เจมาร์ทลุยฟินเทคเสริมทัพ

โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย 

ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของเจมาร์ทครั้งใหญ่ สำหรับการประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจผันตัวเองเป็นบริษัทโฮลดิ้ง เพื่อลงทุนธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการต่อยอดธุรกิจก้าวเข้าสู่ธุรกิจฟินเทคของเจมาร์ท เพื่อรองรับกับเทรนด์อุตสาหกรรมการเงินไทยที่เข้ามามีบทบาทอย่างต่อเนื่อง    

อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท เจมาร์ท เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทวางงบลงทุน 7,700 ล้านบาท ขยายธุรกิจทั้งหมด 6 กลุ่ม ด้วยการผนึกกำลังธุรกิจในเครือ พร้อมกับนำข้อมูลลูกค้า 5 ล้านรายต่อยอดธุรกิจ เพื่อผลักดันรายได้โดยรวมให้เติบโต 30% หรือราว 1.35 หมื่นล้านบาทในปี 2560 พร้อมกับวางเป้าหมาย ปี 2562 จะมีรายได้ 1.98 หมื่นล้านบาท

สำหรับธุรกิจที่บริษัทเปิดใหม่และคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ในอนาคตคือ บริษัท เจ ฟินเทค ดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล ในไตรมาสแรกเปิดตัวแอพพลิเคชั่น J – Fintech และ 6 เดือนข้างหน้าจะเปิดระบบโอนเงิน-รับ อี-เพย์เมนต์ อี-วอลเล็ตบนโทรศัพท์มือถือ ส่วนปี 2561-2563 ก้าวสู่ดิจิทัล อี-คอมเมิร์ซ ส่วน บริษัท เจ เวนเจอร์ส (J Ventures) เป็นบริษัทที่เน้นการลงทุนธุรกิจใหม่ ภายในปีนี้เจรจาซื้อกิจการประกันภัยและคอลเซ็นเตอร์มูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท 

ขณะที่ บริษัท เจมาร์ท โมบาย แนวโน้มตลาดโทรศัพท์มือถือยังเติบโตต่อเนื่อง เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงตลอด ผู้บริโภคต้องการใช้เครื่องมีคุณภาพสูงขึ้น แบรนด์ต่างๆ เปิดตัวรุ่นใหม่ เพื่อตอบสนองการใช้งาน คาดว่ามูลค่าตลาดมือถือปี 2560 เติบโต 10% หรือเพิ่มจาก 1.1 แสนล้านบาท เป็น 1.2 แสนล้านบาท 

ทั้งนี้ ทิศทางแข่งขันร้านค้าปลีกโทรศัพท์มือถือจัดโปรโมชั่นอย่างรุนแรง ในอนาคตดีลเลอร์รายเล็กทยอยหายไปจากตลาด สำหรับเจมาร์ท โมบาย ลงทุน 70 ล้านบาท ขยายสาขาธุรกิจในกลุ่มเพิ่มอีก 35 สาขา จากปีที่ผ่านมามี 205 สาขา พร้อมกับขยายไลน์ธุรกิจร้านขายกล้องถ่ายรูปเจคาเมร่า 10 สาขา จากปัจจุบันวางจำหน่ายเจมาร์ท 50 สาขา ขยายเพิ่มเป็น 100 สาขา ตั้งเป้า 3 ปีเป็นผู้นำตลาดแทนที่บิ๊กคาเมร่า

ด้านกลุ่มธุรกิจติดตามหนี้และบริหารหนี้ บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ลงทุน 1,560 ล้านบาท ซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเพิ่มอีก 3 หมื่นล้านบาท จากเดิมซื้อหนี้มาบริหารกว่า 1 แสนล้านบาท ส่งผลให้ปีนี้พอร์ตบริหารหนี้แตะ 1.4 แสนล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าหนี้ในครัวเรือนยังคงทรงตัว จากปัจจัยบวกผู้ซื้อรถคันแรกผ่อนหมดแล้วเปลี่ยนรถคันใหม่ทำให้มีหนี้เพิ่ม ส่วนไตรมาส 2 เปิดธุรกิจกัมพูชาในรูปแบบรับจ้างติดตามหนี้ระยะ 2 ปี จากนั้นใช้โมเดลเดียวกับไทยขยายรูปแบบการซื้อหนี้มาบริหาร

อดิศักดิ์ กล่าวว่า กลุ่มบริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท มี 4 กลุ่มธุรกิจ อาทิ การบริหารพื้นที่เช่าคอมมูนิตี้มอลล์เดอะแจส ร้านค้าปลีกไอที จังก์ชั่น เปิด 8 สาขา จากเดิม 52 สาขา เป็นต้น ส่วน บริษัท ซิงเกอร์ ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การจำหน่ายสินค้า ลดปัญหาหนี้สูญไม่เกิน 7% เปิดช็อปซิงเกอร์เพิ่มจาก 177 สาขา เป็น 200 สาขา และเพิ่มนักธุรกิจจาก 1 หมื่นราย เป็น 2 หมื่นราย ตั้งเป้ารายได้โต 68% สูงสุดรอบ 17 ปี

การแตกธุรกิจใหม่ ฟินเทคของเจมาร์ทมองว่าเป็นธุรกิจสร้างรายได้ในอนาคต จากปัจจุบันรายได้ 60-70% มาจากเจมาร์ท โมบาย กับธุรกิจบริหารหนี้