึ้นไป

Bright Infinite (Shariah) เป็นกลยุทธ์การลงทุนตามแนวโน้ม โดยอาศัยเครื่องมือทางเทคนิค โดยจะเข้าซื้อหุ้นที่อยู่ในช่วงขาขึ้นในช่วงที่ตลาดมีสภาพเหมาะสมแก่การเข้าซื้อหุ้น และหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นบน Intraday-Timeframe ระบบจะขายหุ้นเมื่อโมเมนตัมของหุ้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

อิสเรศ บอกว่า ถ้าเทียบกับการลงทุนของ Smart Algo หุ้นทั่วไปแล้ว Islamic Smart Algo ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเล็กน้อย แต่ถ้าเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์แล้วชนะขาด

ในการลงทุนด้วยกลยุทธ์ Smart Algo จะมีหลักการ Stop Loss ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เพราะเป็นการปิดความเสี่ยง

แต่ศาสนาอิสลามห้ามการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เนื่องจากไม่ได้มีทรัพย์สินจริงรองรับ เป็นแค่การอ้างอิงมูลค่าจากทรัพย์สิน หรือ จากหุ้นเท่านั้น

“เรียกได้ว่าเป็นการพนันชนิดหนึ่งที่เอาไว้แทงขึ้นหรือแทงลงเท่านั้น นอกเสียจากการใช้ TFEX เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงอย่างแท้จริง (Hedging)” อิสเรศ แนะนำ

แถมท้ายให้อีกอย่างหนึ่ง คือ การลงทุนในตราสาร “ศุกูก” (Sukuk) ในภาษาอาหรับ แปลว่า ใบรับรองทางการเงิน (Financial Instruments) ซึ่งเป็นตราสารการเงินที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ไม่อยู่ในรูปของดอกเบี้ย ไม่เกี่ยวพันกับธุรกิจต้องห้ามต่างๆ

นอกจากนี้ ผลตอบแทนจากการลงทุนจะมาจากการมีส่วนร่วมในธุรกรรมและรับความเสี่ยงร่วมกัน เช่น การให้เช่าทรัพย์สิน ว่าจ้างทำของ ว่าจ้างให้บริหารจัดการเงินลงทุน ฯลฯ ตามหลักชะรีอะฮ์

แต่ในประเทศไทยยังหาตราสารศุกูกเพื่อลงทุนได้ยาก ถ้าต้องการลงทุนต้องใช้บริการกองทุนส่วนบุคคล เพื่อออกไปลงทุนศุกูกในต่างประเทศ

และแม้ว่าจะไม่ใช่มุสลิม ก็สามารถลงทุนหุ้นฮาลาล กองทุนชะรีอะฮ์ หรือศุกูก ได้เช่นเดียวกัน เพราะ อณัส อมาตยกุล คณะกรรมการชะรีอะฮ์ KTBST - Islamic Wealth Management บอกว่าการลงทุนที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม เป็นการลงทุนที่สอดคล้องกับวิถีธรรม ซึ่งเป็นหลักศีลธรรมที่มีอยู่ในทุกศาสนา